Go to Know..Go to Travel..Go to Chiangmai


เชียงใหม่ฉ่ำฝน... เบิกฤกษ์ด้วยเรื่องเล่าท่องเที่ยวกันก่อน เรื่องสาระอื่นๆ ค่อยๆ ต่อแถวกันมานะคะ

เดินทางเช้าตรู่วันแม่ ไม่สดชื่นเอาเสียเลย เพราะต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 เคยตื่นที่ไหนล่ะ เวลาแบบนี้มีแต่จะยังไม่นอนมากกว่า ..

น้องนก..ขยับปีกไอพ่น.. พาเรา 4 คนจากกรุงเทพฯมาส่งถึงสนามบินเชียงใหม่อย่างรวดเร็วตรงเวลา ตื่นเต้น..ตื่นเต้น

แม้จุดประสงค์หลักของเราในการเดินทางมาเชียงใหม่ในครั้งนี้ก็คือการมาร่วมสัมมนาการจัดการความรู้เพื่อพัฒนาเครือข่ายเรียนรู้ระดับประเทศ ที่ม.ราชภัฎเชียงใหม่ จัดขึ้น แต่... วันนี้ยังไม่ถึงเวลา วันนี้เรา "ตั้งใจ" มาตระเวนเชียงใหม่ ... เชียงใหม่หน้าฝน....

หลังจากเก็บสัมภาระที่โรงแรมสตาร์ เราก็รีบหาข้าวเช้ามาเติมพลังทันที มองซ้ายมองขวา...ว้า.. แถวที่พักไม่มีอะไรกินเลย เอาไงดี เด็กหลงทาง 4 คน เดินโซซัดโซเซไปมา ..นั่นไง เจอแล้ว Burger King ช่วยเราได้ จริงๆแล้วจะไปหาโจ้ก ปาท่องโก กิน แต่ไม่ไหวแล้ว ไปกาดใกล้ๆ ไม่ไหวละ เอาก็เอา

จัดการอาหารเช้าแล้ว มีพลังแล้วสิ... ออกเดินทางดีกว่า...

วันนี้เรามี plan ไปเที่ยวตามเส้นทางดอยสุเทพ-ดอยปุย จริงๆ แล้วอยากไปให้มากกว่านี้ อย่างดอยอินทนนท์ แต่เวลามีน้อยมาก วันเดียวคงเที่ยวได้ไม่มากและคงไม่ไกลนัก.. แต่เท่าที่ plan คิดว่าก็พอบรรเทาความกระหายใคร่เที่ยวที่ตะหงิดๆ อยู่ในใจได้บ้าง...เล็กๆ

..หมดเวลาแล้ว เดี๋ยวมาเล่าต่อ เรื่องสนุกๆ ยังไม่เริ่มต้นเลย.. (^,^)

คำสำคัญ (Tags): #เชียงใหม่#travel
หมายเลขบันทึก: 119299เขียนเมื่อ 13 สิงหาคม 2007 16:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:53 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)
  • สวัสดีค่ะ อาจารย์
  • ชอบนักค่ะ เรื่องเที่ยวๆเนี่ย
  • ต้องตามติดต้องติดตามค่ะ

 

ปล. ทำไมใครๆๆก็ชอบใช้ชื่อ one fine day

ว้าว... ดีใจจังค่ะ มีคนตอบมาด้วย

สวัสดีค่ะ.. ยังมีต่อนะคะ ถ้าสนใจ .. โปรดติดตามนะคะ

 ปล. "one fine day"  แค่ได้ก้าวเท้าออกจากบ้านเพื่อเดินทางท่องเที่ยว แค่นี้ก็เป็นวันดีๆ แล้วค่ะ...(ว่าแต่มีคนใช้เยอะเหรอคะ.. ว้า... ) 

Go to Chiangmai ...ตอนต่อมา (2)

เรากังวลกันเล็กน้อยเกี่ยวกับรถที่จะพาเราไปเที่ยวในครั้งนี้ แต่พอเอาเข้าจริง เชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ (หมายความว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวประเภทใด...เงินเยอะหรูหรา เงินน้อยประหยัดงบ หรือ backpacker ที่ไม่มีแม้แต่งบให้ประหยัด... คุณก็สามารถเลือกในสิ่งที่เหมาะสมกับคุณได้) อย่างวันนี้เราเป็นนักท่องเที่ยวประเภท เงินน้อยประหยัดงบ (แต่แอบอยากหรู) คิดคำนวณแล้ว เราอยากเที่ยวแบบส่วนตัวและคงต้องเหมารถไปเอง เพราะเวลาน้อย  ไม่นาน.. เราก็ได้รถที่จะพาเราไปเที่ยวแล้ว ..   

อ้อ...วิธีการน่ะหรอค่ะ ไม่ยากอย่างที่คิดเลย เพียงแค่คุณทำท่าเป็นเด็กหลงทาง หรือกำลังตัดสินใจกับเรื่องอะไรบางอย่างไม่ถูก จะมีชาวเชียงใหม่ใจดีถามว่า จะไปไหนเจ้า แล้วเราก็ถาม..ถาม..ถาม ในสิ่งที่อยากรู้  เขาก็จะตอบ...ตอบ...ตอบ ในเรื่องที่คุณถาม แค่นี้..คุณก็จะได้คำตอบที่คุณต้องการ..เท่านั้นเอง ง่ายนิดเดียว 

 

++คำเตือน++ หากเดินทางคนเดียว กรุณาอย่าทำท่าทางอย่างที่แนะนำโดยเด็ดขาด อันตรายมากๆ โดยเฉพาะสาวๆ สวยๆ อย่างเราๆ นะจ๊ะ++

 ณ หมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง บนยอดดอยปุย

 ระหว่างทางที่มาที่นี่ ฝนตกปรอยๆ มาตลอด แรกๆ ก็รู้สึกเสียอารมณ์นิดหน่อย เพราะกังวลใจเล็กๆ ว่าถ้าไม่มีแดด จะถ่ายรูปสวยมั้ยละเนี่ย แต่อารมณ์ที่ใกล้จะเสียก็ต้องมลายไปในทันที เพราะบรรยากาศสองข้างทางดีมากๆ เราขับรถฝ่าสายหมอกบางๆ มาตลอด  ต้นไม้ใบหญ้าก็สดชื่นสดใส อูยยย.. หมอกขาวๆ กับต้นไม้เขียวๆ มันช่างโรแมนติกอะไรอย่างนี้นะ เวลานั้นความรู้สึกเดียวจริงๆ ... สวย บ้านม้งดอยปุย ดูยังไงก็ดูออกว่า จัดฉาก ให้เป็นสถานที่สำหรับท่องเที่ยวอย่างแท้จริง  คือมันเป็นความรู้สึกส่วนตัวนะ ไม่รู้สิ มันไม่ใช่วิถีชีวิตที่แท้จริงของเขา แต่สิ่งนี้คือสิ่งที่ทำให้เขาได้อยู่ ได้กินดีขึ้น อย่างน้อยก็ได้ทำมาหาเลี้ยงชีพในถิ่นฐานบ้านเกิดของตัวเอง ไม่ต้องไปดิ้นรนต่างถิ่น อย่างนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกว่าเป็นการ ขาย วัฒนธรรม และชีวิตความเป็นอยู่ โดยมี นายทุน อยู่เบื้องหลัง จึงทำให้ความเป็นเมืองธุรกิจครอบงำอยู่ในทุกอณูพื้นที่ของหมู่บ้าน สิ่งเหล่านี้ทำให้ที่นี่ขาดเสน่ห์ของความเป็นธรรมชาติแห่งวิถีชีวิตไปเล็กน้อย น่าเสียดายจัง คิดดูสิ.. ธุรกิจเช่าชุดชาวเขาเพื่อถ่ายภาพกับสวนดอกไม้ เพียงชุดละ 30 บาท เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนแค่ชั่วครั้งชั่วคราวอย่างเราๆ ได้สัมผัสความเป็น ม้ง ผ่านเสื้อผ้าเหล่านั้น เป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมมาก คนเช่ามีความสุขสนุกสนาน คนให้เช่าก็รับทรัพย์นับไม่ทัน ม่วนใจ๋ กันไปทั้งเจ้าบ้านและผู้มาเยือน 

แม้แต่ผู้เฒ่าผู้แก่และเด็กน้อยๆ ก็ไม่ละเว้น ระหว่างที่เดินดูของในหมู่บ้าน พวกเราเดินผ่านคุณยายชาวเขาแก่ๆ คนหนึ่ง แกนั่งนิ่งๆ ยิ้มน้อยๆ อยู่หน้าบ้าน  เมื่อเราขอถ่ายรูป คุณยายก็จะขอ 10 บาทเป็นค่าตัวทันที เอา....ไม่ว่ากัน  แต่นี่เลย เจ้าเด็กแสบ 4-5 คน นั่งรวมตัวเป็นกลุ่มเป็นก้อน เมื่อนักท่องเที่ยวเดินผ่าน เด็กๆ จะพูดพร้อมกัน ฟังดูเป็นบทอาขยานที่ถูกใครบางคนฝึกให้พูดโดยอัตโนมัติเมื่อมีนักท่องเที่ยวเดินผ่านมาว่า

 

พี่ค้าา ถ่ายรูปกับหนูม้ายค้าา? ถ้าพี่ไม่ถ่าย พี่ให้เงินหนูเอาไว้เป็นค่าเทอมก็ได้นะค้าา 

ดูสิดู น่าเอาไม้เรียวฟาดสักทีสองที ใครกันะสั่งสอนให้พูดอะไรแบบนั้น แต่ก็นะ ด้วยความเป็นเด็ก ความบริสุทธิ์ยังมีให้เห็นอยู่ในดวงตาคู่เล็กๆ เหล่านั้น ดูยังไงก็..น่าเอ็นดูชะมัด  เคืองไม่ลงจริงๆ ดังนั้นจึงจบลงด้วยการถ่ายรูปและให้เงินไปแบ่งๆ กันตามที่ต้องการ เฮ้อออ... รักเด็กแบบนี้ ปีหน้าประกวดนางงามกับเขาจะทันมั้ยเนี่ยะ เราใช้เวลาอยู่ที่นี่นานพอสมควร  เวลาที่ใช้ หมดไปกับการเก็บภาพสวยๆ แม้แสงแดดจะไม่เป็นใจเอาเสียเลย แต่สีสันของดอกไม้และเสน่ห์ของชาวดอย ก็ดึงเวลาเราได้นานทีเดียว ..แต่ตอนนี้ ได้บอกลาและเดินหน้าไปยังจุดหมายต่อไปของเรา...พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

 

จะมาตามอ่านบันทึกของน้องนะจ้ะ

อ่านบันทึกของน้องแล้ว โอเคมากๆเลย  น่าติดตาม  จะตามไปอ่านเรื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆ

ฮ่าฮ่าจากบันทึกเราว่าพวกเค้ากำลังต่อรองทางวัฒนธรรมอยู่นะ เช่น เค้าเอาความเป็นม้งออกมาต่อรองถ้าคุณอยากสัมผัสเหรอก็จ่ายตังค์มา เห็นด้วยอ่ะป่าว ฮ่าฮ่า

  • เข้ามาอ่านบันทึกครับ
  • คุ้นๆหน้า...อยู่นะ

สวัสดีค่ะ.. คุณสะ-มะ-นึ-กะ

  • ขอบคุณที่อ่านค่ะ (แอบดีใจเล็กๆ ที่มีคนเข้ามาอ่านแล้วแสดงตัว.. ^,^.. )
  • คุ้นหน้าเหรอค่ะ.. อย่างนี้ถ้าเข้ามาอ่านบ่อยๆ จะได้เปลี่ยนจาก "คุ้นหน้า" มาเป็น "คุ้นเคย"  ดีมั้ยค่ะ? (หลอกมาอ่าน....ฮา) 
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท