ตำบลละแสน (ตอนที่2)


ค้นพบคุณเอื้อและคุณประสาน

            เฮ้อ!  วันนี้ตั้งใจว่าพออบรมเสร็จในช่วงเย็นจะรีบไปขึ้นเครื่องกลับลำปางเลย  เพราะ  พรุ่งนี้ต้องคุมสอบแต่เช้า  ปรากฎว่าตกเครื่อง  ก็เลยต้องกลับพรุ่งนี้เช้า  คืนนี้จึงต้องรีบนอน  เนื่องจากต้องออกจากบ้านตั้งแต่ตี 4 ครึ่ง  ไม่อย่างนั้นจะตกเครื่องอีก  คราวนี้คงเป็นเรื่องใหญ่แน่  เพราะ  คงไปคุมสอบไม่ทัน  ตอนแรกตั้งใจว่าพอกลับถึงบ้าน  อาบน้ำ  เตรียมชุดเดินทาง  ทานข้าว  แล้วจะรีบเข้านอน  แต่พอจะเข้านอนจริงๆ  มานั่งนึกว่ารู้สึกเหมือนยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่างหนึ่ง  นั่งคิดอยู่สักครู่ก็  ปิ๊งแว๊ป ขึ้นมาว่าสิ่งที่ลืมทำก็คือ  ลืมเข้ามาเขียนเล่าเรื่องใน Blog จึงรีบลงจากเตียงทาเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เลย  (ต้องรีบเพราะไม่อย่างนั้นความง่วงและความขี้เกียจจะเข้าครอบงำความใฝ่ดีค่ะ  เปรียบเสมือนการจัดการความรู้ต้องรีบทำ  มัวแต่แต่อยู่ไม่ได้)
            การอบรมในวันนี้สนุกสนานเหมือนเมื่อวาน  แม้จะเปลี่ยนวิทยากรจากอาจารย์ทรงพลเป็นอาจารย์ตุ้มก็ตาม  ความจริงแล้วผู้วิจัยชอบอาจารย์ตุ้มมากเลย  อยากชวนให้อาจารย์มาสอนหรือมาเป็นอาจารย์ประจำที่ศูนย์ลำปาง  วิทยาลัยของเราคงได้รับข้อคิดและตัวอย่างดีๆจากอาจารย์มากมาย  อาจารย์ช่างเป็นคนที่รวยรอยยิ้มเสียเหลือเกิน  อยู่ด้วยแล้วรู้สึกอบอุ่น  ความจริงแล้วน่าจะลองชวนอาจารย์ดู  เผื่ออาจารย์สนใจ  วันนี้ได้คุยกับอาจารย์หลายเรื่อง  อาจารย์บอกว่าแต่ก่อนอาจารย์ก็นิสัยเหมือนผู้วิจัยเลย  คือ  ใจร้อน  พูดตรงไปตรงมา  แต่ในบางสถานการณ์นิสัยอย่างนี้ก็เป็นอุปสรรคในการทำงาน  อาจารย์แนะนำว่าให้ฝึกสมาธิ  เชื่อว่าจะลดความใจร้อนลงได้  จะทำให้เรามีสติมากขึ้น  ไตร่ตรองมากขึ้น  ผู้วิจัยคิดว่าจะต้องหาเวลาเรียนรู้และปฏิบัติเรื่องนี้ให้ได้  เพื่อเป็นการเติมเต็มให้กับชีวิตของตัวเอง
            มาเข้าเรื่องกันดีกว่า  เมื่อวานนี้เล่าค้างไว้ในส่วนของเรื่องตำบลละแสน วันนี้ขอเล่าต่อ  แต่ก็คงไม่จบ  เพราะ  เรื่องนี้มีหลายภาค   หลังจากชี้แจงและนัดแนะกับคณะกรรมการเครือข่ายฯแล้ว  ในช่วงค่ำของวันนั้น (วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม  2548)  ประธานเครือข่ายฯได้โทรศัพท์มาคุยกับผู้วิจัย  ซึ่งผู้วิจัยได้รายงานรายละเอียดให้ประธานฯทราบ  ประธานฯได้แสดงความเห็นว่า   หากรอข้อมูลในวันที่ 7 มกราคม  เกรงว่าจะไม่ทัน  และถ้าหากมีกลุ่มที่เตรียมข้อมูลไม่เสร็จ  อาจแก้ไขไม่ทันการณ์  ดังนั้น  ในช่วงเวลานี้จึงต้องเรียกประชุม (นัดพิเศษ)  เฉพาะรองประธานฯ  มาพูดคุยเพื่อเตรียมการและหาทางแก้ไขปัญหาหากข้อมูลของแต่ละกลุ่มเสร็จไม่ทันวันที่ 7  โดยประธานฯรับปากว่าจะเป็นผู้ประสานเรียกรองประธานฯมาประชุมเองในวันอังคารที่ 20 ธันวาคม  2548 
            หลังจากนั้นก็มีการหารือกันต่อเกี่ยวกับการเข้าพบท่านรองฯผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง (ท่านเจริญสุข  ชุมศรี)  ในวันพรุ่งนี้  ผู้วิจัยบอกว่าจะเตรียมเอกสารโครงการ  รวมทั้งสื่อต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อเอาไปนำเรียนท่าน  ก่อนวางโทรศัพท์ผู้วิจัยได้ยืนยันเวลานัดพบท่านรองฯอีกครั้งว่าเป็นช่วงบ่ายสามโมงเย็น  ที่ศาลาว่าการจังหวัดลำปาง
            เมื่อถึงเวลา  คณะของเราซึ่งประกอบด้วย  คุณสามารถ  อาจารย์พิมพ์ฉัตร  ผู้วิจัย  และคุณชาย  (เลขาฯสมาคมรถม้า)  ได้เข้าพบท่านรองฯ  เป็นเวลาประมาณ 20 นาที  โดยคุณสามารถเป็นผู้เริ่มเปิดประเด็นก่อนว่าในวันนี้อยากมาหารือท่านในเรื่องตำบลละแสนซึ่งทางลำปางได้รับอนุมัติจาก พอช. จำนวน 10 ตำบล  กระจายใน 5 อำเภอ  คือ  อ.เมือง , แม่ทะ , เกาะคา , แม่พริก  และเถิน  รวมทั้งในอนาคตข้างหน้าประมาณเดือนเมษายนปีหน้าทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพ (สปรส.)  จะนำร่องสมทบเงินลงมาให้แก่กองทุนสวัสดิการชุมชนหัวละ 170 บาท  ซึ่งลำปางเป็นจังหวัดนำร่องที่ทาง สปรส. จะใช้เป็นพื้นที่ต้นแบบ  ดังนั้น  เครือข่ายองค์กรออมทรัพย์ชุมชนจังหวัดลำปางจะต้องมีการเตรียมความพร้อมใน 3 เรื่อง  คือ
            1.ระบบการบริหารจัดการต้องชัดเจน  ตรวจสอบได้  โปร่งใส
            2.การขยายผล
            3.การหนุนเสริม  การเชื่อมประสานกับหน่วยงานราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 
            สาเหตุที่ต้องมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้  เพราะ  เป็นเงื่อนไขที่หน่วยงาน  คือ      พอช.  และ  สปรส. ได้กำหนดไว้  ในส่วนของข้อแรก  คือ  การบริหารจัดการนั้นทางเครือข่ายจะต้องเป็นผู้ดำเนินการเอง  ซึ่งขณะนี้ทุกกลุ่มก็ได้จัดเตรียมข้อมูลแล้ว  สำหรับในส่วนของการขยายผลและการหนุนเสริมนั้นจำเป็นที่จะต้องขอการสนับสนุนจากทางจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
            ในขณะที่ฟังพวกเรา  ผู้วิจัยสังเกตเห็นว่าท่านรองฯมีความสนใจและใส่ใจมาก  สังเกตได้จากการที่ท่านจดรายละเอียดต่างๆ  รวมทั้งซักถามบ้างในบางช่วงที่พวกเรายังอธิบายไม่กระจ่าง  พอฟังคุณสามารถจบ  ท่านรองฯ  ได้แสดงความคิดเห็นและชี้แนะว่า  ขอให้ทางเครือข่ายฯประสานงานกับ พมจ. (พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดลำปาง)  เพราะ  ในการที่ทางจังหวัดจะช่วยเหลือสนับสนุนได้นั้นจำเป็นที่จะต้องมีเจ้าภาพ  ทั้งนี้เนื่องจาก  เมื่อจังหวัดได้รับงบประมาณมา  การกระจายหรือจัดสรรงบประมาณจะต้องจัดสรรผ่านหน่วยงาน  ซึ่งขณะนี้  พมจ.มีหน้าที่  ยุทธศาสตร์การทำงานที่สอดคล้องกับของเครือข่ายฯพอดี  ถ้าหากประสานกับ พมจ. โดยให้ พมจ. เป็นหน่วยงานสนับสนุน (คุณเอื้อ)  แล้วให้ทางเครือข่ายฯเคลื่อนงาน (คุณกิจ)  ก็จะดีมาก  เชื่อว่าการทำงานจะเป็นไปได้ด้วยดี  และต่อไปถ้า พมจ.  ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากๆ  งานก็จะต่อเนื่องไปเรื่อยๆ  ดังนั้น  ในวันนี้ก่อนกลับขอให้ลงไปคุยกับพมจ.ให้เรียบร้อย
            นอกจากนี้แล้วท่านรองฯ  ยังบอกอีกกว่าในปีงบประมาณ 2550  ขอให้ทางเครือข่ายฯเขียนโครงการแล้วส่งให้ พมจ.  เพื่อขอรับการสนันสนุนงบประมาณจากจังหวัด  (ส่งงบประมาณช่วงเดือน มีนาคม-เมษายน 2549)  ส่วนในปีนี้เนื่องจากงบประมาณประจำปีอนุมัติผ่านไปแล้ว  ขอให้รอดูช่วงครึ่งปี  ถ้ามีเงินเหลือก็สามารถส่งโครงการมาขอรับการสนับสนุนได้  ในระหว่างนี้อาจคิดและเขียนโครงการเตรียมไว้ก่อน
            เมื่อจบการสนทนากับท่านรองฯ (ความจริงเราคุยเรื่องครงการขยายผลด้วยแต่ขอยกยอดเอาไปเล่าในเรื่องต่อไปนะคะ)  ทีมงานของเราก็ได้ลงไปพบกับท่านปิ่นชาย   ปิ่นแก้ว  ซึ่งเป็น พมจ.จังหวัด  ความจริงพวกเราเคยมาคุยกับท่านครั้งหนึ่งแล้วเมื่อประมาณเดือนที่ผ่านมา  โดยในการสนทนาเราได้อธิบายจุดประสงค์ของการมาพูดคุยในวันนี้  ท่านปิ่นชายยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่  โดยบอกว่า พมจ.จะทำหน้าที่ในการเป็นคุณเอื้อและคุณประสานกับหน่วยงานต่างๆให้  แต่ขอให้ทางเครือข่ายฯส่งรายละเอียดต่างๆมาให้ก็พอ  พวกเราจึงรับปากว่าจะส่งรายละเอียดมาให้ภายในอาทิตย์นี้  และจะมาประสานกับทางพมจ.เป็นระยะ  ถาธศาสตร์การทำงานที่สอดคล้องกัังหวัดลำปาง)  เพราะ  ในการที่ทางจังหวัดจะช่วยเหลือสนับสน
            จากการประสานงานกับหน่วยงานราชการในวันนี้ทำให้เราเห็นช่องทางว่าในระดับเครือข่ายฯหน่วยงานสนับสนุนที่สำคัญน่าจะเป็น พมจ.  โดยบทบาทที่ พมจ.น่าจะทำได้ดี  (จากการประเมินในขณะนี้  คือ  การเป็นคุณเอื้อกับคุณประสาน)
            วันนี้ขอจบหยุดแค่นี้ก่อนนะคะ  เพราะ  ง่วงนอนมากค่ะ  จะรีบเข้านอน  ไม่อย่างนั้นตกเครื่องแน่  แล้วพรุ่งนี้พบกันที่ลำปางค่ะ 

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 10646เขียนเมื่อ 25 ธันวาคม 2005 22:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:15 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
ดีเลย...สปรส.และพมจ.น่าจะชวนมาเป็นภาคีร่วมเนื่องจากเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการจัดสวัสดิการและส่งเสริมความมั่นคงของมนุษย์
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท