PTOT Meeting ครั้งที่สี่


โอกาสและระบบของการสื่อสาร "บทบาทและการบริการ" ระหว่าง PT และ OT จำเป็นอย่างยิ่ง ณ คลินิกคณะกายภาพบำบัดและวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหวประยุกต์ ม. มหิดล

การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่าง PT & OT ครั้งที่ 4 ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมประชุมถึง 18 ท่าน

โจทย์ในครั้งนี้ถามถึง "เราจะมีวิธีการ Refer ผู้รับบริการระหว่างผู้เชี่ยวชาญ PT & OT ให้มีประสิทธิผลได้อย่างไร"

ก่อนจะตอบโจทย์ มีการต่อยอดถึงปัญหาของการ Refer ดังนี้

1. PT & OT ต่างไม่เข้าใจบทบาทและรูปแบบการรักษาที่ชัดเจน ทำให้ไม่แน่ใจและไม่กล้าตัดสินใจ Refer

เช่น pt. hand function ควรฝึก OT เมื่อใด pt. tactile defensiveness ควรฝึก PT & OT อย่างไร หรือ pt. CP with athetoid จะฝึก ADL ของ PT ต่างจาก OT อย่างไร

2. PT & OT ไม่มีคิวหรือเวลาว่างให้ผู้รับบริการ ทำให้ขาดการรักษาที่เป็นระบบทีมและไม่มีการ Refer สมบูรณ์

3. PT และเจ้าหน้าที่เวชระเบียนอยู่จุดแรกที่พบปะผู้รับบริการ แต่ไม่มีระบบและ Incharge Manager มาจัดการ Refer และสร้างบรรยากาศของการนัดหมายคิวผู้รับบริการให้เกิดความต่อเนื่อง

เช่น pt. Movement disorders ได้รับการประเมินและรักษาด้าน Motor จาก PT แต่ไม่มีการ Refer ให้ OT ทำการประเมินและรักษาด้าน Sensory-Perception ทำให้ผู้รับบริการต้องเสียค่าใช้จ่ายเดินทางไปกลับคลินิกไม่คุ้มกับการได้รับบริการเพียงส่วนเดียว

จากนั้นมีประเด็นตอบโจทย์ที่น่าสนใจคือ

1. ควรจัดโปรแกรมร่วมกันระหว่าง PT & OT แบบ Intensive/Day program และ One-stop service

2. ควรสร้าง Referral report และมีการบันทึกที่เป็นระบบ เช่น SOAP Note เน้นกระบวนการเรียนรู้บทบาทและรูปแบบการรักษาผ่าน report นี้ เช่น PT สงสัยว่าผู้รับบริการท่านนี้จะฝึก OT ได้อย่างไรเพื่อให้ achieve goal เดียวกัน คือ Learning to Live with Well-being and Independendent Skills of Livings

3. ควรสร้างโอกาสในการพูดคุยเชิงรุก เช่น PT & OT เข้าไปพูดคุยและประเมินผู้รับบริการร่วมกันบ้าง OT เดินลงมาพบปะ PT และผู้รับบริการในชั้นหนึ่งบ้าง PT & OT พูดคุยและทาน Break ร่วมกันบ้าง PT & OT Tour คลินิกบ้าง

4.  ควรมีการอบรมให้เจ้าหน้ามี่เวชระเบียนเข้าใจรูปแบบการรักษาของ PT & OT เพื่อช่วย Refer ต่อผู้จัดการคลินิก (Incharge Manager) ซึ่งเป็นผู้ประสานงานระหว่างผู้รับบริการและ PT & OT มีการจัดระบบนัดหมายและคิวส่งผู้รับบริการต่อ PT & OT อย่างต่อเนื่อง ไม่จัดงานที่ load เกินไป แต่บริหารจัดการให้ผู้รับบริการได้รับรูปแบบการรักษาที่จะเป็น เหมาะสมและมีคุณค่ามากที่สุดต่อ 1 Visit

คราวหน้าเราจะมี PTOT Meeting ครั้งที่ 5 ในวันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม 2550 เวลา 7.30-8.30 น. ณ ห้อง 114

ขอขอบคุณในความสำเร็จของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในครั้งนี้

 

 

หมายเลขบันทึก: 107582เขียนเมื่อ 30 มิถุนายน 2007 14:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เชื่อว่าการทำงานประสาน และมีการ meeting แบบนี้ตลอดจะทำให้เราได้ทราบถึงการทำงานจริง เพราะเราขาดเรื่อง communication กันในตอนแรก และก็คิดเอาเองว่า ถ้าเป็นแบบนี้ก็ส่ง PT และถ้าเป็นแบบนี้ ควรส่ง OT ซึ่งในบางครั้งเรายังเข้าใจผิดถึงรูปแบบการทำงานแบบ multidisaplinary team ดังนั้น ถ้าการทำงานจากจุดเล็กแบบนี้ ประสานคุยกันมีเวทีให้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ การ refer คนไข้ระหว่าง PT และ OT ก็จะมีมากขึ้นตามลำดับ การเข้าใจเขาเข้าใจเรา และทราบถึงขอบเขตการให้การรักษา ในแต่ละวิชาชีพก็จะมีมาก และบังเกิดประโยชน์สูงสุด แก่ผู้ป่วย เราต้องเข้าใจข้อจำกัดเราด้วย เราไม่สามารถจัดการคนไข้ที่ complecate ได้เพียงคนเดียว การ communicate คือสิ่งจำเป็น และ เวที ที่ดีที่สุดคือการมี meeting กันและแลกเปลี่ยน update การทำงานของกันและกัน ร่วมทั้งมีความรู้สึกอยากจะแบ่งบันประสบการณ์กัน ณ จุดนี้เองจะกลายเป็นพลังแห่งการทำงานเป็นทีมที่แท้จริง

อ.เอก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท