เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดเป็นเซลล์ต้นกำเนิดชนิด adult stem cell ที่มีความสามารถในการแบ่งตัวและเพิ่มจำนวนและเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์เม็ดเลือดทุกชนิดในร่างกาย รวมทั้งเซลล์ชนิดอื่นๆได้บางชนิด ซึ่งน้อยกว่า embryonic stem cell ตามที่เคยได้แนะนำคุณสมบัติไปแล้ว
เซลล์เม็ดเลือดชนิดต่างๆทำหน้าที่หลักเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเป็น โดยจะป้องกันเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆจากการบุกรุกของสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรค เซลล์ต้นกำเนิดที่สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์เม็ดเลือดต่างๆในร่างกาย เรียกว่า "เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด" (Hematopoietic stem cells) สามารถสร้างเม็ดเลือดขึ้นมาใหม่เพื่อรักษาระดับปริมาณเม็ดเลือดให้คงที่ในร่างกาย (ปกติเม็ดเลือดแต่ละชนิดจะมีช่วงระยะเวลาทำงานในร่างกายช่วงเวลาหนึ่ง เมื่อหมดอายุจะถูกทำลายไป เช่น เม็ดเลือดแดงช่วงระยะเวลา 120 วันอยู่ในร่างกาย เมื่อเติบโตเต็มที่แล้วจะถูกทำลายที่ม้าม ตับและไขกระดูก) เซลล์ต้นกำเนิดมีความสามารถจำลองตัวเองขึ้นมาใหม่ (self-renewal), เพิ่มจำนวน (proliferation), เปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์จำเพาะเจาะจง (differentiation)
นอกจากจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์เม็ดเลือดได้แล้ว เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดยังสามารถจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ชนิดอื่นได้ เรียกว่ามี Plasticity เช่น เซลล์สมอง เซลล์กล้ามเนื้อ และ เซลล์ตับ ความสามารถเหล่านี้ยังอยู่ในการทดลอง ซึ่งเป็นความหวังในการรักษาโรคผิดปกติทางตับและสมอง เช่น โรคตับอักเสบ โรคสมองฝ่อ ที่เมื่อนำเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดไปปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วยและกระตุ้นให้เซลล์เม็ดเลือดนั้น โดยหวังว่าเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ที่ต้องการและประกอบกันเป็นเนื้อเยื่อไปซ่อมแซมอวัยวะที่มีความผิดปกตินั้น จากนั้นชดเชยหน้าที่ที่ผิดปกติไปให้สมบูรณ์ขึ้นมา
แหล่งที่พบเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดที่สำคัญของคนเราหลังจากคลอดออกมาแล้ว จะพบที่ ไขกระดูก เป็นหลัก โดยไขกระดูกจะเป็นแหล่งใหญ่สำหรับสร้างเม็ดเลือด
เทคนิคที่ใช้ในปัจจุบันเพื่อรักษาโรคคือปลูกถ่ายไขกระดูก (Bone marrow transplantation) เพื่อให้เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดเข้าไปสร้างเม็ดเลือดขึ้นมาทดแทน จะพบว่า transplantation ใช้รักษาโรคต่างๆได้เช่น
1. มะเร็งเม็ดเลือดขาว (Leukemia) ชนิดต่างๆ และ มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma)
2. ความผิดปกติของการสร้างเม็ดเลือดที่มีมาแต่กำเนิด ที่ไม่สามารถสร้างเม็ดเลือดได้หรือสร้างได้แต่มีความผิดปกติทำให้เม็ดเลือดไม่สามารถทำหน้าที่ได้ปกติ เช่น aplastic anemia, beta-thalassemia, sickle cell anemia
3. การปลูกถ่ายไขกระดูกในผู้ป่วยที่ทำการรักษาโดยวิธีเคมีบำบัดจากการรักษาโรคมะเร็ง ซึ่งเมื่อได้รับเคมีบำบัดในระยะแรก เซลล์ต่างๆจะถูกทำลาย รวมทั้งเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดทำให้ไม่สามารถสร้างเม็ดเลือดออกมาได้ปกติ ทำให้ร่างกายติดเชื้อโรคต่างๆได้ง่าย และอาจทำให้ตายได้ในที่สุด ฉะนั้นการปลูกถ่ายไขกระดูกจะทำให้ผู้ป่วยลดภาวะเสี่ยงจากการติดเชื้อได้4. การรักษาเนื้องอกชนิดต่างๆที่ยังไม่สามารถรักษาได้ โดยใช้การปลูกถ่ายไขกระดูกเข้าไปแล้วให้เซลล์ของผู้ให้ไปทำลายเนื้องอกของผู้รับ โดยเฉพาะพวก solid tumors
การปลูกถ่ายไขกระดูกต้องมีการทดสอบ HLA typing เพื่อดูความเข้ากันได้ของเนื้อเยื่อเพื่อไม่ให้เกิดการต่อต้านหรือสลัดเนื้อเยื่อ (graft-versus-host disease: GVHD) ถ้าหากหาผู้ให้ที่ HLA ตรงกันไม่ได้ก็ต้องหาที่เข้ากันได้มากที่สุด เพื่อลดอัตราการเกิด GVHD
ในปัจจุบันมีการเก็บเลือดจากรก ทำเป็น cord blood bank เพื่อเป็นแหล่งของ hematopoietic stem cells ไว้ใช้เมื่อผู้บริจาคเกิดมะเร็งขึ้นมาภายหลัง ประโยชน์ของ cord blood bank ดีกว่า เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดที่ได้จากไขกระดูก เพราะความที่เป็นตัวอ่อนของเซลล์เม็ดเลือด พัฒนาการยังอ่อนกว่าเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดที่เก็บได้จากผู้ใหญ่ คุณสมบัติการเพิ่มจำนวน (self-renewal and proliferation) รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลง (differentiation) ไปเป็นเซลล์เต็มวัยของเม็ดเลือดต่างๆดีกว่า นอกจากนี้แอนติเจน (HLA) ที่แสดงออกบนผิวเซลล์ยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้อัตราการต่อต้านเม็ดเลือดของผู้รับต่ำกว่า โอกาสที่จะปลูกถ่ายไปยังผู้รับอื่นๆที่มี HLA ไม่ตรงกัน (unmatching) จึงสูงกว่า ทำให้การปลูกถ่ายเม็ดเลือดประสบความสำเร็จสูงกว่าการใช้เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดจากไขกระดูกในผู้ใหญ่
ดังนั้น cord blood bank จึงเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการพัฒนาศักยภาพของการปลูกถ่ายไขกระดูกเพื่อรักษาโรคต่างๆที่กล่าวไป และโรคอื่นๆที่ผิดปกติทางการสร้างเม็ดเลือด หรือเม็ดเลือดมีหน้าที่ที่ผิดปกติไม่สามารถทำหน้าที่ในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ แต่ ณ ปัจจุบันนี้ ค่าการเก็บรักษา cord blood bank ยังมีราคาสูง ซึ่งต้องการงานวิจัยเพื่อการพัฒนาการเก็บรักษาเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดให้มีต้นทุนต่ำและการเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาโรคต่อไปในอนาคต
นักเรียนโข่ง มาเรียนรู้ด้วยคนครับ
สวัสดีคุณกมลนารีค่ะ
ขอบคุณคะพี่บางทรายและคุณตู่
จะหาเวลามาอัพบล๊อกบ่อยๆคะ