รายแรกช่วงปีใหม่ของEMSโรงพยาบาลบ้านตาก

         วันนี้วันที่ 29 ธันวาคม เป็นวันประกาศฉลองเทศกลาปีใหม่อย่างปลอดภัย ที่ทางหบวงด้านหน้ารั้วโรงพยาบาลมีการจัดเต๊นท์บริการประชาชนของทีมงานหน่วยราชการอำเภอบ้านตากซึ่งจัดขึ้นทุกปีในช่วงปีใหม่และสงกรานต์

         ช่วง 10 โมงเช้าผมเข้าไปประชุมที่สสจ.เพื่อเปิดซองประกวดราคาตามแนวทาง E-Auction ของโครงการเมกะโปรเจคส์ เสร็จประมาณเกือบเที่ยงครึ่ง ก็เดินทางกลับโรงพยาบาลเพื่อมาสอนนิสิตแพทย์ต่อ ขณะมาถึงบ้านน้ำดิบ ซึ่งอยู่เกือบกึ่งกลางอำเภอบ้านตากและอำเภอเมืองตาก ก็พบกับอุบัติเหตุรถเก๋งชนกับรถมอเตอร์ไซด์ มีคนเจ็บสองคน พวกเราที่ไปด้วยกัน 5 คน (เพราะมีการประชุมและติดต่องานหลายอย่าง) มีพยาบาล 3 คน ไปโดยรถตู้นั่งของโรงพยาบาล เรารีบจอดรถเพื่อเข้าไปทำการช่วยเหลือ

           พบคนเจ็บเป็นยายอายุราว 70 กว่าๆ มีมือขวาได้รับบาดเจ็บเนื้อหลุดหายไปเหลือแต่กระดูกนิ้วที่มีเลือดไหลโชก และขาขาขวาใต้เข่ามีกระดูกหักพับ มีแผลเปิด เลือดไหลพอสมควร อีกคนหนึ่งเป็นชายอายุราว40-45 ปี มีบาดแผลเปิดลเกน้อยที่หน้าแข้งมีเลือดไหลออกมาและมีกระดูกขาหัก

           ผมได้สั่งการให้คนขับรถเรียกรถหน่วยEMSจากโรงพยาบาล ผมกับพยาบาลได้เข้าไปช่วยเหลือเบื้องต้น ปรากฎว่าในรถตุ้นั่งไม่มีถุงมือ ต้องใช้ถุงพลาสติกใส่มือแทน เข้าไปช่วยดูอาการเบื้องต้น จัดท่าของผู้ป่วยเพื่อลดการบาดเจ็บเพิ่มเติมแก่เนื้อเยื่อ เสน้เลือดและเส้นประสาท จับชีพจร ตรวจอาการทางระบบประสาท มีชาวบ้านที่อยู่ใกล้เหตุการณ์เป็นชายหนุ่ม 3-4 คน มาช่วยประคองยาย หาผ้ามาบังร่มให้ ช่วยพูดให้กำลังใจยาย เมื่อคนไทยมีเคราะห์ คนไทยด้วยกันก็จะช่วยกันดี น้ำใจไมตรีของคนไทยยังคงมีอยู่เสมอ

           ประมาณ 15 นาที รถพยาบาลและหน่วยกู้ภัยก็มาถึง พร้อมกับได้ทำการดามขาของผู้ป่วย พันผ้าที่บาดแผลเพื่อช่วยห้ามเลือดและให้น้ำเกลือเพราะผู้ป่วยเสียเลือด พร้อมทั้งขนย้ายผู้ป่วยอย่างถูกวิธีขึ้นรถพยาบาล 1 คน อีก 1คนที่เป็นผู้ชายให้ขึ้นรถของหน่วยกู้ภัย แล้วส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลจังหวัด เพราะระยะทางอยู่กึ่งกลาง หากไปโรงพยาบาลบ้านตาก ก็จะเสียนเวลาย้อนกลับไปที่ตัวจังหวัดอีก เนื่องจากประเมินแล้วผู้ป่วย ผู้ป่วน่าจะมีกระดูกขาหักแบบเปิดทั้งสองคนและจะต้องได้รับการผ่าตัดโดยแพทย์ศัลยกรรมกระดูก จึงส่งตัวไปเลยไม่ต้องย้อนไปมา

             การเคลื่อย้ายผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ถูกวิธีอาจเพิ่มอันตรายต่อผู้ป่วยมากกว่า ช้าลงหน่อยแต่ถูกต้อง เพราะการเคลื่อนย้ายบางท่าทาง อาจทำให้ผู้ที่มีกระดุกคอหัก เกิดอัมพาตได้หรือคนที่แขนขาหักอาจมีกระดูกไปตัดขาดเส้นเลือดหรือเส้นประสาททำให้เกิดการรัษาได้ยากก็ได้

           วันนี้เพิ่งเริ่มต้นเทศกาล เราก็เจอไปแล้ว 2 ราย ดูท่าทางแล้วอาจจะเป็นการขับมอเตอร์ไซด์ตัดหน้ารถเก๋ง ซึ่งคนขับและคนนั่งเป็นผู้หญิงสาวๆทั้ง 3 คน จอดรถอยู่ใกล้ๆที่เกิดเหตุ ดูท่าทางตกใจมากทุกคนและก็ไม่ได้หนีไปไหน เหตุการร์อย่างนี้ก่อทุกข์ให้ทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายคนชนและฝ่ายคนถูกชน เราจึงต้องช่วยกัน คนขับรถยนต์ก็ควรระวังแลชะลอเวลาอยู่ใกล้ทางแยกหรือเขตชุมชนและในขณะเดียวกันก็พบบ่อยๆว่าคนขับมอเตอร์ไซด์ชอบขับย้อนศร หรือขับปาดหน้ารถยนต์กระชั้นชิดเป็นต้น

           ผมกลับมาถึงโรงพยาบาล มาล้างมือที่ห้องฉุกเฉิน ก็เจออีก 1 ราย อุบัติเหตุมอเตอร์ไซด์นั่งอยู่ในรถเข็น แต่ดูแล้วอาการไม่หนักมาก เหลืออีก 7 วัน เราจะช่วยกันลดอุบัติเหตุได้ไหมหนอ

           อีกประการหนึ่ง ผมก็ได้บอกคนขับรถไว้ว่า รถโรงพยาบาลทุกคัน แม้แต่รถเก็บขยะก็ต้อมีถุงมือเตรียมไว้ตลอด ทั้งที่เคยย้ำอยู่บ่อยๆ ก็ยังเกิดอีกจนได้ เพราะเขาอาจคิดว่าเป็นรถตู้นั่งไปได้ใช้สำหรับส่งต่อผู้ป่วย แต่ก็ดีที่เป็นบทเรียนเตือนใจว่า รถอะไรของโรงพยาบาลก็ตาม เมื่อเจอผู้บาดเจ็บเราจะต้องเข้าไปช่วยเหลือ จึงต้องเตรียมไว้ให้พร้อม