ีการพัฒนาเด็กเยาวชนให้เป็นผู้ที่รู้จักการควบคุมตนเอง
**โครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อการพัฒนาองค์ความรู้ฯ
กรณีปัญหายาเสพติด
ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
|
ปัญหาในกลุ่มเด็กเยาวชนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการที่เด็กเยาวชนขาดความยั้งคิด
ไม่รู้จักการควบคุมตนเอง
จึงทำให้เด็กเยาวชนตัดสินใจหาทางออกด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสม
เกิดปัญหาตามมามากมาย
หากมีการพัฒนาเด็กเยาวชนให้เป็นผู้ที่รู้จักการควบคุมตนเองได้
ก็อาจกล่าวได้ว่า
เป็นวิธีการลดการเกิดปัญหาในกลุ่มเด็กเยาวชนได้ด้วย |
ความหมาย
การควบคุมตนเอง หมายถึง
กระบวนการที่บุคคลใช้วิธีการหนึ่งวิธีการใด หรือหลายวิธี
เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของบุคคลจากพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
ไปสู่พฤติกรรมที่พึงประสงค์
โดยที่บุคคลนั้นเป็นผู้กำหนดพฤติกรรมเป้าหมายกระบวนการที่จะนำไปสู่เป้าหมาย
และควบคุมตัวแปรทั้งภายในและภายนอกของบุคคล
อันจะมีผลต่อพฤติกรรมที่พึงประสงค์นั้นด้วย
ตนเอง (Cormier and Cormier, 1979, p.476 อ้างใน ปภาวดี แจ้งศิริ,
2527, หน้า 4)อาจกล่าวได้ว่า
การควบคุมตนเองเป็นกระบวนการควบคุมและปรับเปลี่ยน
พฤติกรรมของตนเอง ให้เป็นพฤติกรรมที่พึงประสงค์
ตามที่กำหนดเป้าหมายไว้
|
กระบวนการควบคุมตนเอง
กระบวนการที่ใช้ในการควบคุมตนเองนั้น ธอเรเซนและมาโฮนี
(Thoresen and Mahoneg อ้างใน นิตยาภรณ์ ค้างเรือง, 2540, หน้า 24)
ได้กล่าวว่ามีกระบวนการที่สำคัญในการควบคุมตนเองอยู่ 2 ประการ
ได้แก่
|
1. การควบคุมสิ่งเร้า
(Stimulus Control) หมายถึง
กระบวนการที่บุคคลเรียนรู้ที่จะแสดงพฤติกรรมได้อย่างสอดคล้องกับสภาพการณ์หรือสิ่งเร้าของตน
โดยประเมินเงื่อนไขและสภาพการณ์ที่ควบคุมพฤติกรรมอยู่
ด้วยวิธีการแยกแยะสิ่งเร้า
จากนั้นจึงเปลี่ยนแปลงหรือจัดระบบสภาพการณ์สิ่งเร้าใหม่
เพื่อเอื้ออำนวยให้เกิดพฤติกรรมที่ต้องการ
2. การควบคุมผลกรรมด้วยตนเอง (Self-Presented)
หมายถึง การให้ผลกรรม
ตนเองหลังจากที่ได้กระทำพฤติกรรมเป้าหมายแล้ว
ซึ่งผลกรรมนี้อาจเป็นได้ทั้งการเสริมแรงหรือการลงโทษ
ซึ่งในการควบคุมพฤติกรรมควรใช้การเสริมแรงมากกว่าการลงโทษ
|
สำหรับทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมตนเองนั้น
มีหลายทฤษฎีด้วยกัน เช่น
การควบคุมตนเองตามทฤษฎีจิตวิทยาวิเคราะห์ของซิกมันด์ ฟรอยด์ (Sigmund
Freud อ้างใน ศรีเรือน แก้วกังวาน, 2539.)
ซึ่งเชื่อว่าบุคคลทั่วไปจะมีแรงขับอยู่ภายในตนเอง
มีลักษณะเป็นจิตไร้สำนึก
พร้อมจะแสดงออกตามความต้องการเสมอหากขาดการควบคุมยับยั้ง ดังนั้น
มนุษย์จึงจำเป็นต้องได้รับการอบรมบ่มนิสัย
เพื่อให้สามารถควบคุมตนเองได้ในระดับทั่วไป
และสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข
สำหรับการควบคุมตนเองตามทฤษฎีของ วอลเตอร์
ซี เร็คเลสซ์ (Walter C. Reckless) เชื่อว่า
คนเรามีพลังที่ผลักดันจากภายในให้มีพฤติกรรมเบี่ยงเบน
ซึ่งอาจจะเกิดจากปัจจัยต่างๆ ภายนอก เช่น
ความยากจนหรืออาจเกิดจากปัจจัยภายนอกเมื่อเราเผชิญกับสถานการณ์และปัญหาต่างๆ
ดังนั้น เร็คเลสซ์
จึงเสนอทฤษฎีในการควบคุมตนเองไว้ดังนี้
|
การควบคุมจากภายใน
ได้แก่ ความสำนึกที่สามารถยับยั้งควบคุมตนเองได้ ความสำนึกที่ดีงาม
ความเคารพตนเอง มโนธรรมที่ได้รับการพัฒนาอย่างดี
ความอดกลั้นต่อความคับข้องใจ ความสามารถในการต่อสู้กับอารมณ์ฝ่ายต่ำ
ความสำนึกรับผิดชอบ ความมุ่งมั่นต่อเป้าหมาย
การหาความพึงพอใจอย่างอื่นชดเชย การให้เหตุผลในการถ่ายโยงความเครียด
เป็นต้น
|
การควบคุมจากภายนอก ได้แก่
ความยึดมั่นในจารีตประเพณี ความคาดหวังของสังคม
ภาระผูกพันที่ต้องปฏิบัติตามปทัสถานของสถาบัน
ความรับผิดชอบตามที่ได้รับมอบหมาย โอกาสที่จะได้รับการยอมรับ
และความสำนึกเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่ตนสังกัดอยู่
หรือใช้หลักการและแนวคิดการควบคุมตนเองตามหลักพุทธศาสนา อันได้แก่
หิริ และ โอตตัปปะ
หิริ คือ ความละอายต่อการกระทำผิดที่เกิดขึ้นภายในใจของคน ส่วน
โอตตัปปะ คือ ความเกรงกลัวต่อผลแห่งการกระทำผิดชั่วร้าย
ต่อการรู้เห็นของผู้อื่น
|
นอกจากนี้ยังมีทฤษฎีของ เอฟ อีแวน
ไนย์ ที่เน้นการควบคุมจากสังคม ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมของ อัลเบิร์ต
แบนดูรา ที่เน้นการเรียนรู้การควบคุมตนเอง
และการควบคุมพฤติกรรมโดยใช้การเรียนรู้จากสังคม
|
|
การพัฒนาการควบคุมตนเอง
การพัฒนาการควบคุมตนเองนั้น
เด็กจะต้องผ่านการพัฒนาความสามารถในการควบคุมตนเอง
โดยผ่านกระบวนการต่างๆ หลายอย่าง ได้แก่
การเรียนรู้โดยผ่านการเสริมแรงโดยตรง
การเรียนรู้การควบคุมตนเองจากเทคนิควิธีวางระเบียบวินัย
และการเรียนรู้การควบคุมตนเองจากการทำต้นแบบ (จรรยา สุวรรณทัต,
ลาดทองใบ ภูอภิรมย์ และ กมล สุดประเสริฐ, 2533,
หน้า 9-15)
นอกจากนี้ ลอเรนซ์ และการ์บิลล์ แบร์
(Lawrence and Gabrielle Blair, 1996,
อ้างในอารยา ด่านพานิช, 2542.)
ศึกษาเรื่องผลจากพฤติกรรมการเผชิญหน้าปัญหาและการควบคุมตนเองต่อการปรับตัวของเด็กที่สูญเสียญาติ
โดยศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการเผชิญปัญหา
การควบคุมตนเองจากแรงกระตุ้นภายใน ความเครียดในชีวิตประจำวัน
และการปรับตัวในเด็กที่สูญเสียญาติ กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็ก จำนวน 68 คน
อายุ 8-13 ปี และญาติผู้ดูแลที่เหลืออยู่
พบว่าผู้ที่มีการควบคุมตนเองจากแรงกระตุ้นภายในได้ดี
จะมีภาวะซึมเศร้าน้อย มีพฤติกรรมต่อต้านสังคมน้อย
และมีการเห็นคุณค่าในตนเองสูงมากกว่าเด็กที่มีแรงกระตุ้นจากภายนอกตนเอง
|
ดังนั้นการพัฒนาเด็กเยาวชนให้รู้จักการควบคุมตนเองได้นั้น
ต้องให้ความสนใจทั้งในเรื่องที่เป็นรายบุคคลเฉพาะกรณี
เรื่องของครอบครัว สถาบันการศึกษา และบริบททางสังคมอื่นๆ
ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งในลักษณะที่จะช่วยกล่อมเกลา
และฝึกฝนให้เด็กเยาวชนได้พัฒนาจิตลักษณะภายในไปได้ทุกช่วงอายุ
จนเกิดเป็นอุปนิสัยที่จะสามารถควบคุมตนเองได้ในทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
และสามารถดำรงอยู่ได้อย่างสง่างามแม้จะเป็นผู้แพ้หรือผู้ชนะในสังคมไหนก็ตาม |
|