บุษบงค์ จงจิตเจริญ (ยิน) 49231350
ผมสนใจหัวข้อเรื่องนี้มากเลยครับ เพราะ Office ผมตอนนี้เป็นกันมาก เริ่มจากขัดแย้งส่วนตัว จนส่งผลมาเรื่องงาน ทำให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากไม่คุยกัน ยังไงผมจะติดตามอ่านบทความนี้ครับ
สุโรจน์ สุทธิตันตยาภรณ์ (บอย)
ขอบคุณค่ะที่สนใจ เพราะส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องน่าท้าทายเรื่องหนึ่งในอันที่จะทำอย่างไรที่จะสามารถเอาชนะความขัดแย้งทั้งในตัวเองและคนอื่นได้ ถือว่าเป็นสิ่งน่าชื่นชม มีเนื้อหาที่น่าสนใจอีกหลังจากค้นคว้าเพิ่มมาได้ค่อนข้างเยอะ ขอเวลายำใหญ่หน่อยนะคะ
คุณยินคะ
เรื่องน่าสนใจ ลองปรับจัดหน้าใหม่นะคะ ตอนนี้อ่านยากมาก ขอรับผิดว่ายังไม่ได้อ่านละเอียด ถ้าเรียบร้อยแล้ว จะกลับมาเยี่ยมอีกทีนะคะ
เนื้อเรื่องน่าสนใจมากเลยค่ะทีแรกไม่คิดเลยว่าความขัดแย้งจะมีประโยชน์ พอมาอ่านแล้วได้ความรู้เพิ่มเติม เท่าที่อ่านตอนนี้ก็ยังรู้สึกเลยนะคะว่า มันยากมากเลยนะคะในการที่จะบริหารความขัดแย้งให้เป็นประโยชน์ จะติดตามต่อไปนะคะว่าจะมีวิธีอย่างไรบ้าง
จากอุไรวรณ ทองเจริญ i/o ค่ะ
ทราบ่วามีการเพิ่มข้อมูล อยากได้ความรู้เพิ่มในวิธีการปรับปรุงตัวเราเอง และการสร้างสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สามารถบริหารความขัดแย้งเชิงบวกค่ะ
พี่บุป
จะจัดให้ตามเรียกร้องสำหรับทุก ๆ ท่าน แต่ตอนนี้มีปัญหาเรื่อง Front ค่ะ ขอเวลาอีกนิดนะคะ
ยิน
เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากค่ะ เพราะความขัดแย้งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกองค์กร ไม่ทราบว่า มีตัวอย่างของวิธีการลด/แก้ไขความขัดแย้งในองค์กรไหมคะ
เรื่องน่าสนใจมากครับ แต่ผมว่า แต่ละองค์กร ประเด็นความขัดแย้งต้องไม่เหมือนกันแน่ ๆ แล้วเค้าจะมีอะไรเป็นเกณฑ์หลักที่พอจะนำทางไปได้บ้างล่ะครับ แล้วคนที่จะจัดการต้องเป็นผู้บริหารเท่านั้นรึเปล่า อันนี้ต้องถกกัน
เราจะสามารถรับรู้ได้อย่างไรคับว่าองค์กรตอนนี้ของเราเริ่มเกิดความขัดแย้งที่อาจเกิดปัญหาในอนาคตได้ ไม่ทราบว่าพอมีแนวหรือมีสัญญาณบอกเหตุอะไรมั๊ยคับว่าองค์กรเราเริ่มมีปัญหาแล้ว(ยกตัวอย่างก็ได้นะคับ)หรือวิธีการที่จะรับรู้ก่อนที่จะเกิดปัญหาหรือแผลขึ้นกับองค์กร.....และอยากทราบถึงแนวป้องกันการขัดแย้งเชิงลบหรือการควบคุมให้ความขัดแย้งมันอยู่ในระดับที่เหมาะสมคับ
ขอบคุณครับ
น่าสนใจมากค่ะ บทความนี้ได้ให้แนวคิดใหม่ ๆ เกี่ยวกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างบุคคล ซึ่งมักเกิดขึ้นในทุกองค์กรไม่มากก็น้อย ในบริษัทของดิฉันก็มีความขัดแย้งเกิดขึ้นหลายระดับเหมือนกัน คิดว่าจะนำแนวคิดจากบทความนี้ไปปรับประยุกต์ใช้บริหารจัดการความขัดแย้งที่เกิดขึ้นไปในทางสร้างสรรค์ ให้เกดประโยชน์กับองค์กรโดยรวมค่ะ
คุณยิน คะ
ยิน
ขอบคุณมากสำหรับมุมมองในความขัดแย้ง พี่บุปสนใจเรื่อง การบริหารความขัดแย้งในสภาพที่เราอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง หรือเราเป็นผู้บริหารงานของกลุ่มที่มีความขัดแย้ง เราควรทำยังไง ไม่รู้ยินมีข้อมูลมั๊ยค่ะ
พี่บุป
ถึงพี่ยิน
รายละเอียด อยากให้มีการเพิ่มเยอะกว่านี้น่ะครับ รออยู่นะครับ
ถ้าได้เคสตัวอย่างด้วยก็จะเป็นการดีนะครับ
นุ้ย
ทำให้ได้ทราบว่าความขัดแย้งมีมากมายหลายมุมมองจริงๆ น่าจะมีตัวอย่างที่ทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนกว่านี้นะคะ เช่น สัญญาณบอกเหตุว่าตอนนี้ในองค์กรได้เริ่มเกิดความขัดแย้งแบบนี้ขึ้นแล้วนะ ลักษณะเหตุการณ์เป็นอย่างไร แล้วก็วิธีหรือแนวทางในการแก้ไขความขัดแย้งนั้นๆด้วย
ขอบคุณค่ะ
นันทน์
มีข้อสงสัยและแนะนำคล้ายๆ ปิค พี่นุ้ย นันทน์ พี่โบว์ พี่บุป ฯลฯ ค่ะ (ไม่ได้ลอกนะ แต่พออ่านแล้วเกิดรู้สึกว่าน่าจะเพิ่มเติมเรื่องนี้ อะไรแบบนี้)
และก็ขอเสริมอีกนิดหนึ่งตรงที่ว่า เราจะเชื่อมโยงการบริหารความขัดแย้ง เข้าในกิจกรรมอบรม training อย่างไรได้บ้าง
และมีหลักสูตรอบรมอะไรบ้างที่เคยทำแล้วสามารถขจัดความขัดแย้งทางลบ แล้วช่วยทำให้เกิดความขัดแย้งอันนำไปสู่การสร้างสรรค์ และในกระบวนการนี้ผู้บริหารมีส่วนเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหนคะ
อ่านดูแล้ว.. เหมือนว่ามันจะยังไม่จบป่ะคับ (เหมือนผมเลยอ่ะ ทำเผื่อแก้ แหะ ๆ ^^" ) อยากให้พี่ยินลองเสนอแนวทางในการลดความขัดแย้งดูอ่ะคับ ยิ่งถ้าเสนอ test ของ johnson ที่จะแบ่งว่าแต่ละคนมีวิธีการลดปัญหาความขัดแย้งด้วยวิธีไหน แบบ ปลาฉลาม ตุ๊กตาหมี ฯลฯ (ที่อ.ยอดสอนอ่ะคับ) จะแหล่มเลยแต่คงติดลิขสิทธิ์มั้ง (แล้วผมจะแนะนำไปทำไมเนี้ย)
สุดท้ายมาร่วมลงชื่อเป็นกำลังใจให้คับ.. สู้ๆ ^^" (รวมทั้งผมเองด้วยอ่ะ..)
พี่ยินฮะ อ่านดูแล้วเหมือนว่ามันยังไม่ค่อยจบดีป่ะ (เหมือนของผมเลยอ่ะ.. แต่ผมออกแนว ทำเผื่อแก้.. ^^" อิอิ)
อยากให้พี่ยินลองเสนอแนวทางการแก้ไขความขัดแย้งดูอ่ะคับ ถ้าลองเสนอ test ของ johnson ที่จะแบ่งวิธีการลดความขัดแย้งรูปแบบต่างๆ ออกมา เช่น แบบปลาฉลาม ตุ๊กตาหมี นกฮูก ฯลฯ (ที่ อ.ยอดสอน) จะแหล่มเลยคับ แต่ว่าคงติดเรื่องลิขสิทธิ์มั้งฮะ.. (แล้วผมจะแนะนำไปทำไมเนี้ย ^^")
อ่อ.. ตะกี้ผมเม้นไปรอบนึง แล้วมันหายไป กลัวว่ามันจะไปขึ้นผิดอันรึป่าว..หว่า.. โชว์โง่แน่ๆ ^^"
สุดท้าย เป็นกำลังใจให้ในการแก้ไขนะคับ (รวมทั้งเป็นกำลังใจให้ตัวผมเองด้วย.. สู้ๆ )
ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ คิดว่าเป็นปัญหาพื้นฐานที่สำคัญของทุกองค์กรเลยค่ะ
เพิ่งรู้ว่าความขัดแย้งก็มีประโยชน์ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ก็ตอนที่ได้อ่านเนี่ยแหละค่ะ สามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ในองค์กรได้ด้วย
ขอบคุณที่นำบทความดีๆอย่างนี้มาลงค่ะ ^^
ขอบคุณสำหรับทุกถ้อยคำที่ชี้แนะนะคะ จะรวบรวมให้ครบทุกประเด็ฯไม่ตกหล่นเลยคะ เจอกันเดือนหน้า (อิอิ) นะคะ
บุษบงค์ (ยิน : ปี 2)
เข้ามาให้กำลังใจพี่รหัสค่ะ มาช้ายังดีกว่าไม่มา ^_^"
เห็นด้วยว่า ความขัดแย้งเกิดขึ้นได้เสมอจริงๆ ในองค์การค่ะ ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งในตัวบุคคลเอง ระหว่างบุคคล ภายในกลุ่ม ระหว่างกลุ่ม หรือความขัดแย้งภายในองค์การก็ตาม โดยเฉพาะความขัดแย้งระดับระหว่างบุคคลขึ้นไป ดูแล้ว…ในทางปฏิบัติอาจจะเป็นเรื่องยากที่ทั้งสองฝ่าย จะหันมาพูดจากันดีๆ (เพราะมันขัดแย้งกันอยู่อ่ะค่ะ) พี่ยินพอจะมีตัวอย่างจริงที่เกิดขึ้นให้ดูมั้ยคะ ว่าสองฝ่ายเขาเจรจากันเอง ใช้คนกลาง หรือมีเทคนิคอะไรในการบริหารความขัดแย้งให้ลงเอยด้วยการ Win-Win ทั้งสองฝ่าย (ซึ่งน่าจะถือว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว) น่าจะทำให้เข้าใจในเนื้อหามากขึ้น และมีรูปแบบให้เอาไปประยุกต์ใช้ได้บ้างอ่ะค่ะ ^_^ขอน้อมรับทุกถ้อยคำที่ชี้แนะนะคะ จะพยายามอย่างที่สุดค่ะที่จะไปจัดหามาให้ พบกันเดือนหน้านะคะ อิอิ
ยินเองจ้า
ชอบเรื่องนี้ค่ะ เพราะคิดว่าความขัดแย้งเกิดขึ้นได้ในทุกองค์กร ถ้าเราสามารถบริหารความขัดแย้งตามแนวทางที่พี่ยินเขียนได้คงจะดีไม่น้อย แต่ในส่วนตัวแล้วมองว่ายากค่ะ ยิ่งองค์กรที่มีขนาดใหญ่เท่าไหร่ ความยากในการบริหารยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะความขัดแย้งแบบทำลาย ในองค์กรที่ทำงานอยู่พบว่าส่วนใหญ่แล้วเป็นความขัดแย้งสัมพันธ์(Relation Conflict)ซึ่งแน่นอนว่าย่อมกระทบต่อการทำงานโดยตรง ปัจจุบันนี้วิธีแก้ไขวิธีสุดท้ายที่ไม่อยากจะทำเลย คือ การย้ายพนักงาน(หลังจากพยายามมาหลายวิธีแต่ไม่สามารถแก้ไขได้ค่ะ)ไม่ทราบพี่ยินพอจะมีcaseตัวอย่างและวิธีแก้ไขบ้างไหมคะ หรือ officeที่เพื่อนๆทำงานอยู่มีcaseเรื่องนี้บ้างไหมคะ อยากรู้แนวทางแก้ไขค่ะ
ขอบคุณค่ะ
เรื่องนี้พี่เอ๋ชอบมากคะ ใช้ได้ทุกองค์กรที่ไหนไหนมีคนที่นั่นมีความขัดแย้ง ดูอย่างที่ทำงานพี่ซิคะขัดแย้งจนจะรบกันอยู่แล้วค่ะ
พี่เอ๋/ฐิติมนต์
เรื่องความขัดแย้ง ที่แย่ที่สุด และยากที่จะเเก้ที่สุด ผมว่าเป็นเรื่องความขัดแย้งในด้านความสัมพันธ์ส่วนตัวกันนี้แหละ
ซึ่งพี่ๆในฝ่ายผมนี้แหละซึ่งผมก็สนิทกับทั้งสองคน แท้งฝ่ายก็มีอยู่เเค่ สี่คน ผมเป็นคนกลางแถมเด็กสุด ก็ไม่รู้จะช่วยประสานรอยร้าวนี้อย่างไรเลยครับ เขาไพดอะไรกันเลยสัก 2 -3 เดือนเเล้วมั้ง แต่งานมันก็พอจะดำเนินไปได้ ตราบใดที่มีผมเป็น ล่ามคอยสื่อสารให้ทั้งคู่อะนะ
ไม่รู้จะทำอย่างไร ส่วนขัดแย้งเรื่องงานนี้ดี เหมือนมาระดมความคิดที่แตกต่างกันแล้วเราก็เลือกอันที่ดีที่สุดไง
เรื่องความขัดแย้งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทุกที่ ไม่ว่าจะบริษัทเล็กบริษัทใหญ่ พนักงานมากพนักงานน้อย
กบริหารความขัดแย้งที่เอามาแชร์กันจึงมีประโยชน์มากจริงๆ นอกจากจะช่วยไม่ให้องคืกรเสียหายมากแล้ว บางทีความขัดแย้งยังทำให้เกิดอะไรใหม่ๆขึ้นมาด้วย
มีตวามขัดแย้งได้ แค่เราต้องใช้ประโยชน์จากมันได้ด้วย
ขอคุณสำหรับบทความดีๆค่ะ