Ω พบว่าการโอบกอดลูกดังกล่าวจะมีผลให้
∆ กระตุ้นให้น้ำนมแม่มาเร็ว
∆ แม่มีระดับฮอร์โมนแห่งความรักโดยธรรมชาติ (Oxytocin) เพิ่มขึ้นในกระแสเลือด
และไปกระตุ้นสมองของแม่ รวมทั้งจะถูกส่งผ่าน มาทางน้ำนมแม่ไปกระตุ้นสมองของลูกเช่นกัน
∆ ฮอร์โมนแห่งความรักที่เกิดโดยธรรมชาตินี้ แตกต่างจากฮอร์โมนสังเคราะห์
ที่แม่ได้รับการฉีดในระยะหลังคลอด ซึ่งจะมีผลให้มดลูกมีการบีบตัวเท่านั้น
∆ ฮอร์โมนแห่งความรักที่เกิดโดยธรรมชาติก่อให้เกิดผลดีต่อแม่และลูกดังนี้
สำหรับแม่
สำหรับลูก
สารช่วยปกป้องลำไส้ พบว่ามีถึง 19 ชนิด
พบว่า จะช่วยให้แม่ลูกคุ้นเคยกันมากขึ้น โดยใช้เวลาเพียง 3 วัน เมื่อเทียบกับถ้าไม่ได้ให้มีการโอบกอดตั้งแต่เริ่มแรกจะใช้เวลาถึง 10 วัน ภูมิคุ้มกันครบด้าน เริ่มตั้งแต่หยดแรก“น้ำนมแม่ มีภูมิคุ้มกันทุกหยด
มีระดับสูงสุดในสัปดาห์แรก และ
ยังคงมีตลอดจนหยดสุดท้าย”
“เพื่อให้ลูกจะได้ดูดกระตุ้นนมแม่ และได้รับหัวน้ำนม”
น้ำนมในสัปดาห์แรก (นมโคลอสตรัม) เป็นหัวน้ำนมที่มี
สารภูมิคุ้มกันครบด้าน เช่น ระบบเม็ดเลือดขาว ระบบภูมิคุ้มกันทีเซลล์
บีเซลล์ ระบบจุลินทรีย์สุขภาพ ฯลฯ นอกจากนั้นยังมี วิตามิน เกลือแร่
สำคัญ และสารช่วยการเจริญเติบโตอีกมาก ธรรมชาติให้มาเพื่อปกป้องลูก
ในระยะแรกเกิด ซึ่งลูกยังบอบบาง ติดเชื้อได้ง่าย
ดังนั้น...พยายามให้ลูกได้รับหัวน้ำนม (นมโคลอสตรัม)
หลังคลอดลูก
นอกจากนี้ พบว่าภูมิคุ้มกันในนมแม่
สารภูมิคุ้มกัน S-IgA ในนมแม่ นอกจากจะปกป้องทางเดินอาหาร เมื่อถูกดูดซึม
จะไปกระตุ้นอวัยวะต่างๆ เช่น ทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ ทางเดินปัสสาวะ
ก่อให้เกิดภูมิคุ้มกันเฉพาะที่ปกป้องสุขภาพลูก
และเสริมสร้างภูมิคุมกันได้จริง และดีที่สุด
ระยะหลังคลอด....
อย่า แยกแม่ลูก หรือ บีบน้ำนมทิ้ง
“นมแม่ ให้ภูมิคุ้มกันที่ครบด้าน และเหมาะสมกับลูกคน ที่ยังไม่มีนมใด สามารถเลียนแบบได้” สมองเด็ก กินนมแม่จะไวต่อการเรียนรู้“พบว่า พัฒนาการทางสมองจะดีกว่า 2-11 จุด ยิ่งถ้าได้รับการเลี้ยงดู ในสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ก็จะยิ่งดี” Ω วัยทารกสมองโตเร็วนมแม่ อาหารที่ดีและครบถ้วน ที่สมองสามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ Ω นมแม่สารอาหารที่ดี และครบถ้วนต่อสมองเช่น ไขมัน DHA AA กรดไซอาลิค ทอรีน คาร์นิทีน นิวคลีโอไทด์ กาแลคโตไซด์ธาตุเหล็ก สารช่วยการเติบโตของสมอง ฮอร์โมนส่งเสริมการเจริญเติบโตของสมองต่างๆΩ ไขมันในนมแม่ถูกย่อย และนำไปใช้ได้เต็มที่ ในทารกระยะ 6 เดือนแรก ยังมีน้ำย่อยไขมันไม่เพียงพอนมแม่ก็จะมีน้ำย่อยไขมันมาพร้อมด้วยธาตุเหล็กในน้ำนมแม่มีการดูดซึมได้ดีถึงร้อยละ 50-70 ในขณะที่ในนมผสมสามารถดูดซึมได้เพียง ร้อยละ10สารชีวภาพเช่น สารช่วยการเติบโตของสมอง ฮอร์โมนส่งเสริมการเจริญเติบโตของสมองต่างๆแม่ต้องเป็นผู้ผลิตเอง รวมทั้งสารในระบบภูมิคุ้มกัน ฯลฯΩ สารต่างๆ เหล่านี้ทำงานประสานกันเหมือนวงดนตรีส่งผลให้ เส้นใยสมองมีการเชื่อมโยงที่ดี มีเปลือกหุ้มหนา... ทำให้ส่งต่อข้อมูลได้เร็วจอประสาทตาแข็งแรง... ทำให้สายตามีความเฉียบคมสายตามีความเฉียบคม... ทำให้ ลูกเรียนรู้ได้เร็วΩ การได้อุ้มกอด สัมผัส กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ ระหว่างแม่ลูก อย่างต่อเนื่องให้ลูกกินนมแม่ แม่ก็ต้องอุ้ม ต้องกอดลูก ไม่ต่ำกว่าวันละ 7-8 ครั้ง กระตุ้นให้เกิดจุดเชื่อมโยงของเส้นใยประสาท กระตุ้นให้เกิดวงจรการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ อย่างสม่ำเสมอ “สารภูมิคุ้มกันในนมแม่ ช่วยทำให้ลูกไม่ป่วยบ่อย ทำให้สมองไม่หยุดชะงักการเจริญเติบโต” “สารเหล่านี้ มีขบวนการสร้างและสังเคราะห์ในร่างกายของแม่ สด และใหม่ พร้อมใช้ทันท่วงที ต่างจากนมที่มีการปรุงแต่ง ” กินนมแม่ ลดโอกาสเกิดโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะโรคแพ้โปรตีนนมวัว “ในวัยทารก โรคภูมิแพ้ที่พบบ่อย คือ โรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ (Atopic dermatitis) และ โรคแพ้โปรตีนนมวัว (Cow’s milk protein allergy)” วัยทารก โดยเฉพาะระยะ 6 เดือน เป็นระยะที่ทารก ยังอยู่ในระยะอ่อนแอ เยื่อบุทางเดินอาหารทางเดินหายใจไม่แข็งแรง ระบบภูมิคุ้มกัน ยังสร้างได้ไม่เต็มที่ และระบบน้ำย่อยอาหาร ก็ยังไม่แข็งแรง...จึงง่ายต่อการติดเชื้อ สารแปลกปลอมเล็ดลอดเข้าไปกระตุ้นให้แพ้ได้ง่าย ¥ รู้จัก โรคแพ้โปรตีนนมวัว เกิดจากโปรตีนนมวัว เล็ดลอดผนังลำไส้ที่ยังไม่แข็งแรง กระตุ้นให้เกิดการแพ้ขึ้น ¥ โรคแพ้โปรตีนนมวัว ปัจจุบันพบได้มากจากรายงานพบได้ถึงร้อยละ 2-5 และมีแนวโน้มสูงขึ้น เด็กไทยเกิดปีละประมาณ 800,000 คนถ้าคิดประมาณว่า มีอัตราเกิดโรคนี้ ร้อยละ 3 ของทารกในแต่ละปี ประเทศไทยจะมีทารกเป็นโรคนี้ประมาณ 24,000 คน¥ ให้ทารกกินนมผสม เสี่ยงสูง ต่อการเกิดโรคแพ้โปรตีนนมวัว