ลองแบ่งนักวิชาการตามวิธีคิด วิธีที่พวกเขามองโลกดูครับ
วิธีมองโลก นำไปสู่วิธีการออกแบบการวิจัย คนที่มองโลกแบบใดก็มีแนวโน้มที่จะออกแบบงานวิจัยไปสู่การตอบคำถามในวิธีการมองโลกแบบนั้นๆ
ตารางสุดคลาสสิกที่เอามาแปะไว้นี้เป็นของคุณ Bob Smith ในงานเขียนเมื่อปี 1996 ได้จำแนกวิธีการมองโลกของนักวิชาการเอาไว้สามกลุ่มใหญ่ๆ ตามวิธีการแสวงหาความรู้ และจุดประสงค์ของงานวิจัย บางกลุ่มเชื่อว่าจะเข้าถึงความจริงได้จากการชั่งตวง วัด ทำซ้ำได้ ความจริงเป็นสิ่งที่แน่นอนตายตัว รออยู่ที่ไหนสักแห่งให้เราไปค้นหามันออกมา บางกลุ่มเชื่อว่า ความจริงมีหลายจริง ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมอง มองมุมไหน ความจริงเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เรามีหน้าที่ไปทำความเข้าใจมัน ในขณะที่บองกลุ่มเชื่อมโยงความจริงกับโครงสร้างที่มันเกี่ยวพันอยู่ โดยเฉพาะกับอำนาจ พอแบ่งแบบนี้ เราก็เลยมีวิจัยเชิงคุณภาพ เชิงปริมาณ มีวิทยาศาสตร์ มีสังคมศาสตร์ ฯลฯ
ผมเอาไอเดียมาแบ่งนักวิชาการตามประสบการณ์ของผมดูบ้างครับ
ผมแบ่งเป็นสามกลุ่มเหมือนกัน
กลุ่มแรกคือ กลุ่มที่เชื่อว่าวิธีคิดแบบของตัวเองนั้นเป็นความจริงอันสูงสุด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในโลกนี้มีการหาความจริงด้วยวิธีอื่นๆ
กลุ่มที่สองคือกลุ่มคนที่เข้าใจตารางข้างบนนั้น แล้วก็จำแนก แยกแยะว่า ใครมีวิธีคิดแบบไหน หาตัวเองว่าตัวเองอยู่ในวิธีคิดแบบไหน พยายามสร้างฐานของตัวเองให้ชัด แต่ขณะเดียวกันก็เข้าใจและยอมรับในความแตกต่าง ผมเชื่อว่าการศึกษาขั้นสูงสอนให้คนอยู่ในกลุ่มนี้
ส่วนนักวิชาการกลุ่มสุดท้าย ผมอยากเรียกว่าพวกเซียนครับ กลุ่มคนเหล่านี้มีความเชี่ยวชาญสาขาใดสาขาหนึ่งมาก่อน แต่ทำงานไประดับหนึ่ง พบความเชื่อมโยงจากสิ่งที่ตัวเองทำอยู่จากระดับเล็กๆ ไปสู่ระดับใหญ่ขึ้นๆ กลุ่มนี้จะเข้าใจภาพระดับองค์รวมและเห็นคุณค่าของส่วนประกอบย่อยๆ ไม่ว่ามันจะมาจากแนวคิดแบบไหนก็ตาม
ผมโชคดีที่ได้สัมผัสนักวิชาการระดับเซียนที่สามารถพัฒนาระดับจิดใจและวิธีการมองโลกได้ถึงระดับนั้นหลายๆ ท่าน และผมเชื่อว่า การเดินทางในสายวิชาการของคนเรานั้น จะให้เจ๋งจริง ก็ควรจะไปให้ถึงขั้นนั้นครับ
ไม่มีความเห็น