อรุณสวัสดิ์ เช้าวันเสาร์ค่ะ ตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงโทรศัพท์ปลุกจากใครบางคน (L) Thanx a lot. มิฉะนั้นดิฉันคงพลาดสัมผัสอากาศแสนสดชื่นยามเช้า หญ้าสีเขียวในทุ่งนากว้างหลังบ้านซึ่งร้างการทำนามาหลายปี เจ้าของนาบอกว่าคนเช่าทำนาขาประจำได้เปลี่ยนอาชีพไปเป็นยามในเมืองหลวงเสียแล้ว พอจะมีคนสนใจหลังจากนั้นบ้างแต่สำรวจพื้นที่ไปมาพบว่าลำเหมืองส่งน้ำเข้านาช่วงหนึ่งถูกตัดขาดออกไปด้วยถนนเชื่อมต่อหมู่บ้านกันถนนใหญ๋.....อึ้งค่ะอึ้ง พอมองเห็นมั้ยคะว่ารอยต่อความเจริญด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่กับวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมนั้นมีความผสมผสานกันหรือไม่/อย่างไร ดิฉันมิได้ตำหนิใครนะคะ เป็นเพียงมุมมองส่วนตัวเท่านั้นว่า เรามีพิพิธภัณฑ์เก็บสิ่งที่มีคุณค่าต่อชีวิตมนุษยชาติในอดีตเป็นตัวแทนบอกเล่าเรื่องราวแทนตัวบุคคลแห่งยุคที่ล่วงลับไปแล้ว ดิฉันเห็นว่าเราควรไตร่ตรองอย่างดีก่อนที่จะรับเอาความเจริญเข้ามาปิดบังความสวยงามแห่งวัฒนธรรมดั้งเดิม ควรจะได้รับการปรับ/ประยุกต์เข้ากันอย่างแนบเนียนที่สุด วันเวลาเปลี่ยน..จิตใจคนและเอกลักษณ์ของคนในชุมชนอย่าได้เปลี่ยนไปเลยนะคะ เสียดายค่ะ
ความเจริญและเทคโนโลยีนำความเปลี่ยนแปลงมาด้วยเสมอ แล้วแต่ว่าเราจะมองในมุมไหน
เสียดายนะคะ ถ้าสิ่งเหล่านี้ทำให้วัฒนธรรมการใช้วิถีชีวิตดั้งเดิมของผู้คนเปลี่ยนไป อ้อ!! ต้อมรวมไปถึงจิตใจด้วยค่ะ