โค้ชส้ม Citrus
Miss. ปรีดิ์ฤทัย โค้ชส้ม ตั้งจิตญาณพัฒน์

สอนช่างให้เป็นวิทยากรมือใหม่ "Training the Trainers"


การออกมาพูดหน้าห้อง โดยระงับความตื่นเต้น จนไม่ตื่นเต้นต้องอาศัยเวทีฝึกฝนมาไม่น้อยสำหรับตนเอง

     เมื่อประมาณสองสัปดาห์ก่อนมีคนมาขอร้องให้ไปช่วยสอนหลักสูตร Training the Trainers  ให้กับกลุ่มบริษัทที่เป็นบริษัทร่วมทุนกับญี่ปุ่น ของกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์ ตอนนี้แม้จะไม่ได้รับผิดชอบงานนี้แล้ว เพราะตอนที่ย้ายงาน ได้ส่งมอบอุปกรณ์ประกอบการสอน รวมถึงเทคนิคการสอนให้กับคนที่มารับงานต่อไปแล้ว แต่คนที่มาติดต่อขอร้องว่าเขาหาคนสอน (ให้ฟรี) ไม่ได้ ก็เลยใจอ่อนเพราะชอบการสอนในหลักสูตรนี้

 

     หลังจากพูดคุยกับคนที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายแล้ว ก็บอกว่าครั้งนี้ไปช่วยให้ก่อนก็แล้วกัน ยังมีอีกหลายรุ่นค่อยว่ากันใหม่...

 

     จริงๆ แล้วเนื้อหาที่สอนจะเน้นไปที่การออกแบบและวางแผนการสอนให้เป็นแบบ Learner Centered หรือ Participative Learning มากกว่า ซึ่งได้แนวทางและอุปกรณ์การสอนมาจาก วิทยากรชาวฝรั่งเศสท่านหนึ่งที่ช่วยมาสอนพวกเราตอนที่ทำงานอยู่ที่ศูนย์อบรมส่วนกลาง โดยหัวหน้าใหญ่ต้องการปฏิรูปวิธีการฝึกอบรมให้เป็นแบบเน้นกิจกรรมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม ซึ่งตอนนั้นเราเป็นผู้รับผิดชอบงานโครงการนี้

 

     จำได้ว่าประมาณ 6 ปีมาแล้ว คนที่มาเข้าอบรมเกือบสิบคนเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ออกแบบหลักสูตร โปรแกรมการพัฒนาประเภทต่างๆ หลังจากฝึกหัดกันแล้ว การนำไปใช้ติดปัญหาที่เราหาวิทยากรที่จะยอมสอนตามหลักสูตรที่เราออกแบบได้ยากมาก ช่วงทดลองทำเลือดตาแทบกระเด็น ในขณะนั้นต้นฉบับบอกว่าจำนวนผู้เรียนต้องไม่เกิน 20 คนจึงจะดี ทำให้มีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันอย่างทั่วถึง

      ตัวเราเองนำมาทดลองทำกับหลักสูตรที่ตัวเองเป็นวิทยากร ปรากฏว่าทำให้สอนหนังสือสนุกขึ้น ผู้เรียนก็ชอบ เมื่อย้ายมาอยู่ที่ธุรกิจนี้ ก็พยายามนำมาเผยแพร่ แต่คนที่มาเรียนแล้วกลับไปจะนำไปใช้มีเพียง 1 ใน 10 ก็เหมือนกับกลุ่มพวกเราตอนเริ่มต้นเลย

      พูดถึงเมื่อวานตอนอาหารกลางวัน น้องที่เป็นวิศวกรรับผิดชอบโครงการพัฒนาวิทยากรคนหนึ่งมาถามว่า พี่สอนหนังสือมานานหรือยัง ทำยังไงเขาจึงจะสามารถพูดอย่างเป็นลำดับขั้นตอนได้บ้าง แล้วก็ถามถึงที่มาของวิธีการสอนในหลักสูตรนี้  เคล็ดลับที่ให้ไปมีเพียง ใจต้องมาก่อนว่าเราชอบอยากทำไหม เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ ไม่ต่อต้าน จากนั้นจึงทดลอง ศึกษา ค้นคว้า เก็บเล็กผสมน้อยจากสิ่งต่างๆ ที่ไปเห็นแล้วนำมายำผสมใหม่เป็นสูตรของเราเอง ที่ไม่เหมือนโปรแกรม Training the Trainers ที่ไหน  

     เช่นเดียวกันกับตอนที่ให้แต่ละคนลองมานำเสนออะไรก็ได้ ยิ่งดีที่กลุ่มนี้ไม่ยอมเตรียมตัวมาก่อน ทำให้เห็นธรรมชาติที่แท้จริงของแต่ละคน และที่ตัวเองประหลาดใจก็คือ มีอยู่คนหนึ่งตอนนั่งเรียน ดูเหมือนไม่ค่อยสนใจฟัง เอาแต่ก้มหน้า ไม่สบตาใคร กติกาหนึ่งของช่วงนี้คือ คนที่ไม่ได้นำเสนอต้องเป็นพี่ Tor ช่วยให้ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะต่างๆ เราก็เลยลองจิ้มคนที่ไม่ค่อยยอมพูด สิ่งที่พบก็คือ เขาคนนั้นที่ดูเหมือนไม่สนใจฟัง กลับให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ในภาพระยะยาวของโครงการนี้  เอาใหม่ผ่านการนำเสนอไปอีกสองถึงสามคน เราก็จิ้มคนนี้ให้เสนอแนะอีก เขาก็ทำได้ดีอีกเช่นเดิม ดูเหมือนวิศวกรที่นั่งอยู่ด้วยจะอึ้งๆ ไปเหมือนกัน เพราะมาจากคนละบริษัท ไม่รู้จักกันดีมาก่อน

      เนื่องจากเวลาแทบจะไม่พอสำหรับวันแรก จึงเปิดโอกาสให้คนหลังๆ สมัครใจว่าใครจะนำเสนอหรือไม่ก็ได้ พี่ชายคนนี้ก็ไม่ยอมยกมืออีก ดิฉันก็ต้องจิ้มท่านออกมาอีก เขาถามว่าจะเอาจริงๆ เหรอ เราก็ตอบว่า ก็จริงน่ะสิ เพราะบริษัทท่านมากันสามคน จะไม่ยอมนำเสนอกันเลย

ในที่สุดจากผู้ชายที่ทำหน้าให้มันๆไม่เป็น ผมเผ้ารุงรัง (ตามสไตล์ช่างซ่อมในโรงงาน) กลับใช้คำพูดในสไตล์ของตัวเอง พูดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เชื่อมโยงจากการจูงใจเข้าสู่เนื้อหา แถมสรุปได้อย่างน่าสนใจภายในเวลา 3 นาทีกว่าๆ

     นอกจากนั้นผู้สอนก็ได้ให้เทคนิคลดความประหม่าตื่นเต้น สำหรับกลุ่มมือใหม่ซิงๆ ไปหลายวิธี เช่น

  • ต้องเตรียมตัวให้พร้อมจนมั่นใจว่ามีความรู้มากพอ
  • ซ้อมซะหน่อยก็ดีนะ ดูตัวเองในกระจก อัดเทปฟังเสียงตัวเองสิ ตัดคำวาสนาออกไป ฝึกบ่อยๆ
  • ให้คิดบวกว่าเรารู้ดีที่สุดในเรื่องที่เราพูด คิดแบบนี้จะได้สร้างความมั่นใจให้ตัวเอง
  • หายใจเข้าออกลึกๆ สูด oxygen ไปให้เต็มจนกล้ามเนื้อต่างๆ ผ่อนคลายจะได้ไม่เกร็งจนตัวสั่น
  • หลังจากเรียนไปแล้วต้องหาโอกาสนำเสนองานในกลุ่มย่อยบ่อยๆ ค้นหาสไตล์ที่เหมาะกับตัวเอง
  • หัดพูดซ้อมกับกระจก ลองพูดแล้วยิ้มไปด้วยสร้างบรรยากาศเป็นกันเอง มีชีวิตชีวา 
  • ดูทีวีแล้วหาข้อดีของพิธีกร หรือคนอ่านข่าว เพื่อนำมาปรับใช้กับตัวเองแต่ห้ามลอกเลียนแบบใครคนใดคนหนึ่งที่ไม่ใช่ตัวตนของเรา เพราะมันไม่เป็นธรรมชาติ
  • แรกๆ ก็ควรมีเพื่อนคู่หูช่วยเป็นกระจกช่วงเรานำเสนอหรือเป็นวิทยากรก็ดี จะได้พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ

เมื่อวานนี้ให้การบ้านไป สัปดาห์หน้าพวกเขาจะกลับมาพบกันใหม่เพื่อนำเสนอผลงานการทำแผนการสอนหลักสูตรที่จะต้องนำไปใช้จริง คงมีเรื่องกลับมาเขียนอีกค่ะ

   
หมายเลขบันทึก: 121126เขียนเมื่อ 21 สิงหาคม 2007 21:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม 2012 12:30 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีค่ะ

P

มาให้กำลังใจ วิทยากรผู้สอนค่ะ

สวัสดี ค่ะ พี่

P

ขอขอบพระคุณ สำหรับกำลังใจที่มีให้อย่างสม่ำเสมอตลอดมาค่ะ แถมมีภาพสวยๆ มาฝากอีกแล้วด้วยค่ะ

ช่วงนี้มีอุปสรรคการเข้า web G2K ที่ทำงานเข้าได้ช้า บางทีก็ไม่สำเร็จ ตอนเลิกงานก็ใช้ไม่ได้ กลับบ้านมา เครื่องที่บ้านก็ไม่สามารถเข้า web ได้ เลยห่างหายจากการบันทึก และการได้ไปอ่านบันทึกของสมาชิกท่านอื่นๆ

ต้องขออภัยที่ตอบความมีน้ำใจของพี่ล่าช้าไปค่ะ

 

หลักสูตร Training for The Trainer เราไปเข้าอบรม

ที่ TMA ก่อนเข้าไปอบรม เรามั่นใจว่า เราสอนได้ดีแล้ว เพราะเรา

เป็นวิทยากรในบริษัทมา 2 ปีกว่า สอนมาหลายสิบครั้ง แต่เมื่อ

บริษัทมีแผนส่งอบรมเราก็ไปตามสั่ง แต่พอได้ไปอบรม ทำให้เรา

ค้นพบว่า เรามีสิ่งที่ต้องปรับปรุงอีกเยอะมาก และเริ่มไม่แน่ใจว่า

พนักงานที่ฟังเรานั้น เขาเข้าใจหรือเปล่าก็ไม่รู้ หรือเขาฟังเราเพราะ

ตำแหน่งของเรา หลักสูตรนี้ขอยกนิ้วให้ อ.อุไรวรรณ อยู่ชา

ผอ.ศูนย์พัฒนาบุคลากร Thaiskillplus เป็นวิทยากร

รุ่นใหม่ ที่นอกกรอบมาก สอนหลักสูตรนี้ได้ยอดเยี่ยม เพราะมีประสบการณ์

ในการเป็นวิทยากรภายในของ ปูนซิเมนต์ไทย มาก่อน เข้าใจหัวอกของ Trainer

ในองค์กร และเข้าใจพนักงานในองค์กรดี อาจารย์มีเทคนิคการสอนที่เข้าใจง่าย

มีความเป็นกันเอง อารมณ์ดี เห็นผู้เข้าอบรมเป็นพี่ ๆ น้อง ๆ มีการจูงใจ และการ

ให้กำลังแก่ Trainer มือใหม่ดีมากค่ะ ยิ่งตอนฝึกปฏิบัติได้เห็นตัวเองจาก VDO แล้ว

ทำให้ดีใจที่เราเป็นคนที่ "น้ำไม่เต็มแก้ว" และเปิดรับอาจารย์ จึงทำให้เราได้เห็นจุด

ที่ควรพัฒนา ปรับปรุงให้เป็นมืออาชีพ แต่ถ้าวันนั้น เราไม่ไปอบรม และคิดว่า

ตัวเองเก่งอยู่แล้ว เราก็คงไม่รู้จักตัวเองค่ะ จึงอยากบอกเพื่อน ๆ ว่า ถึงแม้

เราจะเป็นอะไรก็ตาม ถ้าเราเปิดใจรับสิ่งใหม่ จะทำให้พัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งค่ะ

อ.อุไรวรรณ อยู่ชา สอน Training for The Trainner ให้พวกเราที่ ปตท.

OK มาก ๆ เลยค่ะ อาจารย์สอนจากประสบการณ์จริง รูปแบบการสอนดีมาก

เพราะ อาจารย์เป็นวิทยากรที่ลูกศิษย์ยกนิ่วให้อยู่แล้ว และก็เคยเป็นวิทยากร

ภายในองค์กรมาก่อนด้วย ทำให้เรียนแล้วได้ประโยชน์คุ้มจริง ๆ ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท