ในอดีตกาลนานมาแล้ว ยังมีนายพรานคนหนึ่ง มีภรรยาสวยแทบไม่มีที่ติ มีฐานะร่ำรวยดีมาก แต่ไม่มีบุตรรับใช้ ผัวเมียจึงได้ตกลงกันว่าเราไปหาคนใช้สักคนมาเป็นเพื่อน พี่ออกป่าไปไม่มีใครพูดคุยเลย เมียก็ว่าดี พี่เราจะไปหาที่ไหนได้ ผัวบอกมี พี่เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งในหมู่บ้านพ่อแม่ยากจน เราให้เงินเดือนเขามากหน่อยพ่อแม่เขาคงจะให้มา เด็กอายุ 16 ปี สวยน่ารักมาก ผิวขาว อวบอั๋น ไม่มีที่ติ เอาอกเอาใจเจ้านายดี ภรรยาของนายพรานรักนางเหมือนลูกคนหนึ่ง อยู่ไปหลายปีนางโตขึ้นยิ่งสวยและน่ารักเป็นเดิมพัน อยู่มาวันหนึ่งนายพรานออกป่าไปแต่เช้า เวลากลับเดินมาตามลำห้วยเพื่อส่องหาของที่ต้องการตามลำห้วยขณะนั้นไม่มีน้ำ จึงเดินสบายมองซ้ายมองขวา บังเอิญสายตาของนายพราน ไปกระทบเข้ากับสิ่งหนึ่ง เป็นประกายวาววับ จึงสงสัยว่าอะไรจึงเข้าไปดูให้ถนัดว่าเป็นอะไรกันแน่ มองดูแล้วเป็นสิงโตหินอ้าปากกว้าง อยู่ในปากสิงโตมีแต่เพชรนิลจินดา แก้ว แหวน เงิน ทอง ตัวสิงโตอยู่ติดกับฝั่งห้วยพอดี นายพรานก็เก็บเอาได้ไม่มากเท่าไหร่ เพราะหิวข้าวเลยกลับบ้านก่อน กลับไปจำที่สิงโตอยู่ไดดี แล้วกะว่ากินข้าวแล้วจะพาภรรยาและคนใช้มาเอาอีก เพราะยังมีอยู่อีกมาก พอไปถึงบ้านนายพรานก็เอาออกมาให้ภรรยาและคนใช้ดู ภรรยาเห็นเข้า จึงถามว่า พี่ไปเอามาจากไหนสวยจริง ๆ สามีจึงพูดว่าโธ่อย่าพึ่งพูดอะไรเลยไปหาข้าวมากินก่อนแล้วพี่จะพาพวกเธอไปเอา ยังมีอีกมากมาย นางรีบหาข้าวมาให้กิน อิ่มแล้วจึงจัดเอาเสบียงอาหารรีบตรงไปยังสิงโตหินทันที พอไปถึงต่างคนต่างเอามือล้วงเข้าไปเอาเพชรในปากสิงโตอย่างสนุก พลัดกันเอาอยู่อย่างนั้นตลอดวันจนไม่มีที่จะใส่ทั้งสามคน ไม่เคยคิดเลยว่าอะไรมันจะเกิดขึ้นอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ทุกคนไม่มีใครคิดล่วงหน้าได้เลย ตะวันจวนค่ำลงทุกที เหลือเพชรก่อนใหญ่อีกหนึ่งก้อนที่เอาอยากเหลือเกิน ภรรยาจึงพูดว่าพี่ลองไปเอาดู ได้ก่อนนี้เราค่อยกลับบ้านกันนะ นายพรานเลยล้วงมือเข้าจับเพชรก้อนใหญ่อยู่ไม่นาน สิงโตกัดแขนเขาเอาออกไม่ได้ นายพรานดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด ภรรยา คนใช้ เห็นแล้วช่วยกันดึงออกก็ไม่ได้ พอดีตะวันจวนจะค่ำ ฝนใหญ่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้น้ำในลำห้วยไหลมาอย่างแรงท่วมขึ้นถึงหน้าอกของนายพรานร้องคร่ำครวญด้วยความสลดใจยิ่งนัก เพราะไหน ๆ เราก็จะตายแน่นอนไม่รอดแน่คราวนี้ ภรรยา คนใช้ร้องแทบขาดใจ แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ น้ำได้ท่วมถึงลำคอแล้ว ฉุดดิ้น ฉุดดึง ก็ไม่มีทางหลุดออกมาได้ นายพรานจึงสั่งเสียเมียรักและคนใช้ด้วยความอาลัยอาวรณ์ ผู้สามีจึงพูดว่า เอาละน้องทั้งสองเมียของพี่ พี่ขอชมเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะตายเถอะนะ ไหนพี่ก็จะตายอยู่แล้วเจ้าจงแก้ผ้าออกหมดแล้วมาให้หอมก่อนตายเถอะนะไม่ต้องอายพี่หรอก พี่ขอชมเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนพี่จะตาย เร็ว ๆ คนใช้คนใช้บอกนายสาวแก้ผ้าออก นายสาวไม่กล้าเพราะอาย แก้เถอะคุณนาย ขอให้นายท่านชมเป็นครั้งสุดท้ายเถอะน่า ไหน ๆ ท่านก็จะตายอยู่แล้วอายทำไม นายสาวก็ไม่กล้าแก้ผ้า คนใช้กลับไปดู ผู้เป็นนายที่น้ำกำลังจะท่วม ปากครึ่งจมูกครึ่ง เหลืออีกไม่กี่นาทีนายผู้มีคุณก็จะตายจากไปแล้ว นางจึงพูดขึ้นว่านายหญิงไม่กล้าชมฉันแทนก็ได้ นางตัดสินใจแก้ผ้าออกหมดถึงตอนนี้ท่านนึกเอาเองเถอะ นางถอดเสื้อผ้าออกแล้ววิ่งเข้าไปกอดนายพรานที่กำลังจะตาย แล้วพูดว่านายท่านอย่าเพิ่งตายชมหนูแทนคุณผู้หญิงเถอะ หนูไม่ว่าเลยสุดแท้แต่นายท่าน จะจูบจะชมตรงไหนเอาเลยท่าน เอาให้สมใจเลย นายพรานจูบชมนางอย่างเมามันจูบทุกส่วนของนางที่มอบให้จูบอยู่ไม่นานสิงโตเลยหัวเราะ พอสิงโตหัวเราะปากสิงโตอ้ากว้างออก นางคนใช้จึงดึงแขนนายพรานออกจากปากสิงโตอย่างรวดเร็วชีวิตจึงรอดพ้นจากความตาย ในครั้งนี้อย่างปาฏิหาริย์ เมื่อรอดพ้นความตายมาแล้ว นายพรานจึงเห็นความดีของคนใช้จึงรับนางเป็นศรีภรรยาอีกคน เลี้ยงดูนางอย่างมีความสุข
มูลเหตุอย่างนี้ ผู้ชายจึงรักเมียน้อยมากกว่า เพราะรอดชีวิตมาและผู้ชายเริ่มมีเมียน้อยมาตั้งแต่ปางนั้นเอง
ยินดีด้วยครับที่ทำบล๊อกสำเร็จ
เรื่องที่เล่านี้อยากให้ข้อคิดอะไรครับ?
แล้วมีภรรยาสองคนนี้ดีหรือเปล่าครับ?
ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ แต่ถ้าหากว่า ภรรยาคนใหม่นี้กล้าทำถึงขนาดนี้เพื่อช่วยเป็นบุญตาสามี ก็โอเคคะ
ถือว่าช่วยกันบริหาร ยอมคะ แต่สิทธิในบ้านทุกอย่างจะต้องเชื่อเมียใหญ่ด้วย รักจริงต้องเข้าใจ ไม่มีใครใหญ่กว่าเมีย ที่ทำงานถือว่าตนเองใหญ่ อย่าลืมกลับมาบ้าน เมียที่บ้านต้องใหญ่กว่าคะ
ว่าที่บัณฑิต มหาวิทยาลัยชีวิต ศูนย์เรียนรู้อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น
การที่มีเมีย 2 ได้แสดงว่าเป็นนักบริหารตัวยงจึงสามารถทำเช่นนี้ได้ นักบริหารน่าที่จะศึกษาเป็นอย่างยิ่ง.......???????????????
มีกี่คนไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าจะดูแลรับผิดชอบเขาได้อย่างไร และจะบริหารอย่างไรให้เป็นธรรมมากกว่า
ที่มีปัญหากันอยู่ทุกวันนี้ก็สักแต่ว่ามี แต่รับผิดชอบไม่ไหว ( แล้วจะมีไปทำไมเนอะ )
แวะมาเยี่ยมครับ
ขอบคุณครับ ดีใจครับที่มีคนเห็นใจและเข้าใจเรามาช่วยกันบริหารนะครับ... อิอิ ขอบคุณครับ