KM หรือ MK
KM หรือว่า MK* คำถามและคำตอบหยอกล้อระหว่างการสนทนาในวงผู้ค้นคว้าหาความรู้ ผู้คนจากหลายหน่วยงานเฝ้าจัดกิจกรรมค้นหาความรู้เพื่อนำมาบริหารจัดการความรู้ให้สามารถแบ่งปันจากเพื่อนร่วมงานสู่เพื่อนร่วมงาน คำกล่าวสุดหรู Knowledge Management ที่นักวิชาการสร้างสรรค์แนวความคิด บอกถึงที่มา ที่ไป และแนวทางจัดการให้ความรู้ที่มีในผู้คนเพื่อนำมาแบ่งปัน สร้างแนวทาง นำสิ่งเก่า ๆ ที่อยู่ในตัวให้มาเป็นสิ่งใหม่กับอีกคนเพื่อนำมารวบรวม จัดกลุ่มให้เกิดความชัดเจนถึงแนวทางที่ดี ที่สุด หรือทางลัดสู่ดวงดาวดวงเล็ก ๆ แต่ละดวง
การจัดกิจกรรม KM ทำเพื่อให้เกิดอะไรแก่องค์กร หรือผู้เข้าร่วมกิจกรรม ที่สำคัญก็ คือ การจัด KM ขึ้นเพื่อให้หน่วยงาน องค์กร นำความรู้ หรือการเรียนรู้ การปรับเปลี่ยน วัฒนธรรมภายใน ด้วยการสร้างและใช้ความรู้ที่มีอยู่ภายในนำมาใช้ในการปฏิบัติงาน ด้วยการเรียนรู้ร่วมกัน การแลกเปลี่ยน ภายในองค์กรที่จัดกิจกรรม KM การเรียนรู้จะได้มากจาดบุคลากรภายในหน่วยงาน หรือพนักงานที่สังกัดองค์กรนั้น ๆ หรือถ้าองค์กรนั้นเป็นองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ บุคลากร ก็หมายถึง ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง ผู้บริหาร ครู ซึ่งผู้คนทั้งหลายเหล่านี้ทุกคนมีภาวะที่มีการเรียนรู้จากงานของตนเอง และกิจกรรม KM จะช่วยสร้างหรือเป็นแรงผลักให้บุคคลนั้น แบ่งปันความรู้ให้แก่ผู้อื่น ซึ่งอาจจะเป็นเพื่อนร่วมงาน หรือผู้ใช้บริการ เป็นการเชื่อมโยงให้องค์กรเริ่มจัด และมี กลไกที่จะจัดการกับความรู้ของผู้คนในองค์กรให้ดึงสมรรถนะของตนเองออกมา เพื่อทำองค์กรของตนเองเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ในที่สุด
การจัดการความรู้ (KM Process) สามารถแยกออกเป็นส่วน ๆ ให้เกิดความเข้าใจว่ารูปร่างของ KM มีหน้าตา ลักษณะอย่างไร เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย ควรใช้แนวทางใดในการจัดการความรู้ สิ่งแรกของการจัดการความรู้ การสร้างทัศนะที่ดีในการเปลี่ยนแปลงแนวคิดของตนเอง ให้ผู้คนเกิดความรู้สึกอยากบอก ถ่ายทอดสิ่งที่ตนรู้ให้ผู้อื่นทั้งผู้ที่มีความรู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้ที่ไม่มีความรู้ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรารู้ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ การเปิดใจแบ่งปันอย่างจริงใจ (open mine) ในมุมมองกลับกันผู้ที่รับจะรู้สึกได้และผู้คนในองค์กรจะแบ่งประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานกับตัวเราเอง เกิดการแลกเปลี่ยนระหว่างเพื่อนร่วมงาน ซึ่งถ้ากิจกรรม KM เข้มแข้งจะเกิดการขยายขอบเขตไปยังบุคคลทั้งภายในและภายนอก หน่วยงานของตน ลำดับถัดมาก็คือ เป็นผลลัพธ์หรือที่ให้คำตอบจากการปฏิบัติในข้อแรก องค์กรจะเกิดการปรับเปลี่ยนที่สามารถเห็นได้ ผู้คนในองค์กรแบ่งปันสิ่งที่รู้ร่วมกัน จัดทำแนวทางการจัดการความรู้ลงในกระบวนการของการดำเนินงานให้มีความชัดเจนเป็นไปในทางเดียวกัน ดังนั้น แนวคิดการปรับเปลี่ยนวิธีคิดของผู้คนไปในทางที่ดี หรือความรู้สึกนึกคิดในเชิงบวก (Positive Thinking) เป็นปัจจัยที่สำคัญ ดังคำกล่าวที่ว่า สมองประสานใจ ที่จะสามารถสร้างความมั่นใจ และเชื่อมั่นว่าจะการจัดการความรู้จากกลุ่มคนที่แบ่งปันสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม KM ในองค์กรสามารถประสานใจได้อย่างแนบแน่นยิ่งขึ้นถ้าผู้นำองค์กรเห็นความสำคัญ และสนับสนุนการจัดการความรู้ขององค์อย่างต่อเนื่อง
วิจารณ์ พานิช. (2545). องค์กรแห่งการเรียนรู้ และการจัดการความรู้. วารสารเวชปฏิบัติและการใช้ยา. กทม.ประพนธ์ พาสุดยืด. (2547). การจัดการความรู้และการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Knowledge Management & Learning Organization). สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม (สคส.) กทม.นำทิพย์ วิภาวิน. (2547). การจัดการความรู้กับคลังความรู้. เอสอาร์พรินติ้ง แมสโปรดักส์. กทม.ยืน ภู่วรรณ. (2548). การจัดการความรู้และการเรียนรู้ขององค์กร. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. กทม. http://gotoknow.org/