ถูกเมียเอาเปรียบ


โปรดอ่านจนจบเถิด แล้วจะได้รู้ว่า เธอทำงานหนักเพียงใด
เมื่อสัปดาห์ก่อน ได้อ่าน e-mail เรื่องเพศแม่ จึงอยากมาเล่าให้ฟัง

           

มีชายคนหนึ่งซึ่งทำงานโดยที่ภรรยาอยู่ที่บ้าน เขารู้สึกเหนื่อยกับการทำงานทุกวัน และจะมาบ่นให้ภรรยาซึ่งอยู่บ้านเฉยๆฟังทุกวันว่าเขาเหนื่อยมากแค่ไหนจากการที่ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวอยู่คนเดียวอย่างนี้

            ในคืนหนึ่ง เขาได้อธิษฐานขอพรจากพระเจ้าของเขา โอพระเจ้า ลูกทำงานเหนื่อยเหน็ดทุกวัน โดยที่ภรรยาของลูกไม่ต้องทำงานเลย ลูกอยากให้เธอได้รับรู้ถึงความยากลำบากนี้ โปรดดลบันดาลให้ลูกกับเธอได้แลกเปลี่ยนร่างกันสักวันหนึ่งเถิด

            ดังนั้นในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น พระเจ้าก็ได้สลับร่างให้ชายผู้นี้

            เมื่อตื่นขึ้นมา เขาต้องรีบลุกขึ้นเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้ลูกทั้ง 3 คนและสามี ที่แต่ละคนมีความชอบอาหารที่ไม่เหมือนกันเลยสักนิด จากนั้นก็ขับรถพาลูกๆทั้ง 3 คนไปโรงเรียน เมื่อส่งลูกแล้ว เธอต้องรีบกลับไปที่บ้านเพื่อทำความสะอาดจานข้าว กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้าของครอบครัว เข้าไปจัดและทำความสะอาดที่นอนของลูกทั้ง 3 คนและห้องของตัวเองเป็นลำดับต่อมา จากนั้นก็มาตากผ้าที่ซักไว้ กว่าจะเสร็จงานก็เที่ยงพอดี หลังจากที่กินข้าวเที่ยงเสร็จก็ขับรถออกไปที่ตลาดเพื่อซื้อกับข้าวสำหรับทำในมื้อเย็น จากนั้นก็รีบกลับบ้านเพื่อเก็บผ้าที่ตากไว้ ก่อนที่จะเริ่มทำอาหาร ยังมีเวลาเหลือมากพอที่จะรีดชุดนักเรียนให้ลูกและชุดทำงานให้สามี บ่าย 3 โมงกว่าๆก็รีบขับรถออกไปรับลูกทั้ง 3 คนที่กำลังจะเลิกเรียนในอีก 30 นาทีข้างหน้านี้ เมื่อรับลูกกลับบ้าน ก็ต้องวุ่นวายกับการจัดการเรื่องการบ้านของท่านๆทั้ง 3 คนจนเสร็จเรียบร้อย และกว่าจะจัดการเรื่องเคี่ยวเข็ญให้แต่ละคนอาบน้ำจนเสร็จก็เกือบ 6 โมง คุณสามีก็กลับมาบ้านพอดี พร้อมกับท่าทางเหนื่อยอ่อนและพร่ำบ่นถึงความยากลำบากในการทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวให้ฟัง

            เสร็จมื้ออาหารเย็นก็ต้องรีบล้างจานและส่งลูกๆเข้าห้องนอนและอ่านหนังสือให้เจ้าคนสุดท้องฟังก่อนนอนอีกต่างหาก เธอติดแม่มากกว่าพ่อ กว่าจะได้อาบน้ำก็ล่วงเข้าไป 3 ทุ่มครึ่งแล้ว เมื่อเข้ามาในห้องนอน ก็ต้องยอมให้คุณสามีร่วมรักกับเธอก่อนทั้งๆที่เหนื่อยล้าเต็มทีแล้ว แต่ก็ไม่เอ่ยปากบ่น เพราะว่าเธอรักเขามากนั่นเอง

            คืนนี้นี่เองที่เขาได้ประจักษ์แล้วว่า ภรรยาของเขาเหนื่อยล้าจากการทำงานบ้านมากเพียงใด เขารู้สึกผิดที่คิดเสมอว่าภรรยาไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้เขาทำงานหาเลี้ยงครอบครัวอย่างเดียว และเขาก็เริ่มอธิษฐานอีกครั้ง โอพระเจ้า ลูกรู้แล้วถึงความยากลำบากของภรรยา ลูกขอกลับไปใช้ชีวิตอย่างเดิมด้วยเถิด พระเจ้าก็ตอบเขาไปว่า ลูกเอ๋ย เห็นไหมว่าภรรยาเจ้าเหนื่อยอย่างมาก แต่เธอก็ไม่เคยบ่นให้เจ้าฟังเลยสักครั้ง บทเรียนนี้ไม่น่าจะจบลงอย่างง่ายดายหรอกนะ พ่อจะให้เจ้ารอไปอีก 9 เดือนข้างหน้า เพราะว่า การร่วมรักเมื่อครู่นี้ เจ้าได้ให้การปฏิสนธิทารกน้อยเพิ่มมาอีก 1 คน จงใช้ชีวิตอย่างนี้ต่อไป เพื่อที่จะได้รู้ว่า ภรรยาของเจ้าเขาลำบากเพียงไร
หมายเลขบันทึก: 117172เขียนเมื่อ 5 สิงหาคม 2007 21:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน 2012 00:41 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)
P
งานแม่บ้าน เป็นงานหนัก ไม่มีวันหยุด รับผิดชอบทุกอย่างในบ้าน ยิ่งลูกหลายคนยิ่งยุ่ง ไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง แต่ก็เต็มใจทำและมีความสุข เพราะ คำว่า รัก คำเดียวค่ะ
แต่มีผู้หญิงหลายๆคน ที่อยากเป็นแม่บ้านอย่างเดียวเหมือนกัน โดยมากมักเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยชอบสังคมมากนัก
ในความเห็นส่วนตัว ผู้หญิงควรทำงานด้วย ไม่ต้องหนักอย่างผู้ชาย แต่ไม่ควรเป็นแม่บ้านอย่างเดียว  อะไรๆๆๆ ก็ไม่แน่นอนในชีวิตหรอก

คุณ P ครับ

บันทึกเรื่องนี้เขียนขึ้นมาเพื่อเทิดทูนพวกเธอที่ทำให้บ้านน่าอยู่ครับ

เขียนขึ้นมา เพื่อให้คนที่ชอบรู้สึกว่าตัวเองทำงานหนักเหลือเกินได้คิดบ้าง ว่าคนอื่นเขาก็ทำงาน แต่ในบทบาทที่แตกต่างกันไป

ผมมีเพื่อนร่วมงานบางคนชอบคิดแบบนี้ครับ คิดว่าเขาทำงานหนักมาก หนักกว่าคนอื่นๆ จนลืมดูว่าคนรอบข้างก็ทำงานหนัก

คนงานกวาดถูโรงพยาบาลก็ยังคงทำงาน คนแปลก็เข็นแปลทั้งวัน พยาบาลก็ทำงานหนัก นอนไม่เป็นเวลาเพราะทำงานเป็นกะ กรรมกรยังต้องทำงานทุกวันแทบไม่มีวันหยุด

 

Afternoo ค่ะ คุณหมอ
P

2. ธนพันธ์ ชูบุญ

  • ตอนแรก อ่านแล้วสนุกดีค่ะ
  • เพื่อนๆของต้า ที่สนิทๆหลายคนเปลี่ยนไปแล้ว
  • หลังจากมีครอบครัว แต่ดูเขา happy ดีค่ะ
  • แต่บางคน กลายเป็นคนซึมเศร้าไปเลย
  • พออ่านจบ เฮ่อ........ช่างน่ากลัวอะไรอย่างนี้นะ
  • ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ....
  • อันที่รู้จักมานานแล้ว...แต่ไม่เคยคุยด้วย
  • สวัสดีค่ะ

สวัสดีครับคุณ anita P

ยินดีที่ได้รู้จักเช่นเดียวกันครับ (อันที่จริงก็รู้จักมานานแล้วเหมียนกัล)

การมีครอบครับนี่บางคนบอกว่า "คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า" ครับ (ฮา)

ผมเข้ามาอยู่ในวงจรชีวิตนี่ก็จะครบ 10 ปีในเดือนหน้านี้แล้ว ยังไม่อยากออกไปเลยครับ

บางคนก็บอกว่า แค่ 10 ปีเอง อย่าเพิ่งพูดไปไอ้น้อง ฮ่า ฮ่า

ปฐมธิดา ชิโนณะวณิก

คุณหมอคะ.....

ที่คุณSASINANDAบอกว่าคนหลายคนอยากเป็นแม่บ้าน ส่วนใหญ่เป็นคนเงียบๆไม่ชอบสังคมมากนัก จอยว่าไม่จิ๊งไม่จริงค่ะ

จอยเองก็อย้ากอยากเป็นแม่บ้านเหมือนกันค่ะ....แต่ไม่ได้เป็นคนเงียบๆไม่ชอบสังคมมากนักนะคะ เป็นตรงกันข้ามเลยค่ะ

เพียงแต่อยากเลี้ยงลูกเอง มีเวลาให้ลูก100%(มากไปมั้ยเนี่ย)ได้เห็นพัฒนาการในทุกด้านของเค้าในวัยเด็ก ตอนรู้ว่าท้อง

ยังตัดสินใจลาออกมาเลี้ยงลูกเลยนะคะนี่เพิ่งกลับมาทำงานได้ 1 ปี ถ้าฐานะทางบ้านดีกว่านี้คงให้แฟนทำงานคนเดียวเหมือนกัน

อดเลยอ่ะ..........

เอาเถิดครับคุณจอย

ใครจะเงียบ จะโฉ่งฉ่าง รวย หรือจน หรือสามียังไม่รวย ช่างหัว

ที่เห็นตรงกันก็คือ ครอบครัวมีความรักอย่างเปี่ยมล้น ไม่เลี้ยงลูกด้วยเงินที่ล้นเหลือ ดีกว่าใช่ไหมครับ

ปฐมธิดา ชิโนณะวณิก

ใช่ค่ะ....แต่

ตอนนี้เห็นลูก(แค่)สนใจอะไรหน่อยเดียว

อยากซื้อให้ทู้กที...แต่ปฏิวัติตัวเองอยู่ลูกจะได้มีเงินเก็บมั่ง

คุณจอย

วิธีหนึ่งที่ใช้ได้ก็คือ ดูและสัมผัสอยู่ที่ร้านนั่นแหละ ประหยัดที่สุด

ปฐมธิดา ชิโนณะวณิก

ที่คุณหมอพูดมา..นั่นล่ะค่ะคือวิธีของเจ้าตัวเล็ก

แต่วิธีของเจ้าตัวใหญ่อ่ะ....มันเปลืองจริงๆเลย

ขอบคุณนะคะ

ตกลงรู้แล้วใช่ไหม ว่าปัญหาอยู่ที่ไหนครับ

เกิดมรรคไหม

นั่นน่ะสิค่ะคุณหมอ....รู้ว่าปัญหาอยู่ที่ไหน

แต่เกิดกิเลศมากกว่าเกิดมรรค(แต่ตอนนี้ควบคุมอยู่)

คุณหมอรู้มั้ยว่าจริงๆจอยไม่ค่อยชอบพระที่ดูดวง ใบ้หวย หรือสร้างอะไรๆที่มันใหญ่โตแต่ใช้ประโยชน์ได้น้อย

ไม่รู้คุณหมอคิดเห็นอย่างไรอาจคิดไม่เหมือนกันก็ไม่เป็นไรนะคะเราแค่แลกเปลี่ยนทัศนะ แต่อยากบอกว่าจอยชอบท่านว.อ่ะคะ

ท่านสามารถเปิดใจจอยให้เข้าถึงธรรมได้เพราะท่านดูแบบไม่ค่อยงมงาย มีเหตุมีผลอ่ะค่ะ

อันนี้ไม่มีคามเห็นจริงๆครับ เพราะไม่เคยเปิดหนังสือธรรมะอ่านเลยสักครั้ง คุณจอย

เรื่องพระนั้น ตอนนี้ผมยังสับสนอยู่ครับ

ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย จงดลบันดาลให้ ท่านและครอบครัว พบแต่ความสุข ความเจริญตลอดไปเทอญ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท