ปี 49 เกาะกระแสเศรษฐกิจสังคมฐานความรู้
จากสภาพเศรษฐกิจสังคมฐานความรู้ (Knowledge Based Society)
ที่โลกของเรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้
คงไม่มีใครหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธความรับผิดชอบในการที่จะสนองตอบต่ออิทธิพลของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในการกำหนดชะตากรรมของบ้านเมือง
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง "รู้เท่า
รู้ทันการเปลี่ยนแปลง" และสามารถบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลง
(Change Management)
โดยใช้องค์ความรู้หรือการจัดการความรู้เป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการดำเนินงาน
ก้าวใหม่ ก้าวมั่น ก้าวไปพร้อมๆกัน
หากจะดำเนินงานให้ประสบผลสำเร็จ เป็นไปตามเจตนารมย์ดังกล่าวข้องต้น
คนทุกคนควรจะมีบทบาท มีส่วนร่วมในการดำเนินงาน
โดยมีแนวทางดังนี้
1. รู้จักการแสวงหาความรู้ ควบคู่
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้
2. สามารถสร้างองค์ความรู้ใหม่ ควบคู่ การต่อยอดองค์ความรู้เดิม
3. เป็นนักปฏิบัติจัดการความรู้ ควบคู่
การติดตามประเมินผลและปรับปรุงพัฒนาความรู้
ผลักดัน"การจัดการความรู้" เป็นวาระแห่งชาติ
เมื่อทุกฝ่ายมีความเห็นพ้องต้องกันแล้วว่าการจัดการความรู้มีความสำคัญและมีความจำเป็นจะต้องนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนประเทศไทย
ไปสู่การแข่งขันกับนานาอารยประเทศ
เพราะต้องอาศัยบุคลากรหรือทรัพยากรบุคคลที่มีความรู้ความสามารถสูง
ซึ่งผ่านการฝึกฝน อบรมเพื่อเตรียมความพร้อมในทุกๆด้าน
ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่จะต้องช่วยกันผลักดันให้
"การจัดการความรู้เป็นวาระแห่งชาติ"
ในปีนี้ให้จงได้
ปฐมพงศ์ ศุภเลิศ
8 ม.ค.49
ไม่มีความเห็น