ตลาดนัดกรมอนามัย 2550 - Press Tour (24) ตามรอย KM ย่างก้าวสู่ LO ... no.6


... เพราะฉะนั้น ผมเชื่อในสิ่งนี้ ว่า ถ้าเครื่องมือมา ท่านก็ต้องปรับเครื่องมือให้เข้ากับบริบทของท่าน วันนี้ KM อาจจะชัดมากขึ้น ท่านจงนำไปปรับให้เข้ากับบริบทของท่านครับ

 

บันทึกนี้ เป็นบันทึกที่ อ.ประพนธ์ เริ่มเข้าเรื่อง ตามรอย KM กรมอนามัยละค่ะ ... 

  • 3 ปีแรกไม่เป็นไรนะครับ ผมว่าเป็นสิ่งที่ดี
  • แต่มาปีนี้ ผมว่า ท่านได้สร้างนวัตกรรมแล้ว รู้แล้วว่าอะไรคือ แก่น แก่นต้องเก็บไว้นะครับ ไม่ใช่เครื่องมือมารื้อจนเละเลยนะ อันนี้ก็เกินไป แสดงว่า อย่าใช้ดีกว่า รื้อจนเละ ถ้าแก่นมันดีเก็บไว้
  • ... เพราะฉะนั้น ผมเชื่อในสิ่งนี้ ว่า ถ้าเครื่องมือมา ท่านก็ต้องปรับเครื่องมือให้เข้ากับบริบทของท่าน วันนี้ KM อาจจะชัดมากขึ้น ท่านจงนำไปปรับให้เข้ากับบริบทของท่านครับ
  • วัฒนธรรมที่ KM กลัวที่สุด ก็คือ Command and control “ไม่ได้เลย ต้องทำตามอย่างนี้เป๊ะ เป๊ะ เลย คิดเองไม่ได้” เมื่อคิดเองไม่ได้ KM จะเกิดขึ้นเองได้อย่างไร
  • ผมสรุปรวบยอดเลยนะครับ
  • ตกลง KM ณ วันนี้ 3 ปีนับตั้งแต่ที่ท่านได้โมเดลปลาทูมา ... วันนี้ขอเสนอโมเดลสามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา วันนี้เอาของ อ.ประเวศมาเลยนะ แต่เป็นคนละสามเหลี่ยม และเป็นคนละภูเขา ของผมสามเหลี่ยมคือ KM ภูเขาคือวัฒนธรรมการเรียนรู้ เพราะฉะนั้นถ้าเราเคลื่อนตรงนี้ เราก็จะไปสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ได้เลย
  • เพราะฉะนั้นสามเหลี่ยมก็คือ KM ที่ต้องเคลื่อนใน 3 มิติ 3 มุมมองยังไงล่ะครับ
    ... มุมมองด้านบนเป็นเรื่องขององค์ความรู้ Body of Knowledge
    ... มุมมองที่สอง เป็นความรู้ที่อยู่ในคน จริงๆ แล้วสนใจกระบวนการรู้มากกว่า Process of Knowing
    ... และ Learning Community
  • ถ้าเราจะทำ KM ให้ครบถ้วน ควรจะเป็น KM 3 มิติเลย คำนึงถึงความรู้ องค์ความรู้ต้องมี เพราะเราเป็นหน่วยงานวิชาการ
  • ถ้าท่านบอกว่า เราทำ KM มา เรา share ... แล้วอยู่ที่ไหนล่ะ ไม่เห็นมีเลย เอ้า เราไปอ่านในบล็อกสิ ก็เออ ยังมีอยู่ แต่ถ้าบอกว่า หาไม่เจอเลย แต่เราคุยกันอยู่ อ้าว แล้วมันไปไหน มันก็เข้าไปในตัวคนแล้วไง ยังงี้ก็ตอบยาก ก.พ.ร. ก็อึดอัด แล้วจะวัดยังไงล่ะ แต่ถ้าท่านมี Body of Knowledge ก็จบ อยู่ใน Gotoknow ก็ได้ อยู่ในหนังสือ วารสาร อยู่ในไหนก็ได้ กพร. ก็ Happy
  • แต่ถ้าถาม สคส. ... สคส. สนใจอะไร สนใจ Process of Knowing สนใจให้คนได้เปิดใจพูดคุยกัน ทำสุนทรียสนทนา ทำวง Dialogue มีวงพูดจา มีวง share ปัญหา share ความสำเร็จ
  • (... share ปัญหาได้นะ ไม่ใช่บอกว่า KM ไม่ให้ share ปัญหา)
  • แต่ต้องบอกด้วยว่า ท่าน share ปัญหาอย่างไร แต่ท่านโยนปัญหา เข้ามาในวง อันนี้ไม่ใช่ KM แล้ว อันนี้เป็น Brain storming วง Professtromy ขอให้ท่านแยกวงให้ถูก เดี๋ยวจะสับสนไปหมด ผมไม่ได้บอกว่าไม่ดี มีปัญหาต้องช่วยกันแก้ไหม ใช่ ต้องช่วยกันแก้ แล้วใช้เครื่องมือตัวไหน
  • เอาแผนภูมิก้างปลาสิ (Echigawa diagram) เอาปัญหาวางไว้หัวปลา เห็นมั๊ย เครื่องมือคนละตัว อย่าไปสับสน
  • ท่านหลายคนจับต้นชนปลายไม่ถูกเลย พอเห็นเครื่องมือก็ว่าเลย ปลาทู มันสู้ก้างปลาไม่ได้ มันมองครอบคลุม ท่านก็พูดไปคนละเรื่องแล้ว เพราะนั่นมันคือ Problem solving การแก้ปัญหา
  • แต่ KM ไม่ได้แก้ปัญหา เรามา share การแก้ปัญหากัน ว่าแล้วที่ศูนย์ฯ 5 ทำอย่างไร ศูนย์ฯ 8 ทำอย่างไร คำตอบต้องเหมือนกันมั๊ย ไม่เหมือนครับ ไม่ควรเหมือนกันเป็นอย่างยิ่ง เพราะสิ่งแวดล้อมต่างๆ ไม่เหมือนกันเลย หรือถ้าเหมือนกันก็ไม่น่าฟังเลย ถ้าทุกศูนย์ฯ พูดเหมือนกันเป๊ะๆ พูดมาจากตำรา อย่างนี้อย่ามาจัดเลย ... แต่อยากได้ tacit ว่า คุณทำอย่างไร แต่ต้องพูดความสำเร็จนะ พูดวิธีการแก้ปัญหาที่ได้ผลนะ นี่ไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่เป็นวง share การแก้ปัญหา เพราะว่าให้กันจนคนสับสนกันไปหมดเลย
  • บางทีผมก็อ่อนใจ ว่าเขายังไม่เข้าใจพื้นฐานที่แตกต่างกัน เขาสับสนเรื่องการแก้ปัญหา Problem solving กับ KS – Knowledge sharing
    เพราะฉะนั้น เรื่อง Process of knowing ก็สำคัญมากๆ เลย และนับวันๆ ผมยิ่งรู้สึกว่า เรื่อง Process of knowing มันสำคัญจริงๆ
  • เพราะความรู้ที่อยู่ในความรู้มันลอยๆ ครับ มันอยู่ใน Knowledge Center มันอยู่ใน Internet แต่คนไม่เข้าไป และคนก็ยังดึงเข้ามาในตัวไม่ได้ ผมก็เลยรู้สึกว่า ต้องหากระบวนการอะไรก็ไม่รู้ละ ให้คนเกิด knowing ซึ่งสำคัญกว่า Knowledge (สำหรับผมนะครับ) ผมรู้สึกว่า Knowledge มันดี แต่มันลอย
  • Knowledge Center ของกรมอนามัยนี้ดี เพราะท่านคงเลือกสรรแล้ว ว่ามันเหมาะกับวิชาชีพของท่าน แต่ยังไงท่านก็ต้องนำไปสู่ Knowing ให้ได้ แต่ทำยังไง อยู่ดีดี จะทำให้คนเกิด Knowing ขึ้นมานี่ มันยาก มันต้องใช้เครือข่าย ตกลงไปๆ มาๆ ท่านก็จะเห็นว่า ทั้ง 3 ส่วนนี้มันเกี่ยวข้องกันอย่างแยกไม่ได้
  • เพราะฉะนั้น บทสรุปหลังจากที่ได้เจอท่าน 3 ปี ครั้งแรก ก็เป็นการเปิดประตู KM ด้วยวิธีของปลาทู แกะรอยเท้าของวันนี้ มันมาหยุดอยู่ตรงที่ ท่านทำอย่างไรในกรมอนามัย จึงจะเล่นเรื่อง KM แบบครบถ้วน
  • ยุคต่อไปนี้ของกรมอนามัย เราจะสนใจ Body of Knowledge, Process of Knowing และ Learning Community ... เพราะว่าท่านมีทุนที่ดีครับ ท่านมีชุมชน มีการแลกเปลี่ยนอยู่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่ดี ที่หลายกรมฯ อิจฉาท่าน
  • วันนี้ถ้าท่านถามผมว่า สไลด์ไหนสำคัญที่สุด ผมว่า สไลด์นี้ละ ลองไปคิดรูปแบบของท่าน โดยไปใช้ทุกสิ่งทุกอย่างตรงนี้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด เพราะว่าท่านไม่สามารถไปแยกมันได้ ถ้าท่านปราศจากเครือข่าย เครือข่ายก็สร้างความรู้ได้นะ และความรู้มันก็วิ่งไปในองค์การ ทำให้คนได้รู้ และคนรู้ก็มาจากปฏิบัติ มันก็โยงไปโยงมานี่ละครับ เพราะฉะนั้นองค์ประกอบสามเหลี่ยม และแต่ละเหลี่ยมก็โยงเป็น 2 มุมได้

ได้แนวคิดใหม่แล้วละค่ะ สามเหลี่ยม KM เขยื้อนภูเขา

 

รวมเรื่อง ตลาดนัดความรู้กรมอนามัย 2550 

 

หมายเลขบันทึก: 120643เขียนเมื่อ 19 สิงหาคม 2007 16:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท