การออกแบบสารสนเทศ การกำเนิดของอาชีพใหม่


การออกแบบ สารสนเทศ Information Design

 

การออกแบบสาสนเทศ: การกำเนิดของอาชีพใหม่

วีระพันธ์ จันทร์หอม
[email protected]
Informative Culture Lab
สาขาวิชาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ (Media Arts and Design)
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

               ปัจจุบันนี้เราคงจะปฏิเสทไม่ได้ว่าไม่มีใครรู้จักเครื่องมือในการสืบค้นจาก คลังข้อมูลทั่วโลกที่เรียกว่า "search engines" ที่มีเรียกสนุกปากแตกต่างกันไปเช่น  Hotbot, Alta Vista, Yahoo และที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันก็คงได้แก่ Google ที่ซึ่งเราสามารถป้อนคำหรือหัวข้อลงไปเพื่อสืบค้นแล้วก็ได้ผลลัพธ์อันมากมายที่ใกล้เคียงกับคำที่สืบค้นมาให้เลือกใช้ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วในยุคนี้ ดีกว่าไม่มีอะไรให้ใช้ใช่ไหมครับ  แต่วิธีการและกลไกแบบนี้ไม่ใช่วิธีการในฝัน ยังมีข้อบกพร่องมากมาย ยังไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการในการเข้าถึงสารสนเทศ  แล้วอะไรละครับคือวิธีการในอุดมคติในการจัดการกับสารสนเทศ ในอนาคต

            
                อนาตคคือโลกของความเป็นปัจเจกชน ลองจินตนาการดูนะครับว่าถ้าในอนาคตเรามีเครื่องมือที่ชาญฉลาดรู้ว่าเราคือใครสามารถตอบสนองในด้านข้อมูลข่าวสารในสิ่งที่เราสนใจ แม้กระทั้งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ  สามารถเชื่อมความคิดต่อยอดความคิดสร้างสรรสร้างรูปแบบใหม่ของความคิด     เราสามารถสร้างแผนการเดินทางได้ด้วยตนเองที่ทุกอย่างมีความเหมาะสมทุกอย่างกับตนเอง  ลองคิดดูนะครับว่าถ้าสารสนเทศที่มีอยู่มากมายในโลกถูกคัดสรรมาให้เราได้ อย่างเหมาะสมถูกต้องตามความต้องการ ชีวิตเราจะดีขึ้นขนาดไหนคงจะไม่มีการเสียเวลากับสิ่งที่ไม่เป็นเรื่อง นี่ละครับคือโลกแห่งอุดมคติ  ศาสตร์ด้านการออกแบบสารสนเทศเกิดขึ้นมาไม่ถึง 10 ปี เป็นวิชาการใหม่ที่ถูกนำมาพูดถึงต่างประเทศ แต่ในประเทศไทยยังไม่ค่อยมีการเรียนการสอนกันมากนัก

อะไรคือการออกแบบสารสนเทศ?

          การออกแบบสารสนเทศถูกให้ความหมายในฐานะที่เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ของการตระ เตรียมสารสนเทศ โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ

1.  เป็นการพัฒนางานเอกสารที่มีความซับซ้อน ให้อยู่ในรูปแบบสามารถเรียกใช้ได้อย่าง รวดเร็ว ถูกต้อง และง่ายต่อการแปลให้กลายเป็นการกระทำที่เกิดผล
2. เพื่อออกแบบการสื่อสารระหว่างกันด้วยเครื่องมือผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ (human-computer interface) ให้ออกมาง่าย เป็นธรรมชาติ และน่าพึงพอใจให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ 
3. เป็นการนำเอาเทคโนโลยี สามมิติ (3D) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจความหมายมุมมองได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประยุกต์ใช้เพื่อนำเสนอมุมมองจำลองพื้นที่สาธารณะ ที่สามารถมองเห็นผ่านจอคอมพิวเตอร์


ความต้องการการออกแบบสารสนเทศ
           ทำไมการออกแบบสารสนเทศจึงกลายเป็นอาชีพได้ ประการแรก   การจัดการสารสนเทศในสังคมสมัยใหม่อันซับซ้อนยุ่งเหยิงของเรานั้นต้องการคอมพิวเตอร์ที่ชาญฉลาด เครื่องมือในการสื่อสารชนิดต่างๆ และ เครือข่าย (network) ซึ่งสามารถทำงานได้มากขึ้นเรื่อยๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล แต่อย่างไรก็ตามเพียงแค่เก็บสะสมข้อมูลจำนวนมากๆไว้ในคอมพิวเตอร์และพอถึงเวลาก็ดึงมาใช้นั้นไม่ใช่ทางแก้ปัญหาเรื่องสารสนเทศที่เราต้องการ ที่จริงแล้วแหล่งเก็บข้อมูลขนาดใหญ่มหึมาแบบนี้จะส่งข้อมูลมหาศาลมาท่วมทับเรา ให้เราต้องแบกข้อมูลไว้มากๆและยังสร้างปัญหาเวลาต้องการค้นหาข้อมูลอีกด้วย ซึ่งในบางครั้งทำให้เรารู้สึกว่า เรากำลังหลงอยู่ใน cyberspace สิ่งที่เราต้องการไม่ใช่ข้อมูลที่เพิ่มขึ้น แต่เป็นความสามารถที่จะนำเสนอข้อมูลที่เหมาะกับเวลาและคนที่จะรับ ในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพและประสบผลสำเร็จมากที่สุด ประการที่สอง ที่อยู่เบื้องหลังการผลักดันให้เกิดเป็นอาชีพนักออกแบบสารสนเทศก็คือ  เวลากลายเป็นสิ่งมีค่ามากขึ้นต้องใช้เทคนิคหรือความเชี่ยวชาญในการบริหาร สิ่งที่นักบริหารหรือผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ทำอยู่ทุกวันนี้คือสร้างกระบวนการสารสนเทศ (Process information) ถ้าสารสนเทศถูกออกแบบมาไม่ดีมันก็จะทำงานไม่มีประสิทธิภาพและเสียเวลาเปล่า

การออกแบบสารสนเทศ: อาชีพแบบใหม่
            การออกแบบสารเทศไม่ใช่อาชีพแบบเดิมๆ ผู้ประกอบอาชีพนี้จะมีมุมมองต่ออาชีพตนเองแตกต่างไปแม้แต่ชื่อก็ถูกเรียกก็ต่างกันไป ในหน้าหนังสือพิมพ์และนิตยสารจะถูกเรียกว่า สารสนเทศกราฟิก (information graphics) ถ้าในทางธุรกิจ คือ การนำเสนอกราฟิก (presentation graphics) หรือ ธุรกิจกราฟิก (business graphics) และในทางวิทยาศาสตร์ รู้จักกันในชื่อการทำให้มองเห็นในเชิงวิทยาศาสตร์(scientific visualization) วงการวิศวกรรมคอมพิวเตอร์เรียกว่า หน้าตาของงานออกแบบ (interface design) ในขณะที่ การอำนวยการประชุม (conference facilitator) เรียกว่าการบันทึกกราฟิก (graphic recording) และสถาปนิกพูดถึงสัญลักษณ์ (signage) หรือสิ่งนำเส้นทาง (wayfinding) ส่วนนักออกแบบกราฟิกเรียกสั้นๆว่า การออกแบบ(design)    ในขณะที่มีชื่อเรียกต่างกัน แต่ความคล้ายกันนั้นมีสูงมาก คำเรียกที่ต่างกัน แสดงให้เห็นว่าการออกแบบสารสนเทศถูกใช้ในหลายสายงานที่ต้องมีการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น ดังนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเรื่องต่างๆเกี่ยวกับการออกแบบสารสนเทศจะมีแนวโน้มทั้ง เพิ่มมากขึ้น  ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงสิบปีหลังนี้จำนวนของบริษัทให้คำปรึกษาและออกแบบเริ่มนำศาสตร์ด้านการตลาดให้เข้ามาอยู่รวมในภายใต้แนวคิดการออกแบบสารสนเทศอีกด้วย

คำสำคัญ (Tags): #information#design#architecture
หมายเลขบันทึก: 11287เขียนเมื่อ 4 มกราคม 2006 10:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 17:21 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท