เมื่อวาน ๑๖ ก.ค. ๕๐ เย็นๆ ออกไปตัดผม นั่งรอคิวอยู่ พนักงานในร้านพูดกันว่าวันนี้คนเยอะ คนเปลี่ยนจากวันอาทิตย์มาตัดกันวันจันทร์แล้วนะเนี้ย ในขณะเดียวกันฝนได้โปรยปรายลงมา และหนักขึ้นเรื่อย มีลูกค้าคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามาพูดว่า ฝนตกกลับไม่ได้ตัดผมดีกว่า พอดีกับที่ข้าพเจ้าถึงคิวในการตัดผม จึงเดินไปนั่งประจำเก้าอี้ตัดจนกระทั่งเสร็จฝนก็ยังไม่หยุด นั่งรออยู่ในร้านให้ฝนหยุดดูทีวี อ่านหนังสือพิมพ์ และก็นึกถึงอุปมาในพระไตรปิฎกที่ว่าด้วยประเภทของฝน ๔ ประการคือ
๑) บางครั้งฝนตกมาอย่างไม่มีฟ้าร้องคะนองเลย ตกๆๆเอาตกเอาได้น้ำได้เนื้อเลย ตกครั้งเดียวคุ้มเช่นเมื่อวาน แถมลูกเอื่อยโปรยปรายไปถึงเที่ยงคืนทำให้นอนเย็นสบายไม่ต้องเพิ่มค่าไฟฟ้าจากการเปิดพัดลม รูปแบบแรกนี้ท่านว่าเสมือนบุคคลบางคนในโลกนี้ชอบทำมากกว่าพูดเรียกว่าชอบทำไม่ชอบพูด
๒) บางครั้งฟ้าร้องกึกก้องคะนองกัมปนาท แต่ฝนก็ไม่ตก เหมือนหลอกให้ชาวนาและข้าวกล้าที่รอฝนดีใจเก้อ และคนที่ตากผ้าไว้กลางแจ้งทั้งหลายรีบเก็บ รูปแบบนี้เป็นเหมือนคนที่ชอบพูดแต่ไม่ชอบทำ (น่ารำคาญ)ไม่ควรนำมาเป็นแบบอย่าง
๓) บางครั้งฟ้าร้องกึกก้องคะนองกัมปนาทด้วยฝนก็ตกด้วย ไม่หลอกให้ดีใจ แถมได้ความเสียวมาด้วย(ฟ้าผ่า) บุคคลประเภทนี้ชอบทั้งสองคือพูดด้วยทำด้วย เป็บุคคลที่น่ายกย่องนำมาเป็นตัวอย่างได้
๔) รูปแบบสุดท้ายนี้คือฟ้าไม่ร้องและฝนก็ไม่ตก เป็นเหมือนบุคคลที่ทั้งไม่พูดทั้งไม่ทำ งอมืองอเท้างานการณ์ไม่ทำ เอารัดเอาเปรียบ อยู่เป็นขยะของสังคม เป็นบุคคลน่าเบื่อหน่ายที่สุด
ในหน่วยงานของท่านมีบุคคลประเภทไหนบ้างและตัวท่านเองเป็นเช่นใด ?
ร้านตัดผมชายร้านเดิมที่เคยเดินจูงมือพาไปนั่งรอใช่มะ จำได้ดีเลย เห็นช่างชำนาญคล่องมากๆเห็นเขาตัดให้แต่ละคนเร็วดี
คนมีหลายหลาก มีวิธีแตกต่างกันไป เขาเป็นอย่างที่เขาเป็น หากเราเห็นว่าสิ่งนั้นไม่ดี เราก็จำไว้ว่าเราจะต้องไม่ทำอย่างนั้นบ้าง
เราเป็นคนหนึ่งที่อยู่บนโลก อยู่ในสังคม ย่อลงมาก็เป็นครอบครัว เราก็รับผิดชอบทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด