เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ดิฉันและครอบครัวได้มีโอกาสไปเยี่ยม ร.ร.สัตยาไส อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ก่อตั้งโดย ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา บนแนวคิด "คุณธรรมนำความรู้" ความจริงดิฉันรู้จักชื่อเสียง ร.ร.สัตยาไสมาประมาณเกือบ 2 ปีแล้ว ทั้งจากอ่านหนังสือที่ดร.อาจอง เขียน จากสื่อ จากคำบอกเล่าของเพื่อนฝูง และที่สำคัญจาก G2K แห่งนี้
ระยะทางจากสุรินทร์ไปถึงอ.ชัยบาดาล ใช้เวลาประมาณเกือบ 5 ชม. (รวมเวลาแวะพักระหว่างทาง) เมื่อไปถึง ร.ร. เข้าไปสอบถามที่แผนกธุรการ บอกว่าช่วงนี้ไม่รับนักเรียนระหว่างชั้น จะรับเฉพาะนักเรียนที่จะขึ้น ป.1 เท่านั้น(ลูกดิฉันคนโต ป. 4 คนเล็ก ป.1) ดิฉันบอกไม่เป็นไร วันนี้มาแล้วขอเยี่ยมชมบริเวณ ร.ร. เจ้าหน้าที่บอกยินดีค่ะ
เมื่อเดินเข้าไปภายใน ร.ร. ซึ่งร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ เนื่องจากในวันหยุดผู้ปกครองสามารถมาเยี่ยมลูกหลานได้ จึงเห็นภาพที่พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ลูก หลาน นั่งกันตามใต้ร่มไม้ ใต้อาคาร พูดคุย หยอกล้อ รับประทานอาหาร บางกลุ่มคล้ายมาปิคนิคมีข้าวปลาอาหารตั้งวงเป็นกลุ่มใหญ่ (ที่ใหญ่เพราะเด็ก ๆ ที่เป็นเพื่อนลูกหลานมาร่วมวงด้วย) ดิฉันเดินไปใกล้วงใด ก็เห็นแต่รอยยิ้มของผู้ปกครอง บ้างก็เชื้อเชิญให้มานั่งด้วยกัน (ทั้งที่ยังไม่รู้จักกัน) เป็นมิตรไมตรีที่ดิฉันเองรู้สึกอิ่มเอมใจยิ่ง
ดิฉันเดินจูงมือลูกสาวไปเรื่อย ๆ และยิ้มทักทายให้กับครอบครัวหนึ่ง ไถ่ถามได้ความว่า เป็นคนกรุงเทพฯ ส่งลูกชาย(ซึ่งเป็นลูกคนเดียว) มาเข้าเรียนชั้น ป. 1 มาอยู่ที่นี่ได้ 2 เดือนเศษ แล้ว ก่อนจะพาลูกมาสอบได้เดินทางมาดู ร.ร.นี้ประมาณ 8-9 ครั้ง จนได้ข้อมูลพอแก่การตัดสินใจจึงพามาสอบ ท่ามกลางความไม่ค่อยเห็นด้วยของปู่ ย่า ซึ่งมีหลานคนเดียว (ครอบครัวคนจีน) คุณพ่อซึ่งเป็นคนเล่าหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส บอกว่า 2 เดือนมานี่ลูกชายผมเปลี่ยนไปเยอะ ซึ่งตัวผมเองก็ยังไม่คิดว่าจะเป็นได้ ที่ว่าเปลี่ยนก็คือ ลูกช่วยตัวเองได้ เรียนรู้ที่จะอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่ได้อย่างไม่เป็นปัญหา (ทั้งที่วันมาส่งเข้าวันแรก ลูกเกาะพ่อแน่น ต้องใช้วิธี "แกะ" ออกจากกัน) วันนี้มาเยี่ยมลูกพร้อมภรรยา คุณย่า ญาติ ซึ่งคุณย่าเองได้เข้ามาคุยเสริมว่า ทีแรกไม่เห็นด้วยแต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว ดีใจมากที่เห็นหลานอยู่ที่นี่อย่างมีความสุข และถามว่าดิฉันมีลูกมาอยู่ ร.ร.นี้กี่คน ดิฉันบอกยังไม่มี วันนี้มาดูร.ร. ก่อน ว่าแล้วคุณย่าก็แนะนำว่า ลองเดินดูไปเรื่อย ๆ นะ แล้วให้คุยกับผู้ปกครอง พร้อมชี้ไปที่ผู้หญิงคนหนึ่ง วัยกลางคน สวมแว่นตา ซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล คุณย่าบอกลองคุยกับคนนี้ชื่อ "คุณวรรณ" เป็นตัวแทนผู้ปกครอง มีลูกอยู่ที่นี่ 3 คน อาจให้คำแนะนำได้ ดิฉันเดินไปตามคำแนะนำอย่างว่าง่าย เมื่อเห็นคุณวรรณยืนคุยกับผู้ปกครองคนอื่นจึงยังไม่กล้าทักทาย แล้วเมื่อโอกาสเหมาะจึงเดินเข้าไปทักคุณวรรณ ซึ่งจะได้เล่าต่อไปว่าคุยกับคุณวรรณแล้วดิฉันได้เรียนรู้อะไร ขอเป็นบันทึกหน้านะคะจะกลับมาเล่าต่อ
ขอแลกเปลี่ยนด้วยครับ จากที่เคยได้รับทราบมา ผมว่าเป็นแนวคิดการจัดการศึกษาที่มีรูปแบบน่าสนใจมาก เพราะเด็กจะเรียนรู้อย่างมีความสุขและมีพื้นฐานทางด้านจิตใจที่พร้อมมากกว่าเด็กที่เรียนจากโรงเรียนทั่วไป (ผมอาจมีความรู้สึกค่อนไปทางด้านลบต่อระบบการจัดการศึกษาในโรงเรียน) อยากให้มีโรงเรียนแบบนี้มาก ๆ แต่คงเป็นไปได้ยาก เพราะต้องอาศัยปัจจัยหลายด้านมาสนับสนุน ตอนลูกผมยังเรียนระดับประถม ผมพยายามหาโรงเรียนแบบนี้ แต่หายากมาก......
อาจารย์ช่วยเล่าต่อด้วยนะครับ ว่าตอนต่อไปเป็นยังไง จะมารออ่าน.......ขอบคุณครับ
อยากให้ลูกชายเข้าเรียนบ้างตอนนี้เรียนอยู่ชั้น ป. 2 ไม่ทราบว่าถ้าจะเข้าเรียนระดับชั้น ป. 3 จะได้ไหมคะ