มีผู้ถามคำว่า สัมมันตะ มา และไม่ได้ให้ email ไว้ จะบอกให้ไปค้นเอาเองในหนังสือ เพราะศัพท์นี้ค้นหาได้ไม่ยาก (นักเรียนรุ่นใหม่ไม่ชอบค้น ชอบมาตั้งกระทู้ถามใน web) ... และเนื่องจาก มิจฉัตตะ ตรงข้ามกับสัมมันตะ จึงถือโอกาสนำมาบอกเล่าควบคู่กันไป...
สัมมันตะ ตามที่มีผู้ถามมา น่าจะเขียนผิด เพราะเคยเจอแต่ สัมมัตตะ ดังนั้น จะว่าไปตามความหมายคำว่า สัมมัตตะ (เพิ่มเติมและแก้ไขจากกัลยาณมิตรแนะนำ)
สัมมัตตะ จัดเป็นหมวดธรรมมี ๑๐ ข้อ ซึ่งเพิ่มมาจากอริยมรรคมีองค์ ๘ อีก ๒ ข้อ (ส่วนที่ตรงกันข้ามเรียกว่า มิจฉัตตะ) ดังนี้
.........
ผู้เขียนยังไม่เคยเจอเนื้อหาที่อธิบายเรื่องนี้ไว้โดยพิสดาร (ละเอียด) เจอแต่เพียงที่อธิบายไว้โดยสังเขป (ย่อ) เท่านั้น... ดังนั้น จึงเล่าไปตามความเห็นส่วนตัว...
ในการดำเนินชีวิตหรือการปฏิบัตินั้น ถ้าเป็นไปตามอริยมรรคมีองค์ ๘ ก็จะถึง สัมมาญาณ คือ รู้ชอบ และเมื่อรู้ชอบแล้วก็จะหลุดพ้นชอบ คือ สัมมาวิมุตติ... นี้เรียกว่า สัมมัตตะ การกำหนดความเป็นธรรมที่ถูกต้อง
ในส่วนที่แตกต่างกัน ถ้าการดำเนินชีวิตหรือการปฏิบัตินั้น เป็นไปตรงข้ามกับอริยมรรคมีองค์ ๘ แล้ว ก็จะถึง มิจฉาญาณ คือ รู้ผิด และเพราะรู้ผิดนี้เองจึงสำคัญว่าตนเองหลุดพ้น นั้นคือ มิจฉาวิมุตติ ... นี้เรียกว่า มิจฉัตตะ การกำหนดความเป็นธรรมผิด
..........
ตามสำนักปฏิบัติที่สอนกันอยู่ทั่วไปในเมืองไทย บางสำนักสอนกรรมฐานแบบผิดๆ ก็จะเกิดมิจฉาสติและ มิจฉาสมาธิ ซึ่งอาจไปสู่ความสำคัญตนเองว่ารู้แจ้งบางสิ่งบางอย่าง (มิจฉาญาณ) และสำคัญตนว่าหลุดพ้น (มิจฉาวิมุตติ)...
หรือบางครั้ง อาจารย์สอนไม่ผิด แต่ผู้ฝึกกรรมฐานเข้าใจผิดด้วยอำนาจวิปัสสนูปกิเลส (ความเศร้าหมองแห่งจิตด้วยความสำคัญว่ารู้แจ้ง) ก็อาจนำไปสู่ มิจฉาสติ มิจฉาสมาธิ มิจฉาญาณ และมิจฉาวิมุตติ เช่นเดียวกัน...
อนึ่ง ความรู้ คือ ญาณ และ วิมุตติ คือ ความหลุดพ้น ซึ่งมีอยู่ในคำสอนอื่นๆ นอกพุทธศาสนา ก็จัดเป็น มิจฉาญาณ และมิจฉาวิมุตติ เช่นเดียวกัน...