ความคาดหวังกับสิ่งที่เป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้นั้น โดยลักษณะความเคยชินของคนเราก็มักจะโอนเอียงไปในทางที่เป็นไปไม่ได้เสียเป็นส่วนใหญ่(โดยไม่รู้ตัว)
คงไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่เราจะกำหนดจิตใจของเราให้อยู่กับตัวได้ตลอดเวลา เพราะสิ่งที่กระตุ้นต่อมความรู้สึกของคนเรามีมาตลอด ทั้งที่บั่นทอนและหนุนเสริมกำลังใจ การจะทำความเข้าใจกับเรื่องราวเหล่านั้นอยู่ที่จิตใจเราเอง "มองอย่างไรก็จะเป็นอย่างนั้น"
ความพยายามที่จะทำให้ใครหลายคนเข้าใจอย่างที่เราเป็น เรามอง จะมีความหมายก็ต่อเมื่อ เราเลิกที่จะพยายามทำ นั่นหมายความว่า ส่วนที่เราคาดหวังไว้นั้นได้เข้าไปอยู่ในส่วนลึกในจิตใจของเค้าแล้ว มากน้อยเพียงใดวัดค่าได้ยาก เพราะเราเองก็ไม่รู้ว่าเรานั้นหยุดที่จะพยายามตอนไหน
ตราบใดที่ลมหายใจยังคงเข้าออกเป็นระบบเช่นเดิมอย่างที่มันเคยเป็นเช่นทุกวัน ก็ไม่จำเป็นว่าความพยายามจะมีความหมายต่อกับรับรู้ของเค้าอย่างไร รู้แต่เพียงว่า....เต็มที่กับสิ่งที่คิด และทำให้ดีที่สุด(เท่าที่ความรู้สึกนั้นมี)
ช่วงสายๆกับรอยยิ้ม
พรหมลิขิต 19/07/2550
ผมไม่รู้ว่าเปียโร่ กำลังบอกอะไร
แต่รู้สึกได้ทีเดียวว่า ท้อแท้บ้างในบางวัน
มันเป็นอย่างนั้นเองนะน้อง...อดทนไปแล้วดีเอง ผมว่าการเปลี่ยนมุมมองในเวลาทำอะไรไม่ได้ ก็เข้าทีดีเหมือนกันครับ
ให้กำลังใจครับ
พี่เอกครับ
ในช่วงเวลาขณะนั้นผมรู้สึกอย่างไร ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน จะว่าท้อแท้ก็ไม่น่าจะใช่ จะว่ามีความสุขก็ไม่เชิง คือมันมีมุมมองวูบไปวูบมา ทุกๆครั้งที่รู้สึกทุกข์อกทุกข์ใจ ความสุขก็แวบเข้ามาโดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน ไม่รู้เพราะอะไร อาจจะเข้าขึ้นสับสนกระวนกระวายเล็กน้อย แล้วผมก็ติดกับดักความรู้สึกของตัวเอง(อีกแล้ว)
***จริงๆแล้วผมต้องการสื่อถึงความรู้สึกที่เป็นสุขมากกว่าทุกข์ครับ
"....ความรักทำให้ผมเข้าใจอะไรมากขึ้นครับผม...."
อ่านจากที่สื่อ
ดูสับสน ว้าวุ่น...สุขก็ไม่ใช่ ทุกข์ก็ไม่เชิง
หรือ สุขๆทุกข์ เป็นธรรมดา
หากเรารู้ว่า เราคิดอะไร เราต้องการอะไร และเราควรทำอย่างไร ค่อยๆคิดไป เวลาก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยได้ อย่าด่วนใจเร็ว
ผมเชื่อว่า ...กำละถามหัวใจตนเองใช่มั้ยครับ เตรียมคำตอบดีๆให้กับหัวใจด้วยนะครับ