อนิจจัง


วัฏสงสาร

เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา มีงานแต่งลูกชายคนข้างบ้านซึ่งเป็นมุสลิม คืนวันศุกร์เรียกว่าคืนวันสุกดิบ จะตระเตรียมเครื่องแกง มีแกงมัสหมั่น แกงกุรฺหม่า แกงเปรี้ยว ขนมของหวานสมัยนี้สะดวกมากขึ้น สั่งทำวันเดียวก็นำมาส่งบ้านงานได้เลย สมัยก่อนต้องซื้อไข่ แป้ง น้ำตาลมาทำกันที่บ้านงานเช่นขนมทองหยอด ฝอยทอง พุทราจีนเชื่อม กว่าจะแยกไข่ขาวไข่แดง ยุ่งยากพอสมควร ส่วนแกงมัสหมั่นหลายๆคนคงรู้จักกันดีว่าส่วนใหญ่จะใช้เนื้อวัว แกงกุรฺหม่า  แกงเปรี้ยว จะหาชิมค่อนข้างลำบาก เพราะเขาจะทำในงานบุญ แกงกุรฺหม่าจะใช้เนื้อแพะหรือแกะเป็นส่วนใหญ่ เชฟบางคนปรุงไม่เก่งก็จะไม่อร่อย หรือบางทีทำน้ำจิ้มไม่อร่อย ส่วนแกงเปรี้ยวจะใช้เครื่องในมาทำ ใส่ใบปุโลปุเร ถ้าเด็ดมาดมจะมีกลิ่นฉุนเหม็นเขียว ถ้าลงหม้อแกงแล้วจะหอม


 คืนวันสุกดิบนี้บรรยากาศแปลกไปกว่าสมัยก่อนมาก แขก(ผู้ที่มาช่วยงาน)ที่มาก็น้อย มีมาไม่กี่คน สมัยก่อนนี้ เพื่อนบ้านที่มาช่วยจะมากันทั้งบ้าน พ่อ-แม่และลูกๆ ปอกมะพร้าว100-200ลูกเป็นหน้าที่พวกพ่อบ้านช่วยกัน แม่บ้านทั้งหลายก็จะเข้าครัว(ชั่วคราว)ทำอาหารไว้เลี้ยงรับแขกตอนดึก ส่วนใหญ่ก็จะทำแกงกะทิสด แกงนี้ก็คือแกงเผ็ด แต่ผัดเครื่องแกงไม่นานพอ แล้วใส่มะเขือเทศตามด้วยมะเขือยาวสุดท้ายใส่กะทิลงไปก็เป็นอันเสร็จ เมื่อแกงเสร็จ ก็จะทอดปลาเค็ม ปลาสลิด ปลาช่อน พวกพ่อบ้านก็ปอกมะพร้าวกันไปเฮฮากันไปโดยไม่ต้องมีเหล้าเบียร์ แม่บ้านทำครัว ลูกๆก็จะช่วยกันปอกหอม กระเทียม แกะพริกแห้งเอาเมล็ดออก หอมกระเทียมหั่นเรียบร้อย พริกล้างน้ำแล้วเอาขึ้นผึ่งไว้เสร็จ ก็ได้เวลาอาหารค่ำพิเศษ กินรวมกันเป็นวง วงละ4คน กินกันไปคุยกันไป อิ่มกันแล้วก็ช่วยกันเก็บสำรับ ล้างถ้วยชาม คนหนุ่มๆก็จะไปทำหน้าที่ขูดมะพร้าว สาวๆก็จะไปช่วยรองยกแยกกะละมังมะพร้าวขูดออก ขูดมะพร้าวไปเกี้ยวพาราสีกันไป ขูดมะพร้าวสมัยนี้ก็สะดวกมากใช้เครื่องขูดมอเตอร์ไฟฟ้า จึงต้องใช้พวกหนุ่มๆเพราะต้องใช้ข้อมือที่แข็งแรง ถ้าเมื่อก่อนนี้ก็จะมีพวกแม่บ้าน อาจจะมีสาวบ้างขูดมะพร้าวด้วยกระต่ายไม้ กว่าาจะขูดกันเสร็จก็ปาเข้าไปดึกดื่นค่อนคืน แต่พอใช้เครื่องอีกกลุ่มไฟฟ้าไม่ทันเที่ยงคืนก็เสร็จ อีกกลุ่มจะตำเครื่องแกง ซึ่งก็ไมพ้นเครื่องไฟฟ้าอีก ไม่ต้องตำด้วยครกหินเหมือนสมัยก่อนแล้ว ไม่ถึงรุ่งแจ้งแกงทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย


 ค่ำๆวันเสาร์ไปกินบุญเป็นทางการไปพร้อมด้วยซองตามธรรมเนียม ไม่ได้รอวันอาทิตย์ที่เจ้าสาวจะมีขบวนแห่มา เพราะถ้าไปงานวันอาทิตย์จะลำบากสำหรับคนแก่ เพราะที่ลานบ้านงานจะคับแคบ แขกทั้งสองฝ่ายจะมากันมาก


 เสร็จสิ้นงานมงคลเที่ยงวันจันทร์ก็มีข่าวมาบอกว่า เมียเพื่อนอีกหมู่บ้านจากไปเสียแล้ว ด้วยอาการเบาหวาน ทำลายไตมาเรื้อรัง เขาตายบ่ายๆวันอาทิตย์ บ่ายวันจันทร์ก็ฝังเสร็จเรียบร้อย


 เกิด แก่ เจ็บ ตาย วัฏสงสาร เวียนว่ายอยู่เช่นนี้  ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ สิ่งที่ยังคงอยู่และทิ้งไว้ข้างหลังก็คือ คุณงามความดี คุณธรรมความดีทำได้ไม่ยาก แต่ก็ต้องฝึกตนให้รำลึกถึงคุณธรรมความดีต่างๆอย่างสม่ำเสมอ เรียนรู้ให้ชัดแจ้งว่า ชีวิตคนเราเกิดมาก็จะวนเวียนอยู่ในอนิจจัง วัฏสังขารา หาความสุขความศานติ อย่าเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย เอื้ออารีต่อกัน โลกนี้จะร่มเย็นอีกมากมาย

คำสำคัญ (Tags): #ความสุขศานติ
หมายเลขบันทึก: 109204เขียนเมื่อ 6 กรกฎาคม 2007 22:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:20 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะ

เกิด แก่ เจ็บ ตาย วัฏสงสาร เวียนว่ายอยู่เช่นนี้ ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ สิ่งที่ยังคงอยู่และทิ้งไว้ข้างหลังก็คือ คุณงามความดี คุณธรรมความดีทำได้ไม่ยาก แต่ก็ต้องฝึกตนให้รำลึกถึงคุณธรรมความดีต่างๆอย่างสม่ำเสมอ เรียนรู้ให้ชัดแจ้งว่า ชีวิตคนเราเกิดมาก็จะวนเวียนอยู่ในอนิจจัง วัฏสังขารา หาความสุขความศานติ อย่าเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย เอื้ออารีต่อกัน โลกนี้จะร่มเย็นอีกมากมาย

 

สาธุค่ะ ขอบคุณ และเป็นคติเตือนใจมากเลยนะคะ

สวัสดีค่ะคุณลุง...แวะเข้ามาอ่านเรื่องดีๆและเป็นกำลังใจให้คุณลุงนะคะ

เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์...

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท