ถึงเวลาที่รับปากผู้บริหารของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ไว้ ว่าจะมาเริ่มทำงานในวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๐ ดิฉันออกเดินทางจากกรุงเทพเมื่อเช้าวันที่ ๑๑ สิงหาคม พร้อมสามี ลูกสาว ลูกเขย และลูกชายคนเล็ก ด้วย Honda Jazz นั่งกันมาแบบไม่อึดอัด พร้อมข้าวของเท่าที่พอจะจัดเตรียมได้ทัน
ความที่มีภารกิจทุกวันไม่ค่อยมีเวลาจัดเตรียมข้าวของเครื่องใช้ เก็บของวันสุดท้ายจาก รพ.เทพธารินทร์คือเช้าวันศุกร์ที่ ๑๐ สิงหาคม ของที่เตรียมมาได้คือเสื้อผ้า ๑ กระเป๋า ถ้วยจานที่บรรจุกล่องไว้อยู่แล้ว (ไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง) ๑ กล่อง หม้อหุงข้าวใบเล็กๆ กระติกน้ำร้อนใบเก่า หม้อต้มกาแฟ (ต้องเอามาให้ได้) เครื่องนอน เอกสารและหนังสือ ๑ ลัง กระเป๋าและเป้ของคนที่มาส่ง กว่าจะพร้อมออกเดินทางจากบ้านได้ก็เลย ๐๘.๓๐ น.ไปแล้ว
อากาศวันนี้สบายๆ ไม่ร้อนมาก ลูกชายขับรถเป็นมือแรกมุ่งหน้าลงใต้ เราตั้งใจแวะรับประทานอาหารกลางวันที่หัวหิน สามีพูดว่าไปต่างจังหวัดเขากินกันง่ายๆ อย่างพวกข้าวแกงแถวเพชรบุรี แต่ในรถไม่มีใครเห็นด้วย
เราเข้าเมืองหัวหินไปรับประทานที่ร้านใหญ่ ชื่อไฉ้เปียงหรืออะไรคล้ายๆ แบบนี้แหละ สังเกตเมนูอาหารมีขาหมู-หมั่นโถอยู่รายการแรก ลูกชายคนเล็กเลยสั่งมา ท่าทางคงเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของร้านเพราะเห็นโต๊ะหลังๆ ที่เข้ามาก็สั่งกันทุกโต๊ะ อาหารแต่ละอย่างจานใหญ่ๆ ทั้งนั้น เราอิ่มกันมาก รับประทานอาหารเสร็จได้เวลานอนของลูกชาย ลูกเขยจึงรับหน้าที่ขับรถต่อ เป้าหมายอาหารเย็นที่ปากน้ำ สุราษฎร์ธานี
ระหว่างทางแวะเติมน้ำมันรถ ๑ ครั้งแถวๆ ประจวบต่อชุมพร เราบอก “เติมเต็มแค่ตัด” เด็กปั๊มไม่รู้เป็นคนไทยหรือเปล่า เติมได้ ๑๒ ลิตรกว่าบอกตัดแล้ว เราไม่กล้าให้เติมต่ออีก ออกรถมุ่งหน้าสู่สุราษฎร์ธานี เส้นทางเปลี่ยนไปจากเดิม สามีจำไม่ค่อยได้เพราะไม่ได้ขับรถมาเองเป็นสิบปีแล้ว กว่าจะถึงร้าน “เรือนไทย” ที่ปากน้ำ สุราษฎร์ธานี ก็เลยเวลา ๑๘.๓๐ น.ไปแล้ว
อาหารเย็นมื้อนี้หนักมาก ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ครบชุด ที่อร่อยน้อยไปนิดก็เพราะน้ำจิ้มมีรสหวานมากไปหน่อย อิ่มได้ที่ในราคาที่ยอมรับได้
เรามีโควต้าให้กุ้งขนาดเท่านี้คนละตัว ปูอยู่ข้างหลัง |
เสร็จอาหารเย็นก็ค่ำแล้ว เราออกเดินทางสู่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ที่ท่าศาลา นครศรีธรรมราช ระหว่างทางทั้งอาจารย์และเจ้าหน้าที่สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ โทรศัพท์เช็คเป็นระยะว่าถึงไหนแล้ว
ถึงมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เมื่อเวลา ๒๑.๓๐ น.กว่า เข้าไปบ้านพักที่ทางมหาวิทยาลัยจัดไว้ให้ บ้านได้รับการทำความสะอาดไว้เรียบร้อย แต่เฟอร์นิเจอร์และห้องครัวทรุดโทรม เรารู้สึกว่ายังไม่พร้อมที่จะเข้าอยู่จึงเอาของออกวางไว้ในบ้านและอพยพกันไปเปิดห้องพักของโรงแรมในมหาวิทยาลัยนอนกันก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ คืนนี้เราจึงได้พักผ่อนกันอย่างเพียงพอ
วัลลา ตันตโยทัย
สวัสดีค่ะคุณสิงห์ป่าสัก
ย้ายมาทำงาน ๔ ปี เลยต้องเอาของมาเยอะหน่อย เพิ่งเริ่มเท่านั้นนะคะ พอครบ ๔ ปีจะงงว่าข้าวของทำไมเยอะได้มากมายขนาดต้องเอารถใหญ่ๆ มาขนกลับทีเดียว