สะสมจุลินทรีย์


      การทำเกษตรเคมีต้องพึ่งพาสารเคมี การทำเกษตรอินทรีย์ต้องพึ่งพาจุลินทรีย์  จุลินทรีย์ถ้ายังทำเองไม่ได้ก็ต้องซื้อ ถ้าไม่ยอมทำเองก็ต้องซื้อเขาตลอดไปนั่นหมายความว่าไม่ได้พึ่งตนเอง การได้มาซึ่งจุลินทรีย์ผมก็ไม่ทราบว่ามีกี่วิธี แต่เท่าที่ผมพอรู้มีอยู่ 2 วิธี  ใครรู้มากกว่านี้ก็ช่วยแลกเปลี่ยนกันนะครับ

  1. จุลินทรีย์ธรรมชาติที่อยู่บนดินในป่าที่สมบูรณ์ ดินที่มีกลิ่นหอมเหมือนเห็ดจะมีจุลินทรีย์อยู่  ส่วนขั้นตอนการทำ และขยายจุลินทรีย์พวกนี้ ผมยังไม่สันทัด
  2. จุลินทรีย์ที่ได้จากการหมักเศษอาหารที่เรากินเหลือ

     ผมจะพูดถึงประเด็นหลังนะครับ การหมักให้ได้จุลินทรีย์จากเศษอาหาร ที่ผมไปอบรมมาจากศูนย์กสิกรรมธรรมชาติทุ่งสง มีสูตรอยู่เช่นเดียวกับการทำปุ๋ย คือ 3:1:1:10

  • เศษอาหาร     3 ส่วน  --> 3 ก.ก.
  • กากน้ำตาล    1 ส่วน --> 1 ก.ก.
  • จุลินทรีย์(ที่เราซื้อมา)   1 ส่วน --> 1 ลิตร (1 ก.ก.)
  • น้ำ              10 ส่วน --> 10 ลิตร(10 ก.ก.)

วิธีทำ

  1. เอาเศษวิธีทำษอาหารใส่ลงถังหมัก ใส่กากน้ำตาลครึ่งหนึ่งของทั้งหมดคลุกเคล้ากับเศษอาหาร
  2. เอากากน้ำตาลที่เหลือ ผสมกับน้ำละลายให้เข้ากัน
  3. ใส่จุลินทรีย์ลงในกากน้ำที่ผสมกากน้ำตาลแล้ว ทิ้งไว้ซักครู่
  4. ปิดฝาให้สนิทหมักทิ้งไว้ 60 วัน นำมาใช้งานได้ ถ้าไม่มีจุลินทรีย์เป็นส่วนผสม ให้หมักไว้ 120 วัน
  5. คอยคลายฝา(ห้ามเปิด) ให้แก๊ซระบายออก

     แค่นี้ก็มีจุลินทรีย์มาใช้งานแล้ว แล้วทำไมผมจึงตั้งหัวข้อว่า "สะสมจุลินทรีย์" ผมอยู่บ้านนอกจะไปหาเศษอาหารตั้งสามกิโลกรัมนี่ ไม่ใช่เรื่องง่าย พยายามหาแล้วแต่ไม่สำเร็จผล จะให้ไปขอเศษอาหารตามร้านอาหารในเมืองก็ไม่คุ้นเคย สูตร  3:1:1:10  ก็ปรับใช้เป็น 

  • เศษอาหาร    3 ขีด
  • กากน้ำตาล   1 ขีด (100 ซีซี)
  • จุลินทรีย์      1 ขีด (100 ซีซี)
  • น้ำ            10 ขีด (1 ลิตร)

  ผมก็แกล้งกินข้าวให้เหลือ(ปกติทานข้าวไม่เหลือในจานแม้แต่เม็ดเดียว) หรือเก็บเศษอาหารที่เหลือจากการล้างจานผมก็ได้เศษอาหารมาใช้งานแล้ว ขาดเหลือ หรือเกินก็ไม่ใช่ปัญหา ภาชนะที่จะเอามาใช้หมัก ก็ขวดโค้ก ขวดเป๊บซี่ ขวดลิตรนี่แหละ ผมไม่ดื่มน้ำอัดลมนะครับ ขวดก็ไปขอเขามา ข้อดีของการทำแบบนี้เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของการหมักเพราะขวดใส ถึงเวลาผมก็มีจุลินทรีย์ใช้ ปกติลิตรละประมาณ 80 บาทแค่นี้ก็ทุ่นไปเยอะแล้วครับ

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 109775เขียนเมื่อ 9 กรกฎาคม 2007 08:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 เมษายน 2012 15:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
ผมก็แกล้งกินข้าวให้เหลือ(ปกติทานข้าวไม่เหลือในจานแม้แต่เม็ดเดียว)    โอ ว้าว ลงทุนมากเลยนะคะเนี่ย  ...  ถึงกับต้องแกล้งกินข้าวให้เหลือ  ..   เคยประสานงา การฝึกอบรมทำปุ๋ย -  ไม่แน่ใจว่าแบบเดียวกันหรือเปล่า  แต่ส่วนผสมคล้ายกันมากเลยค่ะ  
  • เศษอาหาร     3 ส่วน  --> 3 ก.ก.  *
*  เป็นผัก หรือ เน่าๆ เสียๆ  แทนค่ะ  
  • กากน้ำตาล    1 ส่วน --> 1 ก.ก.
  • จุลินทรีย์(ที่เราซื้อมา)   1 ส่วน --> 1 ลิตร (1 ก.ก.)  *
* ก็เป็น พ.ด. 2 ของ กรมพัฒนาที่ดิน แทนค่ะ  
  • น้ำ              10 ส่วน --> 10 ลิตร(10 ก.ก.)
 จะต่างก็ตรง เปลี่ยนจาก จุลินทรีย์ เป็น พ.ด. 2 ของทางกรมที่ดิน ที่เค้าเอามาสาธิตค่ะ  หมักไว้ในถัง ประมาณ 3 อาทิตย์  ...  แล้วชาวบ้านก็มาเอาไปบำรุง พืชผักสวนครัวต่างๆ  -          ไม่แน่ใจว่า ใช่แบบเดียวกันหรือเปล่า ...    แต่สงสัยกระบวนการยุ่งยาก หรืออย่างไรไม่ทราบได้ค่ะ หลังจากนั้น ชาวบ้าน (อาจเพราะเป็นชาวประมง เกี่ยวกันไหม) เค้าก็ไม่ได้ทำต่อ ...  ประเด็นหนัก ก็คือ ทำอย่างไร ให้เห็นความสำคัญและประโยชน์ ของมันอย่างจริงจังค่ะ   

สวัสดีครับคุณ  poo

  • ขอบคุณครับที่แลกเปลี่ยนกัน
  • ตัว พด.2 ที่อยู่ในซอง คือ จุลินทรีย์ครับ
  • ส่วนผลจากการใช้ พด.2 เป็นปุ๋ยน้ำครับ
ลองดูลิงค์นี้นะครับ http://gotoknow.org/blog/agri-nature/105741
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท