มีชายคนหนึ่งซึ่งทำงานโดยที่ภรรยาอยู่ที่บ้าน เขารู้สึกเหนื่อยกับการทำงานทุกวัน และจะมาบ่นให้ภรรยาซึ่งอยู่บ้านเฉยๆฟังทุกวันว่าเขาเหนื่อยมากแค่ไหนจากการที่ต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวอยู่คนเดียวอย่างนี้
ในคืนหนึ่ง เขาได้อธิษฐานขอพรจากพระเจ้าของเขา “โอพระเจ้า ลูกทำงานเหนื่อยเหน็ดทุกวัน โดยที่ภรรยาของลูกไม่ต้องทำงานเลย ลูกอยากให้เธอได้รับรู้ถึงความยากลำบากนี้ โปรดดลบันดาลให้ลูกกับเธอได้แลกเปลี่ยนร่างกันสักวันหนึ่งเถิด”
ดังนั้นในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น พระเจ้าก็ได้สลับร่างให้ชายผู้นี้
เมื่อตื่นขึ้นมา เขาต้องรีบลุกขึ้นเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้ลูกทั้ง 3 คนและสามี ที่แต่ละคนมีความชอบอาหารที่ไม่เหมือนกันเลยสักนิด จากนั้นก็ขับรถพาลูกๆทั้ง 3 คนไปโรงเรียน เมื่อส่งลูกแล้ว เธอต้องรีบกลับไปที่บ้านเพื่อทำความสะอาดจานข้าว กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้าของครอบครัว เข้าไปจัดและทำความสะอาดที่นอนของลูกทั้ง 3 คนและห้องของตัวเองเป็นลำดับต่อมา จากนั้นก็มาตากผ้าที่ซักไว้ กว่าจะเสร็จงานก็เที่ยงพอดี หลังจากที่กินข้าวเที่ยงเสร็จก็ขับรถออกไปที่ตลาดเพื่อซื้อกับข้าวสำหรับทำในมื้อเย็น จากนั้นก็รีบกลับบ้านเพื่อเก็บผ้าที่ตากไว้ ก่อนที่จะเริ่มทำอาหาร ยังมีเวลาเหลือมากพอที่จะรีดชุดนักเรียนให้ลูกและชุดทำงานให้สามี บ่าย 3 โมงกว่าๆก็รีบขับรถออกไปรับลูกทั้ง 3 คนที่กำลังจะเลิกเรียนในอีก 30 นาทีข้างหน้านี้ เมื่อรับลูกกลับบ้าน ก็ต้องวุ่นวายกับการจัดการเรื่องการบ้านของท่านๆทั้ง 3 คนจนเสร็จเรียบร้อย และกว่าจะจัดการเรื่องเคี่ยวเข็ญให้แต่ละคนอาบน้ำจนเสร็จก็เกือบ 6 โมง คุณสามีก็กลับมาบ้านพอดี พร้อมกับท่าทางเหนื่อยอ่อนและพร่ำบ่นถึงความยากลำบากในการทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวให้ฟัง
เสร็จมื้ออาหารเย็นก็ต้องรีบล้างจานและส่งลูกๆเข้าห้องนอนและอ่านหนังสือให้เจ้าคนสุดท้องฟังก่อนนอนอีกต่างหาก เธอติดแม่มากกว่าพ่อ กว่าจะได้อาบน้ำก็ล่วงเข้าไป 3 ทุ่มครึ่งแล้ว เมื่อเข้ามาในห้องนอน ก็ต้องยอมให้คุณสามีร่วมรักกับเธอก่อนทั้งๆที่เหนื่อยล้าเต็มทีแล้ว แต่ก็ไม่เอ่ยปากบ่น เพราะว่าเธอรักเขามากนั่นเอง
คืนนี้นี่เองที่เขาได้ประจักษ์แล้วว่า ภรรยาของเขาเหนื่อยล้าจากการทำงานบ้านมากเพียงใด เขารู้สึกผิดที่คิดเสมอว่าภรรยาไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้เขาทำงานหาเลี้ยงครอบครัวอย่างเดียว และเขาก็เริ่มอธิษฐานอีกครั้ง “โอพระเจ้า ลูกรู้แล้วถึงความยากลำบากของภรรยา ลูกขอกลับไปใช้ชีวิตอย่างเดิมด้วยเถิด” พระเจ้าก็ตอบเขาไปว่า “ลูกเอ๋ย เห็นไหมว่าภรรยาเจ้าเหนื่อยอย่างมาก แต่เธอก็ไม่เคยบ่นให้เจ้าฟังเลยสักครั้ง บทเรียนนี้ไม่น่าจะจบลงอย่างง่ายดายหรอกนะ พ่อจะให้เจ้ารอไปอีก 9 เดือนข้างหน้า เพราะว่า การร่วมรักเมื่อครู่นี้ เจ้าได้ให้การปฏิสนธิทารกน้อยเพิ่มมาอีก 1 คน จงใช้ชีวิตอย่างนี้ต่อไป เพื่อที่จะได้รู้ว่า ภรรยาของเจ้าเขาลำบากเพียงไร”
คุณ ครับ
บันทึกเรื่องนี้เขียนขึ้นมาเพื่อเทิดทูนพวกเธอที่ทำให้บ้านน่าอยู่ครับ
เขียนขึ้นมา เพื่อให้คนที่ชอบรู้สึกว่าตัวเองทำงานหนักเหลือเกินได้คิดบ้าง ว่าคนอื่นเขาก็ทำงาน แต่ในบทบาทที่แตกต่างกันไป
ผมมีเพื่อนร่วมงานบางคนชอบคิดแบบนี้ครับ คิดว่าเขาทำงานหนักมาก หนักกว่าคนอื่นๆ จนลืมดูว่าคนรอบข้างก็ทำงานหนัก
คนงานกวาดถูโรงพยาบาลก็ยังคงทำงาน คนแปลก็เข็นแปลทั้งวัน พยาบาลก็ทำงานหนัก นอนไม่เป็นเวลาเพราะทำงานเป็นกะ กรรมกรยังต้องทำงานทุกวันแทบไม่มีวันหยุด
สวัสดีครับคุณ anita
ยินดีที่ได้รู้จักเช่นเดียวกันครับ (อันที่จริงก็รู้จักมานานแล้วเหมียนกัล)
การมีครอบครับนี่บางคนบอกว่า "คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า" ครับ (ฮา)
ผมเข้ามาอยู่ในวงจรชีวิตนี่ก็จะครบ 10 ปีในเดือนหน้านี้แล้ว ยังไม่อยากออกไปเลยครับ
บางคนก็บอกว่า แค่ 10 ปีเอง อย่าเพิ่งพูดไปไอ้น้อง ฮ่า ฮ่า
คุณหมอคะ.....
ที่คุณSASINANDAบอกว่าคนหลายคนอยากเป็นแม่บ้าน ส่วนใหญ่เป็นคนเงียบๆไม่ชอบสังคมมากนัก จอยว่าไม่จิ๊งไม่จริงค่ะ
จอยเองก็อย้ากอยากเป็นแม่บ้านเหมือนกันค่ะ....แต่ไม่ได้เป็นคนเงียบๆไม่ชอบสังคมมากนักนะคะ เป็นตรงกันข้ามเลยค่ะ
เพียงแต่อยากเลี้ยงลูกเอง มีเวลาให้ลูก100%(มากไปมั้ยเนี่ย)ได้เห็นพัฒนาการในทุกด้านของเค้าในวัยเด็ก ตอนรู้ว่าท้อง
ยังตัดสินใจลาออกมาเลี้ยงลูกเลยนะคะนี่เพิ่งกลับมาทำงานได้ 1 ปี ถ้าฐานะทางบ้านดีกว่านี้คงให้แฟนทำงานคนเดียวเหมือนกัน
อดเลยอ่ะ..........
เอาเถิดครับคุณจอย
ใครจะเงียบ จะโฉ่งฉ่าง รวย หรือจน หรือสามียังไม่รวย ช่างหัว
ที่เห็นตรงกันก็คือ ครอบครัวมีความรักอย่างเปี่ยมล้น ไม่เลี้ยงลูกด้วยเงินที่ล้นเหลือ ดีกว่าใช่ไหมครับ
ใช่ค่ะ....แต่
ตอนนี้เห็นลูก(แค่)สนใจอะไรหน่อยเดียว
อยากซื้อให้ทู้กที...แต่ปฏิวัติตัวเองอยู่ลูกจะได้มีเงินเก็บมั่ง
คุณจอย
วิธีหนึ่งที่ใช้ได้ก็คือ ดูและสัมผัสอยู่ที่ร้านนั่นแหละ ประหยัดที่สุด
ที่คุณหมอพูดมา..นั่นล่ะค่ะคือวิธีของเจ้าตัวเล็ก
แต่วิธีของเจ้าตัวใหญ่อ่ะ....มันเปลืองจริงๆเลย
ขอบคุณนะคะ
ตกลงรู้แล้วใช่ไหม ว่าปัญหาอยู่ที่ไหนครับ
เกิดมรรคไหม
นั่นน่ะสิค่ะคุณหมอ....รู้ว่าปัญหาอยู่ที่ไหน
แต่เกิดกิเลศมากกว่าเกิดมรรค(แต่ตอนนี้ควบคุมอยู่)
คุณหมอรู้มั้ยว่าจริงๆจอยไม่ค่อยชอบพระที่ดูดวง ใบ้หวย หรือสร้างอะไรๆที่มันใหญ่โตแต่ใช้ประโยชน์ได้น้อย
ไม่รู้คุณหมอคิดเห็นอย่างไรอาจคิดไม่เหมือนกันก็ไม่เป็นไรนะคะเราแค่แลกเปลี่ยนทัศนะ แต่อยากบอกว่าจอยชอบท่านว.อ่ะคะ
ท่านสามารถเปิดใจจอยให้เข้าถึงธรรมได้เพราะท่านดูแบบไม่ค่อยงมงาย มีเหตุมีผลอ่ะค่ะ
อันนี้ไม่มีคามเห็นจริงๆครับ เพราะไม่เคยเปิดหนังสือธรรมะอ่านเลยสักครั้ง คุณจอย
เรื่องพระนั้น ตอนนี้ผมยังสับสนอยู่ครับ
ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย จงดลบันดาลให้ ท่านและครอบครัว พบแต่ความสุข ความเจริญตลอดไปเทอญ