เจ้าหญิงป่วน ณ ปัตตานี
เด็กหญิง ประเสริฐ (أُخْتٌ صَغِيْرَةٌ ) รัศมีแห่งดวงตา เจ้าหญิงป่วน ณ ปัตตานี

จงทำลายล้างอิสลามและจงถอนรากถอนโคนชาวมุสลิมให้สิ้นซาก


และแล้วกองทัพที่กำลังคุกรุ่นด้วยพลังแห่งความเกลียดชังต่อประชาชาติอิสลามที่นำโดยแม่ทัพที่เลวทรามที่สุดเท่าที่ประวัติศาสตร์รู้จักมาก็ประสบชัยชนะดังใจหวัง... พวกเขาทำการทารุณ ข่มเหง และบดขยี้ประชาชาติอิสลามอย่างไร้ซึ่งความปรานี…‎
ผู้นำตะวันตกกล่าวว่า  : จงทำลายล้างอิสลามและจงถอนรากถอนโคนชาวมุสลิมให้สิ้นซาก‎(Western leaders say : Islam destroyed, wiped out his ‎family)‎

พวกเขาพยายามทำลายล้างอิสลามด้วยสงครามศักดิ์สิทธิ์ (ตามความเชื่อของพวกเขา) ที่มีชื่อว่า “ครูเสด” อันน่าสะพรึงกลัว แต่ทุกครั้งที่กองทัพของพวกเขาเดินทางไปจู่โจมประเทศอิสลามจำนวนนับล้าน กลับต้องประสบกับความสูญเสียความปราชัยที่ใหญ่หลวง ดังนั้นพวกเขาจึงกลับไปวางแผนใหม่เพื่อศึกษา ค้นหาและพัฒนายุทธวิธีใหม่เพื่อกำราบอิสลามและชาวมุสลิม เสร็จแล้วพวกเขาก็จะเดินทางกลับมาหาเราอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับกลยุทธ์ใหม่ๆในการทำลายล้าง กลับมาพร้อมกับกองทัพใหม่ที่ทันสมัย อาวุธสงครามสมัยใหม่ๆที่มีอานุภาพการทำลายล้างที่สูง และแนวคิดใหม่หรือแผนการใหม่ที่มีการศึกษาทั้งภาคสนามและทฤษฎีอย่างรัดกุม กลับมาเพื่อทำลายล้างอิสลามครั้งใหม่
บรรดานายทหารของพวกเขาจะตะโกนด้วยเสียงอันดัง ขณะที่กำลังสวมเสื้อนักรบเพื่อเดินทางไปยึดครองประเทศอิสลามว่า
แม่ครับ...‎
ผมอยากได้ยินพรจากแม่... แม่ต้องไม่ร้องไห้...‎
แม่ต้องหัวเราะและมีความหวังสิครับ...‎
ผมกำลังจะเดินทางไปยังทริโปลี...‎
ด้วยความตื้นตันและยินดี...‎
ผมจะทุ่มเทเลือดเนื้อของผมเพื่อบดขยี้ประชาชาติที่อัปรีย์...‎
ผมจะประจัญบานกับศาสนาอิสลาม....‎
และผมจะต่อสู้อย่างแข็งขันเพื่อลบอัลกุรอาน....‎
‏*  * *‏
และแล้วกองทัพที่กำลังคุกรุ่นด้วยพลังแห่งความเกลียดชังต่อประชาชาติอิสลามที่นำโดยแม่ทัพที่เลวทรามที่สุดเท่าที่ประวัติศาสตร์รู้จักมาก็ประสบชัยชนะดังใจหวัง... พวกเขาทำการทารุณ ข่มเหง และบดขยี้ประชาชาติอิสลามอย่างไร้ซึ่งความปรานี…‎
กองทัพตะวันได้รับชัยชนะหลังจากที่บรรดาผู้ปกครองของอิสลามได้ปูทางและทอดสะพานให้แก่พวกเขา...‎
กองทัพเหล่านั้นได้ทำอะไรหรือ ?...‎
พวกเขาได้เข่นฆ่าประชาชาติไม่เว้นแม่แต่เด็กน้อยและสตรี ทุบทำลายมัสยิดหรือเปลี่ยนให้เป็นโบสถ์ และเผทำลายห้องสมุดของชาวมุสลิมจนเป็นเถ้าถ่าน...‎
ต่อไปนี้เราลองมาอ่านสิ่งที่บรรดานักเขียนของเขาได้บันทึกไว้เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาได้กระทำไว้กับประชาชาติอิสลามจากทั่วทุกมุมโลกอิสลามที่มการทำลายล้าง ‎ซึ่งเราจะขอนำเสนอเพียงบางส่วนเท่านั้นเพื่อเป็นตัวอย่าง...‎
‎1. ที่อันดะลูเซีย
Dr. Sijrid Honch เล่าว่า “ในวันที่ 2 ของเดือน มกราคม 1492 ‎Cardinal Dpedr พระราชาคณะของโรมันคาทอลิก ได้ยกไม้กางเขนแดงบนอัลฮัมร่า แห่งป้อมประสาทแห่งราชวงศ์นาซิริยาห์ (the Royal Castle of ‎the Nasiriyah family) เพื่อเป็นการประกาศถึงการสิ้นสุดของอำนาจการ‎ปกครองของชาวมุสลิมต่อประเทศสเปน
และด้วยการสิ้นสุดของอำนาจการปกครองดังกล่าวทำให้อารยธรรมอิสลามและความเจริญต่างๆที่บรรดาสุลต่านได้อุตส่าห์แผ่ขยายไปยังยุโรปตลอดช่วงเวลาแห่งยุคกลาง (Middle Ages) ต้องพลอยสูญสลายไปด้วย ชาวคริสเตียนได้ผู้กำชัยชนะได้ให้ความเคารพต่อสนธิสัญญาต่างๆที่พวกเขาได้กระทำไว้กับชาวมุสลิมเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ‎หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มดำเนินการเพื่อกำจัดและกวาดล้างชาวมุสลิม อารยธรรม และวัฒนธรรมของพวกเขา
พวกเขาได้ห้ามมุสลิมไม่ให้นับถือศาสนาอิสลามและบังคับพวกเขาให้ละทิ้งและออกจากศาสนาเสีย เช่นเดียวกับที่ห้ามไม่ให้พวกเขาใช้ภาษาอาหรับ ห้ามใช้ชื่ออาหรับ และห้ามสวมใส่เสื้อผ้าและอาภรณ์อาหรับ และผู้ใดที่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวจะถูกเผาทั้งเป็นหลังจากที่ได้ทำการทรมานอย่างแสนสาหัสจนหนำใจแล้ว”‎
เช่นนี้แหละที่ทำให้ชาวมุสลิมที่อันดะลูเซียต้องสูญสิ้นเป็นจำนวนนับล้านคน ‎และไม่มีชาวมุสลิมคนใดที่อาศัยอยู่ที่สเปนกล้าประกาศความเป็นอิสลามของเขา
แต่ทว่า พวกเขามีวิธีการทรมานอย่างไรหละ...ท่านเคนได้ยินหรือได้อ่านเกี่ยวกับวิธีการทรมานนักโทษในบันทึกของกองตรวจไหม?...‎
ถ้าท่านไม่เคยได้ยินหรือได้อ่านมาก่อน ท่านก็มากับเรา เราจะแนะนำให้ท่านรู้จักกับวิธีการทรมานต่างๆ
คำสำคัญ (Tags): #dr. sijrid honch#อารยธรรม
หมายเลขบันทึก: 115676เขียนเมื่อ 30 กรกฎาคม 2007 15:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:42 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท