mother's 8 lies
1. เรื่องเริ่มขึ้นตอนเมื่อผมเป็นเด็ก ๆ
6. ในทื่สุดผมก็เรียนจบและมีงานทำ
ผมอยากให้แม่ซึ่งตรากตรำทำงานหนักมาตลอดได้พักผ่อนบ้าง แต่แม่ไม่ยอม.....กลับไปตลาดทุกเช้า ขายผักที่หามาได้เพื่อเลี้ยงชีพทั้ง ๆที่ผมพยายามส่งเงินมาให้แม่ (ผมต้องไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล) แม่ผมไม่ค่อยยอมรับเงินผม..บางครั้งยังส่งเงินกลับคืนให้ผมอีก แม่พูดกับผมว่า "แม่มีเงินพอใช้แล้ว...ลูกควรเก็บเงินไว้สร้างฐานะ" แม่โกหกผมเป็นครั้งที่ 6
7. เพื่ออนาคตที่ก้าวหน้า..
ผมตัดสินใจเรียนต่อปริญญาโทด้วยทุนของมหาวิทยาลัยที่ม ีชื่อเสียงในอเมริกา เมื่อผมเรียนจบก็ได้งานทำที่นั่นและมีเงินเดือนค่อนข้างสูง เมื่อทำงานไปได้สักพัก...ผมอยากให้แม่ผมมาอยู่กับผมที่อเมริกา เพื่อว่าแม่จะได้หยุดทำงาน...พักผ่อนให้สบายในบั้นปลายของชีวิต แต่แม่ผมไม่อยากรบกวนผม...บอกผมว่า "แม่ไม่คุ้นเคยกับชีวิตต่างแดน" ครั้งที่ 7 แล้วซินะที่แม่โกหกผม
8. เมื่อแม่แก่ตัวลงไปเรื่อย ๆ..
ในที่สุดแม่ก็เป็นมะเร็งและต้องเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาล ผมลางานแล้วรีบบินกลับมาหาแม่สุดที่รักทันที แม่ผมนอนพักฟื้นอยู่บนเตียงเมื่อผมไปถึง น้ำตาผมไหลอาบแก้มเมื่อเห็นแม่ซึ่งผ่ายผอมและดูทรุดโทรมลงอย่างมาก แม่รู้สึกดีใจมากที่เห็นผม....พยายามยิ้มอย่างสดชื่น ด้วยความลำบาก ผมรู้ดีว่าแม่ได้ฝืนความเจ็บปวดรวดร้าวอย่างสุดฝืน จากโรคมะเร็งร้ายที่ลามไปทั่วทั้งตัว ผมโอบกอดแม่พร้อมกับร้องไห้ด้วยความสงสาร หัวใจผมในขณะนั้นเศร้าหมองและเจ็บปวดอย่างที่สุด แม่พยายามปลอบผมด้วยเสียงที่แหบพร่าและสั่นเครือ "ลูกรักของแม่...เห็นหน้าลูกแม่ไม่รู้สึกเจ็บแล้ว" นี่เป็นครั้งที่ 8 ที่แม่โกหก และเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของแม่ที่โกหกผม
ขอมอบความรักให้กับแม่....
ถ้าสถานะความเป็นลูก เมื่ออ่านแล้ว อยากกลับบ้านไปหาแม่ และบอกแม่ว่ารักแม่มากที่สุด แต่ถ้ามองด้วยสถานะความเป็นแม่ ต้องบอกว่า โกหกเพื่อลูก แล้วตัวเองก็มีความสุข นี่แหละคือแม่
ขอบคุณ ครูนอย ที่มาเยี่ยมเยือน..
คนที่เป็นแม่จะมีความรู้สึกต่อลูกมากๆ
การพูดโกหกเพื่อให้คนที่เรารัก แม้ว่าจะไม่เป็นความจริง แต่เพื่อให้คนที่เรารัก ใกล้ชิดได้สบายใจ ไม่ถือว่าเป็นบาป แต่การโกหกเพื่อเอาตัวรอดหรือหลอกลวงให้ผู้อื่นเสียผู้เสียคนเป็นบาปและผิดศีลข้อมุสา
ความรักของแม่นั้นยิ่งใหญ่นัก
ขอเพียงให้ลูกรักได้สุขสันต์
ขอเพียงให้ลูกลูกรักใคร่กัน
ขอเพียงให้ลูกนั้นเป็นคนดี