ภาษาลูกครึ่ง
ลูกครึ่งในที่นี่ไม่ได้หมายความถึง เด็กที่เกิดจากพ่อแม่ต่างเชื้อชาติกัน แต่จะหมายถึงพวกที่ชอบพูดแบบภาษาไทยครึ่ง ภาษาอังกฤษครึ่ง ลูกครึ่งประเภทนี้พบได้จำนวนมากในกลุ่มนักวิชาการ ที่มักจะพูดภาษาไทยคำ ภาษาอังกฤษคำ เนื่องจากเหตุผลที่ว่า ภาษาไทยบางคำมันไม่สื่อความหมายตรงกับที่คิดไว้ ใช้คำภาษาอังกฤษจะสื่อความหมายได้ตรงมากกว่า จะจริงหรือเปล่าก็คงต้องพิจารณากันเอาเอง แต่อย่างไรก็ตามการพูดแบบลูกครึ่งนี้ก็จะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับกลุ่มคนฟังได้มาก คนพูดจะดูเก่ง ฉลาด ดูดีมีรสนิยม ไม่ได้ดูพื้นๆ แบบชาวบ้านร้านตลาดทั่วไป ทุกวันนี้หาคนที่พูดภาษาไทยอย่างเต็มรูปประโยคได้น้อยเต็มที แต่มานึกดูอีกทีการพูดแบบลูกครึ่ง คงไม่ส่งผลทำให้ภาษาไทยเสียหายเท่าไหร่ ที่บอกอย่างนี้เพราะว่า แค่มีเด็กวัยรุ่นกลุ่มเล็กๆ ที่ใช้ภาษาพูดแบบ “แอ๊บแบ๊ว” หน่วยงานของราชการก็ออกมาต่อต้าน ทำซะว่าเป็นเรื่องใหญ่โต บอกว่าจะทำให้ภาษาไทยวิบัติ แต่การพูดแบบลูกครึ่งนี้ ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไป ใครๆ ก็พูดกัน ทั้งทางสื่อโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ ในชีวิตประจำวันของเรา ในสถานศึกษา โดยเฉพาะในมหาวิทยาลัยที่อาจารย์มักพูดภาษาอังกฤษในประโยคภาษาไทยเสมอ หน่วยงานราชการหน่วยนั้นก็ไม่เห็นว่าอะไร แสดงว่าการพูดแบบลูกครึ่งไม่ทำให้ภาษาไทยเกิดความบิดเบือน
โดยส่วนตัวผู้เขียน ก็ไม่ได้คิดมากมายเรื่องนี้ เพราะว่าก็ชินกับภาษาลูกครึ่งมาตั้งแต่เด็ก แต่บางทีก็คิดเหมือนกันว่า เอ๊...เราคนไทยด้วยกันนี่จะเข้าใจคำภาษาอังกฤษ ได้ดีกว่าคำภาษาไทย จริงหรอ แล้วอย่างนี้คำภาษาไทยบางคำ ที่บอกว่ามันพูดแล้วไม่สื่อความหมาย มันจะไม่ค่อยๆ เลือนหายไป แล้วคงใช้คำภาษาอังกฤษคำนั้นมาแทนที่ไปเลย ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็คงจะเสียดายไม่ใช่น้อย เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ก็เลยอยากที่จะให้ทุกคนมาช่วยกันใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง เพราะการพูดแบบไทยคำอังกฤษคำนั้น นอกจากจะทำให้ภาษาบิดเบือนไปแล้ว ยังไม่ถูกต้องตาม Structure ของภาษาไทย แล้วบางทีการพูดไทยคำอังกฤษคำมันก็ไม่ Make sense กับคนฟังเท่าไหร่ ทุกคนเห็นด้วยมั้ยคะ Oop…เผลอไปอีกแล้วเรา
