Team work


การสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพจะทำให้มีการพัฒนาและรักษาความสัมพันธ์ในการทำงาน แน่นอนว่าจะประสบความสำเร็จจากการทำงานร่วมกัน

ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า ไม่เคยมีความรู้ด้านHRมาก่อน ไม่ได้ทำงานใกล้เคียงหรือคลุกคลีกับด้านนี้เลย ดังนั้นหากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ แรงบันดาลใจที่ทำให้ทำเรื่องTeam workคือง่ายๆเลยค่ะ เพราะข้าพเจ้าเพิ่งกลับมาจากการไปอบรม เรื่องนี้กับทางบริษัท ทำให้ได้ประสบการณ์ตรงจากเรื่องนี้ ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่าหนึ่งในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีประสิทธิภาพในการทำงานในองค์กรก็คือการทำงานเป็นทีม การทำงานที่มีประสิทธิภาพหากไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ด้วยเป้าหมายเดียวกัน ขาดความสามัคคี ก็จะทำให้การทำงานขาดประสิทธิภาพ องค์กรนั้นๆก็จะเกิดความล้มเหลวเนื่องจาก ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในเรื่องง่ายๆนี้ คำว่า ทีมงานหมายถึง กลุ่มคนที่รวมตัว เพื่อสร้างความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดความรักความสามัคคี ร่วมมือร่วมใจในการทำงานร่วมกันให้สำเร็จตามความประสงค์ขององค์การ

 เทคนิคการพัฒนาองค์การโดยใช้การสร้างทีมงาน       หมายถึง กิจกรรมหรือกลุ่มกิจกรรมในลักษณะต่าง ๆ ที่ได้วางแผนไว้อย่างเป็นระบบ ซึ่งได้นำมาใช้กับกลุ่มเป้าหมายระดับต่าง ๆ ในองค์การ เพื่อเพิ่มพูนศักยภาพและสมรรถนะการดำเนินงานขององค์การให้บรรลุวัตถุประสงค์ กิจกรรมจะต้องครอบคลุมสิ่งต่าง ๆ

       เป้าหมายหลักที่สำคัญของกระบวนการการพัฒนาองค์การ คือ การแสวงหาวิธีการที่ดีกว่ามาใช้ในการปฏิบัติงานให้สำเร็จลุล่วงไปได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยดึงทักษะและความสามารถของบุคคลในองค์การมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

 การสร้างทีมงาน เป็นความพยายามในการพัฒนาองค์การที่มีเป้าหมาย เพื่อปรับปรุงผลการปฏิบัติงานทั้งหมดขององค์การกระบวนการสร้างทีมงานที่ใช้ในบริษัทใหญ่มีขั้นตอน สรุปได้ดังนี้      

                  1. จัดประชุมให้ความรู้การทำงานเป็นทีม      

                  2. เก็บรวบรวมข้อมูล (แบบไหน, อย่างไร)     

                  3. การตรวจสอบข้อมูล (จากขั้นตอนที่ 2)      

                 4.การวางแผนปฏิบัติงานเป็นการจัดทำรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงต่อจากขั้นตอนที่3                                                                                     

                  5. การสร้างทีมงาน เป็นการระบุปัญหาอุปสรรคของการปฏิบัติงาน กำหนดวิธีการ   แก้ปัญหา และดำเนินการตามที่ได้ตกลงกัน              

  การทำงานเป็นทีมนั้น เป็นเรื่องที่ดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายที่จะทำในกระบวนการและการจะสื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการทำงานเป็นทีม แต่ในทางปฏิบัติแล้วกลับเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและมีความซับซ้อน เนื่องจากเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติ ดูแล้วไม่มีอะไรพิเศษแต่ในบางหน่วยงานการสร้างทีมงานที่เข้มแข็งกลับ เป็นหลักในการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ของหน่วยงานตนเอง

 กรณีศึกษา Pink Blue Black & Orange Communication Designถือกำเนิดขึ้น จากการรวมตัวของทีม Creative มือเก่าที่มากไปด้วยฝีมือธุรกิจ Graphic Design นับเป็นอีกธุรกิจหนึ่งในแวดวงธุรกิจที่มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะรูปแบบการดำเนินงานที่ต้องอาศัยทั้งส่วนของ Technology ส่วนของงานความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ และการประสานงานกับโรงพิมพ์เพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพ
งาน Graphic Design กับงานโฆษณาจะทำงานควบคู่กันไป โดยงานโฆษณาจะแบ่งเป็นสองส่วนคือ ในส่วนของ Corporate Image กับการสร้างยอดขาย ส่วนงาน Graphic Design จะเป็นตัวที่สร้างภาพพจน์ในส่วนของ Identity ให้กับตัวสินค้าในรูปแบบที่ต่างกันส่วนที่มาของชื่อบริษัท Pink Blue Black & Orange นั้น มาจากการระดมความคิดเพื่อเป็นการสื่อการทำงานเป็นทีมของหุ้นส่วนทั้ง 4 คน เลือกเอาสีในใจของแต่ละคนมาเป็นตัวแทนของบริษัท คือ Pink Blue Black & Orange  แม้ว่า Color Party จะก่อตั้งขึ้นเพียง 3 ปี แต่ทั้งผู้บริหารและทีมงานนั้นล้วนแต่เป็นผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการมาร่วม 10 ปี ทำให้มองเห็นข้อบกพร่องของการบริหารงานในรูปแบบเดิม เมื่อก่อตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ จึงได้นำการบริหารงานในรูปแบบการทำงานเป็นทีมมาใช้เพื่อให้ระบบมีความคล่องตัวขึ้น
เราเชื่อว่าระบบที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือ ระบบที่มีวงจรการบริหารที่สั้นที่สุด มีกระบวนการการสื่อสารในองค์กรน้อยที่สุด กระชับที่สุด ก็เลยเกิดแนวคิดในการทำงานเป็นทีมขึ้น โดยมีทั้งหมด 4 ทีม ทีม Creative 3 ทีม และทีม Center อีก 1 ทีม

ทีม Creative แต่ละทีมก็จะมีหัวหน้าทีมดูแลทั้งในเรื่องของการผลิตและเรื่องลูกค้า ส่วนทีม Center จะรับผิดชอบในส่วนของงานบริหาร, Marketing, Producer รวมทั้งเรื่องการเงิน เพราะฉะนั้นจะทำให้การบริหารงานง่ายขึ้นแทนที่จะต้องบริหารคนในบริษัททั้ง 12 คน เราก็เอาหัวหน้าของแต่ละทีมมาคุยกันก็จบ

 และขอยกตัวอย่างการอบรมสัมมนาเรื่อง Team work ของร.พ.บำรุงราษฎร์ ซึ่งข้าพเจ้าทำงานอยู่ เนื่องจากระบบการทำงานของโรงพยาบาลโดยทั่วไปแล้ว เกือบทุกโรงพยาบาล จะมีพนักงานหลากหลายอาชีพที่ต้องทำงานร่วมกัน เช่นพยาบาล เภสัชกร แคชเชียร์ เวรเปล ไปจนถึงพนักงานทำความสะอาด ซึ่งแต่ละแผนกต้องมีการติดต่อสื่อสารระหว่างกันในแต่ละวันตลอดเวลา ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่บางคนต้องติดต่อสื่อสารกันเกือบทุกวัน แต่กลับไม่เคยเห็นหน้ากันเลยก็มี ดังนั้น ทางโรงพยาบาลเห็นความสำคัญจึงจัดสัมมนาเรื่องTeam work ขึ้น โดยให้แต่ละแผนกส่งตัวแทน รอบละ2-3คน เดือนนึงจัดประมาณ4รอบไปสัมมนาเป็นเวลา2วัน1คืน ที่จังหวัดนครนายก ทุกเดือน เพราะฉะนั้นจะมีพนักงานประมาณ80-100คนในการสัมมนาแต่ละครั้ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้พนักงานในแต่ละแผนกได้มีปฏิสัมพันธ์กัน มีการพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ทำให้เข้าใจถึงการทำงานของแต่ละวิชาชีพ และแต่ละแผนก ซึ่งในรูปแบบในการสัมมนาคือ มีกิจกรรมที่มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความสามัคคี การทำงานเป็นทีมร่วมกันตลอดเวลา เช่นในห้องประชุมก็จะมีการแบ่งกลุ่มทำกิจกรรมที่สร้างความสัมพันธ์และทำความรู้จัก โดยการแบ่งกลุ่มจะมีการเปลี่ยนกลุ่มอยู่ตลอด เพื่อให้หมุนเวียนกันให้รู้จักคุ้นเคยกันอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ ยังมีการ walk rally ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สร้างการทำงานเป็นทีมอย่างเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้แล้วทุกกิจกรรมยังมีการสอดแทรก ทฤษฎีในด้านteam work อยู่ตลอดเวลา มีการแจกเอกสารเกี่ยวกับทฤษฎี ซึ่งในกิจกรรมแบ่งกลุ่มบางอย่างสามารถหาคำตอบได้จากเอกสารที่แจกให้ ทำให้พนักงานที่กลับจากการอบรมครั้งนี้ ได้เพื่อนใหม่ในที่ทำงานเดิม ได้ความสนุกสนานควบคู่ไปกับการเข้าอกเข้าใจการทำงานของแต่ละแผนกเนื่องจากได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เมื่อกลับมาทำงานจากที่เคยทำๆไปวันๆ อาจจะเคยไม่ถูกกับแผนกนั้นแผนกนี้เนื่องจากเบื่อหน่ายการทำงานของแผนกอื่น ก็จะเปลี่ยนเป็นความเข้าใจ ในการติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์ก็จะมีการทักทายพูดคุย ถามสารทุกข์สุกดิบ  และการทำงานก็ราบลื่นขึ้น สร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน ผลงานที่ออกมาก็มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในการสัมมนาTeam workของร.พ.บำรุงราษฎร์นี้ ข้าพเจ้าเห็นด้วยอย่างยิ่ง เนื่องจากเมื่อกลับมาจากสัมมนาจากประสบการณ์ตรง ก็เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด คือการติดต่อสื่อสารระหว่างแผนกราบลื่นมากขึ้น ทำงานง่ายขึ้น บรรยากาศในการทำงานดีขึ้น ซึ่งส่งผลถึงผลงานที่ออกมาก็ดีขึ้นตามลำดับ ลูกค้าได้รับบริการที่ดีและรวดเร็วมากขึ้น ถึงแม้ว่าการสัมมนานี้จะเป็นแค่การส่งตัวแทนแผนกละ2-3คนแต่ก็มีการหมุนเวียนให้ทุกคนในแผนกได้ไปทุกคน ในแต่ละเดือนคนที่กลับมาจากการสัมมนาก็จะมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันในแผนกถึงความสนุกสนานที่ได้รับจากการไปสัมมนา ทำให้คนอื่นที่ยังไม่ได้ไป มีความกระตือรือร้นอยากไปสัมมนามากขึ้น ผิกจากสมัยก่อนที่การให้ความรู้เรื่องTeam workนี้ จัดเป็นการประชุม ในห้องประชุมของโรงพยาบาล นั่งเรียนแต่ทฤษฏี 1วันเต็ม แล้วก็ไม่ได้นำความรู้ใดๆมาใช้ในการทำงาน เนื่องจากรูปแบบการจัดน่าเบื่อ พนักงานแอบหลับ แอบออกก่อนเวลา ซึ่งนับว่าการสัมมนาครั้งนี้ เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ^^ 

 ..ปิยา เดชาภิวุฒิ (Chippo)..

 

 

คำสำคัญ (Tags): #team work
หมายเลขบันทึก: 115590เขียนเมื่อ 30 กรกฎาคม 2007 03:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 16:09 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)

citrus say ค่ะ

  • การพัฒนาคนให้สามารถทำงานเป็นทีม มีวิธีการใดบ้าง โดยสากล ที่อื่นๆ เขาทำกันอย่างไร

  • อยากให้ใช้ภาพใหญ่ หรือ model การพัฒนาการทำงานเป็นทีมอธิบายก่อนที่จะเข้าสู่การนำมาใช้ในบริษัทของตัวเอง เพื่อให้เปรียบเทียบได้ว่าเราเหมือนหรือต่างจากที่อื่นอย่างไร

คุณพี่พยาบาลครับ สีชมพูมันหวานบาดตาเกินไปรึเปล่าครับ หรือช่วงนี้มองท้องฟ้าแล้วเป็นสีชมพูอยู่ครับผม อิ อิ

 

เรื่อง Team Work สำคัญมากๆ สำหรับผมคิดว่าเหมือนการแข่งขันกีฬา ยกตัวอย่างฟุตบอล ถ้าต่อให้มีเปเล่ตำนานลูกหนังชาวบราซิลมาเกิดใหม่ในประเทศไทยและติดทีมชาติไทยก็อาจไม่สามารถนำทีมชาติไปบอลโลกได้ ถ้าเพื่อนๆในทีมไม่เก่ง มีความขัดแย้ง ชิงดีชิงเด่น หรือไม่ช่วยเหลือสนับสนุนนิวเปเล่คนนี้ ทีมชาติก็ไม่อาจถึงฝั่งฝันได้(ยกเว้นมาราดอนน่า ที่พาอาร์เจนเป็นแชมป์ด้วยตัวคนเดียวจริงๆ)

 

 

ถ้ามาเทียบกับงานทำงานถ้าคนในองค์กรไม่สามัคคีกัน ไม่เข้าใจและสนับสนุนกันในการทำงาน มีแต่ความขัดแย้ง คอยจับผิด ไม่เข้าใจการทำงานของฝ่ายอื่นๆ นั้นก็มีผลให้องค์กรไม่อาจดำเนินงานให้ตามเป้าหมายอย่างเต็มที่ได้ ซึ่งการพัฒนาทางด้าน ทีม ก็น่าจะมีส่วนอย่างยิ่งให้การทำงานขององค์กรเพิ่มประสิทธิภาพได้ เพราะเราคนเดียวไม่สามารถพาองค์กรอยู่รอดได้ ถ้าไม่มีเพื่อนๆ และผู้ร่วมงานที่เข้าใจกัน

 

เหมือนๆ กับที่ ทีม I/O#3 ของเรามีความแน่นแฟ้น และสนิทสนมเข้าใจกัน พร้อมๆที่จะช่วยเหลือกัน

 

 

ฉะนั้น เราจะพากันจบใน 2 ปีทุกคน ใช่มั้ยเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ (แล้วพาผมจบด้วยคนนะคร้าบบบบบ)

ฮ่าๆ  จริงด้วยค่ะ สีสันสดใสสมเป็นคุณปิยาเลยนะคะ:)

 สำหรับเรื่อง team work นั้น มีความสำคัญกับการทำงานร่วมกับผู้อื่นในชีวิตประจำวันทั่วไป คิดว่าถ้าพนักงานมีทักษะการทำงานเป็นทีมที่ดีจะช่วยให้องค์การพัฒนาไปอย่างเข้มแข็ง

นับว่าเป็นเรื่องสำคัญในการพัฒนาคนเพื่อการพัฒนาองค์การต่อไปขอบคุณคุณปิยานะคะที่นำประสบการณ์และข้อคิดเห็นดี ๆ มาร่วมแบ่งปันกัน 

สำหรับเนื้อหานั้นดิฉันเห็นด้วยกับความคิดเห็นแรกค่ะว่าน่าจะเพิ่มเติมเรื่องการประยุกต์ใช้เรื่องทีมเวิคเข้ากับการพัฒนาคน และน่าจะมีการเปรียบเทียบในวงกว้างมาขึ้น เช่นนอกจากตัวคุณปิยาเองแล้ว องค์กรได้อะไรจากการพัฒนาคน และทำให้มีจุดแข็งกว่าองค์การอื่นหรือไม่อย่างไร  (อะไรประมาณนี้น่ะค่ะ)

สู้ๆ ค่ะ

เห็นด้วยกับการสร้าง team work/team building ด้วยการฝึกอบรมทางวิชาการไปพร้อม ๆ กับการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างทีมค่ะ เพราะนอกจากกิจกรรมจะทำให้บรรยากาศในการฝึกอบรมสนุกสนาน ไม่น่าเบื่อแล้ว ยังทำให้ได้ความรู้เรื่องการทำงานเป็นทีมเพิ่มขึ้นจากการปฏิบัติจริงด้วยค่ะ   
กิจกรรมของโรงพยาบาลน่าสนใจดีนะคะ ถือเป็นการละลายพฤติกรรมอย่างหนึ่ง โดยส่วนตัวชอบกิจกรรมแบบนี้ค่ะ ถ้ามีโอกาสเข้าร่วมจะไม่ปฏิเสธแน่นอน เพราะการทำงานเป็นทีม และการประสานงานกันอย่างมีประสิทธิภาพ จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายต่างๆ และเป็นการเชื่อมสัมพันธภาพอันดีระหว่างพนักงาน สุภาษิตที่ว่า "สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว,สามัคคีคือพลัง" ยังใช้ได้ดีเสมอค่ะ...เป็นกำลังใจในการหาทฤษฎีและ model ต่างๆมาเพิ่มเติมในรายงานนะคะ สู้ๆ :-)

นี่แหละคือวิธีการหนึ่งที่คิดว่าน่าจะได้ผลดีวิธีหนึ่งเพราะเคยได้ทำกิจกรรมสัมมนาเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กรก็จัดลักษณะแบบนี้คือ จัดที่ต่างจังหวัด และให้แต่ละแผนกส่งตัวแทนพนักงานไปเข้าร่วมเวียนไปจนครบทุกคน ก็ทำให้เกิดสิ่งดีๆขึ้น กับองค์กร แต่การทำกิจกรรมลักษณะนี้องค์กรจะต้องมีงบประมาณในการจัดสูง ซึ่งก็อาจจะเป็นปัญหาสำหรับบางองค์กรที่ไม่สามารถทำได้ ซึ่งอาจจะเป็นแค่การจัดสัมมนาภายในบริษัท ซึ่งก็นำไปสู่ปัญหาอย่างที่คุณชิพได้กล่าวไว้นั่นเอง

หลังจากที่ได้อ่านแล้ว.. ความรู้สึกแรกเลยคือ.. น่าอิจฉามากๆ เลยครับ มี Walk rally ด้วย.. อยากไปบ้างอ่ะ ^^"

จากประสบการณ์ที่เคยร่วมงานมากับองค์การที่มี Walk rally บางทีเค้าก็พบปัญหาอย่างหนึ่งนะครับ  นั้นก็คือ การคะนองเกินเหตุ คือสนุก และสนใจกับเกมและกิจกรรมมากจนเกินไป ทำให้ไม่สามารถรับสิ่งที่องค์การต้องการจะให้ได้อย่างเต็มที่ ท้ายที่สุดองค์การก็งดกิจกรรมนี้ไป (อาจจะเป็นเพราะรู้สึกเสียดายงบประมาณด้วยมั้งครับ) ที่กล่าวมาอาจจะนอกประเด็นไปบ้าง แต่แค่ต้องการแลกเปลี่ยนความรู้เฉยๆ ครับ..

ปล. สีสวยดี ชอบๆ

เห็นด้วยกับการจัดสัมมนาเรื่องทีมเวิร์คค่ะเพราะเคยไปมาเหมือนกันสนุกและได้ประโยชน์มากเลยค่ะทำให้เวลาติดต่อขอความช่วยเหลือในการทำงานราบรื่นดีมากชอบมากค่ะ

อุไรวรรณ ทองเจริญค่ะ

ชัยยุทธ (ปิค) กลีบบัว

นึกออกเลยว่าถ้าไปอบรมเรื่อง team work แล้วให้นั่งฟังแต่ทฤษฎีคงไม่แอบหลับขณะฟังหรอก แต่หนีกลับชัวร์ๆเลย คงน่าเบื่อแน่ถ้าเอาเรื่องที่ปฏิบัติมานั่งพูดอย่างเดียว....คงต้องปฏิบัติแล้วสอดแทรกทฤษฎีอย่างที่พี่ชิฟบอกอะ ....รู้สึกการไปสร้าง team work น่าจะเหมือนการไปรับน้องแล้วเข้าฐานต่างๆแหละเนอะที่ต้องทำอะไรร่วมกัน แต่ตอนรับน้องเสียอย่างเดียวน่าจะมีการทำกิจกรรมแล้วเปลี่ยนกลุ่มบ้าง จะได้รู้จักคนเพิ่มอีก ......ซึ่งกิจกรรมตรงนี้เห็นผลจิงๆเวลามาทำรายงานกลุ่มทำให้ทำงานกันได้ง่ายขึ้นมากๆ แต่อาจใช้ไม่ได้กับบางคนมั้งเพราะเวลาที่ทำกิจกรรมอาจทำด้วยความสนุกหรือเค้าชอบก็จะทุ่มเท แต่พอทำงานจริงๆเค้าอาจไม่ชอบเลยไม่ร่วมมือ ทำให้นึกว่าคนที่ไปทำกิจกรรมกับเรามันหายไปไหนวะ(อันนี้ไม่ใช่เกิดที่นี่นะ .....อย่าเข้าใจผิดนะ)

   น่าจะมีเรื่องบทบาทของพวก facilitator ที่คอยช่วยกลุ่มหรือทีมให้ดำเนินไปอย่างด้วยดีก็ดีนะครับ(ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวมั๊ย ถ้าไม่เกี่ยวก็โทดที)เพราะเปนคนเชื่อมโยงทุกคนและอำนวยความสะดวกให้กลุ่ม ส่วนเรื่องอื่นจะติดตามอ่านต่อตามที่พี่ๆข้างบนเค้าขอกันนะครับ           สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆที่นำมาแบ่งปัน

อยากได้ความหมายของTeamwork ว่าอักษรแต่ละตัวนั้นย่อมาจากคำว่าอะไร มีความหายว่าอย่างไร

T

E

A

M

W

O

R

K

สีสันสดใสจริงๆ ^v^   ดูเหมือนการจัด walk rally จะเป็นกิจกรรมที่ช่วยในการสร้าง team work ที่ดีนะคะ รู้สึกว่ามีหน่วยงานที่ตั้งขึ้นมาเพื่อรับทำกิจกรรมแบบนี้ให้กับองค์กรต่างๆอย่างเป็นงานเป็นการเลยทีเดียว   กิจกรรมแบบนี้น่าสนใจดีค่ะ  เป็นการ  Learning by Doing  เจอจริง  ปฏิบัติจริง  เป็นประสบการณ์ตรงไปเลย 

แล้วก็เห็นด้วยกับปิคในเรื่องของ facilitator  น่าจะเกี่ยวกันอยู่นะคะ 

และก็อยากทราบอีกเรื่องอ่ะค่ะ   คือว่ามีบ้างมั้ยที่จากการทำกิจกรรมนี้แล้วมันเกิดเหตุการณ์ที่ผิดเป้าหมายน่ะค่ะ  ประมาณว่าบางคนแสดงธาตุแท้ที่อาจไม่งามออกมา  กลายเป็นว่าเอามานั่งนินทากันลับหลังแทน  (คำถามอาจจะโหดไป  ไม่รู้กล้าตอบป่าว แฮ่ๆๆ)

ปล.  คำถามไม่มีสาระเลย 555 

        ขอสดใสด้วย ^v^

 นันทน์

 

ชิพ

มีตัวอย่างเรื่อง Team Building Program ที่มีคนมาเสนอไว้นิดหน่อย ลองดูนะ

1.สปิริตของผู้นำ 

Leadership Spirit

Objective: To present & inspire them from true story of leadership model

Methods: Presentation, Movie, Discussion & Sharing

2.ค้นหาความเป็นผู้นำในตัวเอง

Exercising Your Own LeadershipObjective: To let each of them develop their self-esteem by themselves

Methods: Leadership Game, Discussion & Sharing

3.การเป็นผู้นำทีมในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลง

Leading Team in the Changing World

Objective: To let each of them learn how to lead team
Methods: Case Study based on true story, Discussion & Sharing

4.ความสำคัญและความจำเป็นในการทำงานเป็นทีม

Teamwork Impact

Objective: To let them work together to achieve assignment goal
Methods: Game, Discussion & Sharing
5. การแก้ไขปัญหาของทีมอย่างสร้างสรรค์

Creative Team Problem Solving

Objective: To let them practice to solve team problems together
Methods: Movie from true story, Game, Discussion & Sharing

6.การสร้างแรงจูงใจให้กับสมาชิกในทีมงาน
Motivating Team Members

Objective: To let them practice to motivate their team members with non- monetary factor
Method: Movie from true story, Workshop & Individual sharing from their own good & bad experience
7.กิจกรรมเพื่อการติดต่อสื่อสารแบบสัมฤทธิ์ผล

Effective Communication Workshop

Objective: To let each of them learn the barriers to effective communication and how to overcome those barriers
Methods: Case Study, Individual work & Group work, and Individual & Group Sharing

8. กิจกรรมการเป็นผู้ฟังที่ดีเพื่อพัฒนาการติดต่อสื่อสารให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น Active Listening Workshop

Objective: To let each of them exercise their active listeningskills to understand and response to others more effectively
Methods: Movie, Workshop / Skill Practice (Individual) and get feedback from others
- Discussion / Sharing / Showing 30 %

พี่บุป 

ทีมเวิร์คจะเกิดได้อย่างไร หากว่ามี Conflict หัวข้อเราตรงกัน มาจอยกันได้เน๊อะ ที่ทำงานมีการจัดทำทีม Building เมื่อปีที่แล้ว เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีให้เกิดกับพนักงานทุกตำแหน่งโดยไม่แยกกัน ประเดี๋ยวเดียวผ่านไปก็เหมือนเดิม มีวิธีการที่จะให้สิ่ง ๆ คงอยู่ตลอดไปโดยไม่ผ่านไปตามสายลมบ้างไหมเอ่ย

บุษบงค์ (ยิน : ปี 2)

ดีจังเลยจ้ะชิพ

ในฐานะที่เราเรียนจิตวิทยากันเนอะ ก็เลยจะมาแชร์ในเรื่องคุณสมบัติต่าง ๆ ทางด้านจิตวิทยาในการทำงานร่วมกันเป็นทีม ตามตัวอักษรเลย TEAMWORKING

T : Trust  ความไว้วางใจ

E : Endurance ความอดทน

A : Accountability & Accuracy ความมีเหตุผลและความถูกต้อง

M : Management การบริหารจัดการ

W : Willingness ความเต็มใจ

O : Orientation การแนะนำ

R : Respect & Reliability การยอมรับนับถือและความน่าเชื่อถือได้ 

K : Knowledge & Keen ความรู้และความชำนาญ

I : Intelligence เชาวน์ปัญญา

N : Nurturance ความเมตตากรุณา

G : Gentleness ความอ่อนน้อมถ่อมตน

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในหนังสือจิตวิทยาประยุกต์ในชีวิตและการทำงาน ของ รศ.ดร.พรรณราย  ทรัพประภา นะ

หวัดดี ชิฟ
เห็นด้วยมากมายเลยครับ สำหรับเรื่อง Team work เพราะบางครั้งการทำงานได้คุยกันแต่ทางโทรศัพท์ ไม่เคยเห็นหน้ากัน ก็จะคุยกันแต่เรื่องงาน เวลาเกิดปัญหาในการทำงานขึ้นก็จะไม่ค่อยช่วยเหลือกัน เพราะต่างคนต่างถือว่าตนไม่ผิด ซึ่งส่งผลเสียต่อองค์กรเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกัน บริษัทของผมก็มีปัญหาหลายๆอย่าง และก็เพิ่งจัด Work Rally ไปเมื่อเร็วๆนี้เอง เพื่อจุดประสงค์หลายๆอย่างเช่นกัน รวมทั้ง การสร้าง Team work ด้วย ซึ่งผลลัพธ์กลับมาเป็นที่น่าพอใจมากเลยทีเดียว พนักงานได้รู้จักพูดคุยกันมากขึ้น การทำงานราบรื่นขึ้นมาก ร่วมแรงร่วมใจกันกว่าในอดีต สรุป การบริหาร Team work ถ้าทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะเป็นผลดีต่อองค์กรเป็นอย่างมากครับ..

บอย

เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจมากเลยค่ะ เพราะไม่ค่อยจะมีใครมาถ่ายทอดเรื่องราวของ teamwork ในวงการแพทย์ให้ฟังซักเท่าไหร่ กิจกรรม Walk Rally ที่พี่ชิพเล่ามา นึกภาพตามแล้วยังสนุกไปด้วยเลยค่ะ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม Walk Rally คงรู้ทฤษฎีเกี่ยวกับ teamwork เพิ่มขึ้น และเข้าใจมากขึ้นเมื่อได้ลงมือปฏิบัติ แถม teamwork ยัง work ขึ้นจริงๆ ด้วย ถือว่ากิจกรรม Walk Rally ของโรงพยาบาลประสบความสำเร็จระดับหนึ่งเลยนะคะเนี่ย (ใครว่า teamwork ของคนไทยมันไม่ work ^o^) นับว่าผู้บริหารเล็งเห็นความสำคัญของจิตวิทยาที่มีอิทธิพลต่อ teamwork เลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมเรื่องของมนุษยสัมพันธ์ ให้พูดคุยแลกเปลี่ยนทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างบุคคล เสริมสร้างแรงจูงใจให้อยากเรียนรู้ในเรื่อง teamwork ด้วยวิธีการต่างๆ ฯลฯ 

เข้าใจว่า ปกติแล้ว team จะต้องมีผู้นำ ไม่ทราบว่าอย่างในวงการแพทย์ ผู้นำของ team จะเป็นใคร (หมอ?) หรือพี่ชิพช่วยยกตัวอย่างการจัดสรรบทบาทใน team ของพี่ชิพเองก็ได้ค่ะ (อยากรู้จังงงงง)

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบนะคะ อิอิ 

 

ขอบคุณพี่พิงค์สำหรับความหมายในอักษรแต่ละตัวค่ะ  ^0^

 Team work เป็นเรื่องสำคัญในทุกองค์กร ถ้าองค์กรขาดก็คงจบในไม่ช้านี่แหละค่ะ  คนทำงานกันแบบไม่มี Team work ที่ดีพอ งานมักจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

Team work สามารถเอามาใช้ในกิจกรรมทุกอย่าง  ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะคะ

โบว์ พัชวรินทร์ ภัทรนาวิก

น่าสนใจมากๆเลยค่ะพี่ชิฟเรื่อง Teamwork ใน รพ. ไม่เคยรู้เลยว่าต้องมีด้วย เท่าที่อ่านในบทความไม่เห็นมีคุณหมอมาเกี่ยวเลยอ่ะค่ะ แต่เวลาทำงานก็ต้องมีคุณหมอมาทำงานด้วยนินา รึว่าจะมี Course พิเศษสำหรับหมอโดยเฉพาะอ่ะค่ะ เท่าที่จำได้คุ้นๆว่าในวิชา HRM พี่ชิฟเคยบอกว่าหมอก็ถือว่าเป็นลูกค้าอีกคนหนึ่งของ รพ. หรือว่าเพราะเหตุผลนี้เลยไม่มีคุณหมอเข้าร่วมกิจกรรมด้วยค่ะ

ยังไงจะเข้ามาอ่านอีกเรื่อยๆค่ะ สะสมแต้มส่วนลด รพ. เอ๊ะ หรือส่วนลด ร้านสองสลึง ดีนะ? 555

 ขอบคุณค่ะ :)

ก่อนอื่นต้องขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาอ่าน แฝกคำถามไว้นะคะ อาจจะเอ่ยชื่อไม่ครบทุกคน  แต่ยังไงจะพยายามตอบคำถามให้นะคะ

ขอบใจพิงค์ที่ตอบคำย่อแทนให้นะจ๊ะ

น้องหวานที่ถามถึงในวงการแพทย์ผู้นำในทีมก็คือพยาบาลเนี่ยแหละ ในแต่ละเวรจะมีพยาบาลอินชาร์ท ที่จะต้องรับผิดชอบงานในแผนกจนกระทั่งลงเวร จึงส่งต่อให้อินชาร์ทเวรต่อไป อินชาร์ทจะรับผิดชอบทุกเรื่องตั้งแต่รับorderจากหมอ ไปจนถึงเรื่องเล็กๆน้อยๆเช่น กระดาษทิชชู่หมด^^ นั่นแหละจ้า

โบว์ ที่อื่นไม่รู้นะ แต่ที่บำรุงราษฎร์ หมอคือลูกค้า ไม่กินเงินเดือนจากร.พ.  ไม่ต้องรูดบัตร เราคือพนักงาน นอกจากต้องดูแลคนไข้และญาติแล้ว ยังต้องดูแลหมอด้วย(เหนื่อยมั่กๆ) เราก็เลยไม่จับหมอมาอบรบ เพราะคิดว่าเค้าคงไม่ยอมมาอบรมกับเราหรอก^^

นันท์ กิจกรรมผิดเป้าหมายนี่ยังไม่เคยเห็นนะจากที่คุยๆกันกับเพื่อนๆในแผนกที่ไปอบรมคนละรอบก็ไม่มีนะ อาจเพราะระยะเวลาแค่2วัน 1คืนมันสั้นไปมั๊ง เลยยังไม่มีการขัดแย้ง ^^

อ้อ ขอบคุณพี่บุปด้วยค่ะ สำหรับเนื้อหาดีๆที่พี่บุปนำมาช่วยเสริมค่ะ ^^

 

                                                         ..Chippo..

 

อ.ส้ม และเพื่อนๆ

 

ชิฟ update และแก้ไขเนื้อหา แล้วนะค่ะ ยังไงรบกวนช่วยติอีกครั้งก็ได้ค่ะ จะได้แก้ไขใหม่ ถ้ายังไม่ดีพอ ^^

 

                                                         ..Chippo..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท