CSR ใช่เพียงแต่สร้างภาพลักษณ์ เพิ่มยอดขาย ทำให้สินค้าติดตลาด หากแต่ยังทำให้เกิดการพัฒนาทรัพยากรบุคคลซึ่งทำให้องค์การพัฒนายิ่งๆขึ้นไป
เหตุผลหรือแรงจูงใจให้ทำเรื่อง CSR อันเกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ปัจจุบันคนเป็นปัจจัยสำคัญในดำเนินธุรกิจให้ขับเคลื่อนไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล การพัฒนาคนในองค์การจึงเสมือนการพัฒนาองค์การนั้น ๆ ให้เติบโตก้าวหน้าไปได้ จะเห็นได้จากการที่บริษัทมุ่งเน้นฝึกอบรมและประเมินผลการพัฒนาทักษะต่าง ๆ ของพนักงาน ซึ่งเป็นกลยุทธ์หนึ่งในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
อย่างไรก็ดี จากการศึกษาค้นคว้าผู้จัดทำบทความฉบับนี้เห็นว่า การฝึกอบรมอาจไม่ใช่วิธีการหรือกลยุทธ์เดียวที่ก่อให้เกิดการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างได้ผล หากแต่กลยุทธ์บางอย่างที่คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นการสนองตอบเป้าหมายทางการตลาดและ/หรือเป็นการตอบแทนสังคม นั่นก็คือ CSR หรือ การสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์การ สามารถยังประโยชน์ต่องานพัฒนาบุคคลได้เช่นกัน ผู้จัดทำจึงเห็นว่าเป็นประเด็นที่ควรได้รับการศึกษาและนำมาปรับใช้กับองค์การต่าง ๆ ในประเทศไทยอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ในการศึกษาด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ต่อ ๆ ไป
CSR อันเกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
CSR ย่อมาจาก Corporate Social Responsibility หรือ ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์การ หรือ ที่สถาบันไทยพัฒน์ เรียกว่า บรรษัทภิบาล หมายถึง การดำเนินกิจกรรมขององค์การที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมทั้งในระดับย่อย เช่น พนักงาน ลูกค้า ชุมชน ฯลฯ และสังคมโดยรวม เช่น สภาพแวดล้อมของประเทศชาติ ของโลก เรื่องสิทธิมนุษยชนฯลฯ โดยเป็นกิจกรรมที่สอดคล้องกับพันธกิจและวิสัยทัศน์ขององค์กร
อันที่จริง CSR มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่เมื่อประมาณ 200 ปีก่อน ครั้งที่บริษัทอีสอินเดียถูกคว่ำบาตรจากประชาชนเพราะใช้แรงงานทาสอย่างไร้มนุษยธรรม แต่ก็ยังไม่ใช่เรื่องที่ผู้ดำเนินธุรกิจจะให้ความสำคัญมากนัก ทว่าเมื่อนายโคฟี่ อันนัน อดีตเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เรียกร้องให้องค์กรธุรกิจแสดงความเป็นพลเมืองดีของโลก โดยการเสนอบัญญัติ The UN Global Compact อันเป็นแนวทางในการรับผิดชอบต่อสังคม ผู้ประกอบการจึงให้ความสนใจ และดำเนินกลยุทธ์ทาง CSR เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้การจัดทำ CSR นั้นมีสองแง่มุมหลัก ๆ คือ การทำเพื่อสร้างฐานตราสินค้าให้ติดตลาดในระยะยาว กล่าวคือ เมื่อผู้บริโภค และสังคมมองว่าองค์การที่ทำ CSR เป็นองค์การที่ดี เขาก็จะรู้สึกดีกับสินค้า องค์การนั้นก็จะสามารถรักษาระดับหรือเพิ่มส่วนแบ่งตลาดมากยิ่งขึ้นได้ ถือว่าเป็นการประชาสัมพันธ์องค์การและผลิตภัณฑ์หรือสินค้าหรือบริการขององค์การ และเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดวิธีหนึ่ง สำหรับอีกแง่มุมของผู้ทำ CSR นั้นคือ การตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยหวังตอบแทนกลับสู้สังคมอย่างแท้จริง จุดประสงค์การทำ CSR จึงแตกต่างกันไปตามแต่วิสัยทัศน์และกลยุทธ์ขององค์การนั้น ๆ
สำหรับขอบเขตของ CSR นั้นไม่ชัดเจนตายตัว ขึ้นอยู่กับองค์การที่จัดทำ อย่างไรก็ดีขอบเขตหรือองค์ประกอบของ CSR มีความเกี่ยวข้องกับงานด้านพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เช่น เรื่องแรงงาน เรื่องสิทธิมนุษยชน เรื่องการพัฒนาองค์การ เรื่องการศึกษาและภาวะผู้นำ ฯลฯ ขอบเขตต่าง ๆ เหล่านี้ของ CSR สามารถส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ได้เป็นอย่างดี
อนึ่ง CSR มีส่วนช่วยให้บุคลากรในองค์การมีศรัทธาต่อองค์การ ช่วยสร้างให้เกิดความจงรักภักดีและทุ่มเทตั้งใจทำงานและพัฒนางานเพื่อองค์การ ด้วยรู้สึกว่าองค์การได้ทำประโยชน์ให้ตนและสังคม นอกจากนั้นหากทำ CSR อย่างมีกลยุทธ์ยังสามารถช่วยให้เกิดการเรียนรู้ของพนักงานในองค์การได้อย่างมีประสิทธิภาพและหลากหลายด้าน ทำให้พนักงานเกิดการเรียนรู้ระยะยาวและตลอดเวลา เช่น การจัดการโครงการพัฒนาชุมชน บุคลากรผู้เข้าร่วมโครงการจะได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของตน ได้พัฒนาการทำงานเป็นทีมให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพราะต้องร่วมมือกับผู้อื่นให้โครงการสำเร็จลุล่วง นอกจากนั้นยังได้ฝึกทักษะความเป็นผู้นำและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพราะการออกไปทำโครงการเพื่อนสังคมนอกสถานที่จะมีเหตุการณ์เกิดขึ้นให้แก้ไขตลอดเวลา เพราะไม่ได้อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมขององค์การเพียงอย่างเดียว แต่ต้องแวดล้อมไปด้วยคนอื่น ๆ และบริบทต่าง ๆ ที่ไม่อาจควบคุมได้เช่นกัน คล้ายกับการให้พนักงานไปฝึกอบรมนอกสถานที่ แต่ในที่นี้เขาจะได้นำความรู้ความสามารถออกมาใช้ในสถานการณ์จริง ไม่ใช่เพียงสถานการณ์จำลองที่ทางองค์การกำหนดให้ จะเห็นว่า CSR ก่อให้เกิดประโยชน์ในเชิงปฏิบัติอย่างดีเยี่ยมต่อการพัฒนาตัวบุคคลซึ่งสามารถนำมาใช้ในการทำงานหรือพัฒนาองค์การต่อไปได้
ทั้งนี้ทั้งนั้นมีหลายหน่วยงานหลายองค์การที่เล็งเห็นความสำคัญของ CSR ต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยการวางกลยุทธ์ CSR ให้เอื้อประโยชน์ต่องานดังกล่าว ซึ่งทำให้องค์การสามารถดำเนินธุรกิจมาได้อย่างยั่งยืน ตรงตามหลักการพัฒนาอย่างยืน หรือ Sustainable Development ผู้จัดทำจึงนำกรณีตัวอย่างขององค์การที่ประสบความสำเร็จในการใช้ CSR เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สำหรับเป็นกรณีศึกษาไว้ในหัวข้อต่อไป
กรณีตัวอย่างที่องค์กรสามารถนำกลยุทธ์ CSR มาใช้กับ HRD ได้อย่างสัมฤทธิ์ผล
Ø 7-Eleven สู่การสร้างคุณค่าองค์กรโดย “ปัญญาภิวัฒน์”โครงการ”ปัญญาภิวัฒน์” เป็นโครงการที่ให้การสนับสนุนด้านการศึกษากับเด็กที่ด้อยโอกาส มีจุดเริ่มต้นจากการบริจาคทุนการศึกษาเล็ก ๆ น้อย ตลอดจนถึงการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมที่ปลูกฝังให้เด็กรักการอ่าน เช่นโครงการ รักการอ่าน “เซเว่นบุ๊คอวอร์ด” จนกระทั่งทางบริษัทได้มีการเปิดโรงเรียนปัญญาภิวัฒน์เทคโนธุรกิจขึ้นมาเป็นโรงเรียนอาชีวะแนวใหม่ใช้หลักสูตรการเรียนการสอนผ่านการเรียนด้วยประสบการณ์ ที่มุ่งพัฒนาบุคคลการเข้าสู่ธุรกิจค้าปลีกโดยใช้องค์ความรู้ที่สั่งสมมา และเปิดศูนย์การศึกษาทั่วประเทศที่สอนผ่านระบบการเรียนทางไกลผ่านระบบวีดีโอ สิ่งที่โรงเรียนปัญญาภิวัฒน์ มีให้คือ เรียนฟรี มีงานทำ100% มีรายได้ระหว่างเรียน เฉพาะทุนการศึกษาต่อที่มีให้อยู่นับ 100ล้านบาทและมีโครงการจะเปิดสอนในระดับปริญญาตรีและโทในอนาคต การทำโครงการนี้สู่ชุมชน มีแนวการคิดจากผู้บริหารว่า “ถ้าคนไทยมีการศึกษาดีขึ้น จะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า เข้มแข็งก็จะทำให้ประชาชนไทยเข้มแข็งไปด้วย เมื่อเขามีรายได้กลับมาก็จะซื้อสินค้าที่ เซเว่นเป็นการตอบแทนเราทีหลังแต่เราต้องช่วยสังคมก่อน”จากแนวคิดของ 7-Elevenมีผลอย่างมากในการพัฒนาคนในองค์กร คือจากการที่บริษัทมีโรงเรียนของตนเอง ย่อมจะทำให้สามารถใส่ความเป็นวัฒนธรรมองค์กรได้เต็มที่และถือเป็นการปลูกฝังส่วนที่เป็นตัวของบริษัทเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทุกสิ่งจะย้อนกลับมาที่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในองค์กร เมื่อมีนักเรียนที่เรียนจบแล้ว ทำงานได้เข้ามาทำงานที่บริษัทจะสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ ความรู้ที่สั่งสมมาจากโรงเรียนเข้ามาและเกิดการแลกเปลี่ยนพฤติกรรมกับบุคลากรเดิมที่อยู่ในองค์กร ซึ่งอาจมีความไม่เข้าใจในวัฒนธรรมองคืกรแบบชัดเจนก็จะได้ทราบจากนักเรียนที่ได้รับหล่อหลอม มาเป็นอย่างดีมีความจงรักภักดีกับองค์กร ส่วนรุ่นพี่ที่อยู่มาก่อนก็แลกเปลี่ยนประสบการณ์กลับไปนำไปสู่การค่อยๆกลืนเป็นวัฒนธรรมเดียวกันแต่เป็นการปรับพฤติกรรมที่มีความหมายนัยสำคัญสู่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์แบบบูรณาการ
แนวความคิด CSR สู่การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ปัจจุบันความพร้อมของปัจจัยเรื่องคน หรือทรัพยากรมนุษย์ในองค์กรเป็นสิ่งซึ่งบริษัทกำลังใช้เพื่อก้าวนำหน้าคู่แข่งทั้งด้าน ปริมาณและคุณภาพ โดยการนำเอา CSR มาใช้กับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ใช้หลักสำคัญในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมผ่านความคิดอ่าน การมองโลกที่แตกต่างกันของกลุ่มคน เมื่อออกไปทำอะไรให้กับสังคมสิ่งที่ตอบแทนบริษัทกลับมามิใช่เป็นแค่ความศรัทธากับองค์กรหรือผลตอบแทนนรูปเงินเท่านั้น แต่ยังมีการได้รับความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมต่าง ๆ ผลที่ได้เป็นการมองลึกองค์กรของเราและมองไปที่สังคมที่เราได้ให้ความรับผิดชอบไป เปรียบเทียบ เรียนรู้ที่จะใช้มาเป็นการพัฒนาตนเอง เพื่อพิจารณาสู่การปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการพัฒนาจิตใจพนักงานในการเข้าร่วมกิจกรรมของสังคม จะได้พัฒนาทางด้านอารมณ์ให้สูงขึ้น เมื่อเกิดความยอมรับจากภายนอกจะเกิดความมั่นใจในการทำงานมากขึ้น
การทำโครงการ CSR แต่ละโครงการควรมีการประเมินผลและมาปรับใช้ในการริเริ่มโครงการใหม่ ๆ ต่อไป พิจารณาจุดดี-จุดด้อยและที่สำคัญการทำโครงการนี้ควรจะต้องเกิดจากความสมัครใจที่จะตอบแทนสิ่งดี ๆ กลับสู่สังคม มีการหมุนเวียนการเข้าร่วมกิจกรรมไปแต่ละคนเพื่อเกิดความแตกต่างและเรียนรู้ให้มากที่สุด ผลสำเร็จอยู่ที่ได้พัฒนาไปมากแค่ไหน ได้อะไรจากสังคมที่เป็นข้อคิด หาใช่ผลทางการตลาดเป็นสำคัญ
เบญญาลักษณ์ ศรลัมพ์ & ภิรดี เหรียญทองDraft 1 # July 27, 2007