ในร่างกายเรามีธาตุทั้งสี่ คือธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ ถ้าธาตุปกติร่างกายเราจะมีความสมบูรณ์ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ เมื่อธาตุใดธาตุหนึ่งผิดปกติไปร่างกายเราก็จะเสียความสมดุลทำให้เกิดการเจ็บป่วย ในส่วนของธาตุนั้น ๆ
บุญคุ้ม........
สวัสดีครับ......กลุ่มช่วยเหลือเกื้อกูล ศูนย์เรียนรู้เชียงดาว เชียงใหม่ ......ยินดีครับที่ได้รู้จักครับ.......
ขอสอบถามนิดหนึ่งครับ ว่า ถ้าเราไม่สบาย เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ไฟมากกว่าน้ำ น้ำมากกว่าลม หรือลมมากกว่าดิน ดินกับไฟไม่เสมอกัน ใช้วิธีอะไรทดสอบ แล้วคนไข้ยอมรับว่าเป็นจริงครับ...
ตอบข้อสงสัยให้คุณสมพงศ์ ตันติวงศ์ไพศาลไปพิจารณาเองเอง
การตรวจธาตุเจ้าเรือนการตรวจธาตุเจ้าเรือนการตรวจธาตุเจ้าเรือน โดยการคำนวณจากวันที่ ,เดือน, พ.ศ.ที่เกิดแล้วนำมาคำนวนก็จะรู้ตั้งแต่วันที่เริ่มปฎิสนธิในท้องแม่ เมื่อคลอดออกมาก็จะรู้ธาตุเจ้าเรือนหลักอะไร และธาตุเจ้าเรือนรองอะไร จะทราบว่าส่วนไหนในร่างกายเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วย ( ยกเว้นการติดเชื้อโรค และการเกิดอุบัติเหตุ ) และมักจะป่วยในฤดูใหน เวลาใดมีจุดอ่อนของสุขภาพ เมื่อผู้ใดได้ทราบธาตูเจ้าเรือนของตนเอง ก็สามารถป้องกันการเจ็บของตนเองได้ วันนี้จะยกตัวอย่าง คนธาตุเจ้าเรือน หลักเป็น ธาตุน้ำ และธาตุเจ้าเรือนรองเป็นธาตุลม ตัวอย่าง ผู้ที่เกิด วันเสาร์ที่ 27 ก.ค. 2506 ตรงกับขึ้น 6 ค่ำ เดือน 9 ผลการวินิจฉัย ท่านปฎิสนธิในครรภ์มารดา เมื่อวันเสาร์ ที่ 20 เดือน ต.ค. พ.ศ. 2505 ตรงกับแรม 6 ค่ำ เดือน 11ธาตุเจ้าเรือนหลักคือธาตุน้ำ ( ธาตุน้ำที่มีอยู่ในร่างกาย12 อย่าง ) ได้แก่น้ำดี เสมหะ น้ำหนอง โลหิต น้ำเหงื่อ น้ำลาย มันข้น น้ำตา น้ำมูก มันเหลว น้ำไขข้อ และน้ำปัสสาวะธาตุเจ้าเรือนรองคือธาตุลม (ธาตุลมที่มีในร่างกาย 6 อย่าง ) ได้แก่ลมที่พัดให้โลหิตไหลเวียนจากเบื้องต่ำขึ้นสู่เบื้องสูง ลมที่พัดให้โลหิตไหลเวียนจากเบื้องสูงลงสู่เบื้องต่ำ ลมที่พัดอยู่ในช่องท้อง ลมที่พัดอยู่ในลำไส้ ลมที่พัดให้โลหิตไหลเวียนทั่วร่างกาย และลมหายใจเข้าออก จุดอ่อนสุขภาพ เกี่ยวกับหัวใจ และหลอดเลือดใหญ่กลางลำตัว ระบบประสาทต่างๆ และเส้นเลือดฝอยระวังการเกิดโรค เกี่ยวกับเส้นเลือดฝอยแตก ตีบตัน หรือเป็นอัมพาต เพราะกับเรื่องความดันโลหิตในร่างกาย และโรคหัวใจฤดูที่จะเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยคือฤดูฝน มักมีอาการเริ่มผิดปกติในระหว่างเวลาช่วงบ่าย ถึงเย็น และยามกลางคืนก็เหมือนกัน หลังเวลา 02.00น.จนถึงใกล้สว่างการป้องกัน การกินอาหารบำรุงธาตุน้ำเช่นผัก ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวในและกินผักอาหารที่มีรสเผ็ดร้อนในช่วงฤดูฝนเป็นประจำเพื่อปรับความสมดุลของธาตุลม เช่นอาหารประเภทต้มยำต่างๆ จะมีส่วนประกอบของอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน เช่น ข่า ตะไคร้ พริกไทย กระเทียม กระชาย พริก เป็นต้น ด้านพฤติกรรม เนื่องจากฤดูฝนธาตุในร่างกายร่างกายได้รรับกระทบความเย็นเวลาฝนตก และได้รับอิทธิพลอากาศร้อนและอากาศหนาวเจือปนอยู่ในช่วงเปลี่ยนฤดู ต้องควรระวังอารมณื เรื่องการกินอาหารแปลกรส ที่ไม่เคยกิน อาหารที่ไม่สุก หรือบูดเน่า ควรกินอาหารที่สะอาดและอุ่นก่อนกินถ้าเป็นอาหารที่ทำไว้นาน และรับประทานอาหารให้ตรงเวลาเช่นอาหารมื้อเช้าควรกินระหว่างเวลา 07.00- 09.00 น.เพราะเป็นเวลาของระบบน้ำดีจะทำงานคือย่อยอาหาร และลมในลำไส้จะเริ่มพัด หากท่านไม่มีอาหารในกระเพาะ ให้ระบบอวัยวะได้ทำงานตามปกติก็จะเกิดอาการผิดปกติเกียวกับโรคลมในช่องท้องและในลำไส้ ทำให้ท้องอืด จุดเสียด หรือเป็นโรคกรดไหลย้อนขึ้นสู่หลอดลมตามโรคแผนปัจจุบัน หรือโรคกระเพาะอาหารเป็นต้น ไม่ควรทำงานเกินกำลัง ฝืนร่างกายอยู่เสมอ เช่นนั่งนานๆ อดนอน อดข้าว อดน้ำ กลั้นปัสสาวะ อุจจาระ โศรกเศร้าเสียใจเกินไป มีความโกรธเป็นนิจ พฤติกรรมเหล่านี้ควรหลีกเลียงเพราะเป็นมูลเหตุของการเกิดโรคในธาตุดังกล่าว บุญคุ้ม