ต้นเหตุแห่งทุกข์ คือ "ใจของตัวเอง"


“การมีสติ สมาธิ และปัญญา” จะทำให้เราสามารถต่อสู้กับต้นเหตุแห่งทุกข์นั้นๆได้

เกือบสามสิบปีแล้วที่ฉันใช้ชีวิตอยู่กับความทุกข์  ยอมให้ความเจ็บปวดและความทุกข์วนเวียนอยู่ในห้วงความรู้สึก ฉันปล่อยให้ใจของตัวเองจมอยู่กับความทุกข์ ไม่เคยมองเห็นสิ่งดีๆของมันเลย ในแต่ละวัน  ได้แต่ถามตัวเองว่า  ทำไมโชคชะตาไม่เคยเข้าข้างเราเลย ?  ทำไมชีวิตเราจึงเจอแต่เหตุการณ์ที่เลวร้ายอยู่เรื่อยไป ?  ทำไมชีวิตเราไม่ประสบความสำเร็จเหมือนคนอื่นบ้าง ? 

            วันนี้ฉันก็สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้แล้วว่าเพราะอะไรฉันจึงต้องเป็นทุกข์ เป็นเพราะความรู้สึก  อยากได้ อยากมี อยากเอาชนะ (กิเลส) ในตัวของเราเอง ที่มันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเราหาความพอดีให้กับตัวเองไม่ได้  ยิ่งสิ่งเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นเท่าไร ใจเราก็ยิ่งทุกข์มากขึ้นเท่านั้น               

            เวลานี้ฉันสามารถเรียนรู้และทำความเข้าใจ จิตใจ ของตัวเองได้แล้ว  ฉันสามารถที่จะอยู่ร่วมกับทุกข์นั้นได้อย่างเป็นสุข  โดยการพยายามเรียนรู้ และมองเห็น ข้อดี ของทุกข์นั้นๆ แม้จะเป็นเพียงข้อดีเพียงน้อยนิดก็ตาม       

           ซึ่งมันทำให้ฉันเป็นทุกข์น้อยกว่าที่เคยเป็น  พยายามค้นหาด้านดีในเชิงบวกของสถานการณ์ต่างๆ  ที่เลวร้ายแสนสาหัสที่ผ่านเข้ามาในชีวิต   ทำให้เรามีความหวังและกำลังใจ สามารถต่อสู้กับสิ่งเหล่านั้นได้     และการไม่ยึดติดกับความทุกข์มากเกินไป จะทำให้เรามองเห็นส่วนดีจากด้านต่างๆของชีวิตที่เหลืออยู่   ความทุกข์และปัญหาที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา  จะทำให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้น   

          ฉันเข้าใจแล้วว่า  การมีสติ  สมาธิ และปัญญา  จะทำให้เราสามารถต่อสู้กับต้นเหตุแห่งทุกข์นั้นๆได้ 

           ถ้าเราคิดว่า ความสุข นั้น เป็นสิ่งที่หาได้ยาก ชีวิตเราก็จะมี ความสุข ได้ยาก ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วความสุขมีอยู่รอบๆตัวเรา  ถ้าเรามัวหมกมุ่นอยู่กับความทุกข์ ความไม่สบายใจ  ก็จะมองไม่เห็นความสุขเหล่านั้นเลย  

         หากเราเปิดโอกาสให้ตัวเองมองสิ่งรอบข้างในแง่มุมอื่นบ้าง   โดยเฉพาะในแง่มุมที่ดีต่อชีวิต  มองด้านดีของสิ่งต่างๆ จะทำให้เราพบกับความสุขได้อย่างง่ายดาย ในโลกใบนี้ยังมีสิ่งสวยงามรอให้เราสัมผัสอีกมากมาย  หากเราปรับความคิด เปลี่ยนมุมมองของการใช้ชีวิต เราจะพบว่ามีความสุขอีกมากมายที่รอให้เราค้นพบ อย่าปิดกั้นตัวเองให้จมอยู่กับความทุกข์

"ใช้ชีวิตและเวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์มากที่สุด คงเพียงพอแล้วสำหรับหนึ่งชีวิต"

หมายเลขบันทึก: 106087เขียนเมื่อ 25 มิถุนายน 2007 10:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

เป็นกำลังใจให้เธอเสมอและตลอดไป                       ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

I stay with you

  • การคิดบวกย่อมดีเสมอ
  • การมองหาสิ่งดีๆในสถานการณืแย่ๆนั้นคือการสร้างกำลังใจ ที่หาไม่ได้จากที่อื่น หากเราไม่สร้างเอง
  • สู้นะพี่แมว

เย้ๆๆๆๆ

  • แค่รู้จักว่า อะไรคือ "ทุกข์"  เราก็ชนะมันไปตั้งครึ่งแล้วหล่ะนะ
  • แมว  ยังต่อสู้จนรู้จัก  "สุข"  ที่อยู่ใน "ทุกข์" ได้ ก็ชนะเลิศ แล๊ว... แมวเอ๋ย

มีอะไรอีกมากมาย หลายมุม ให้มอง ให้มุ่งไป

     ถนนบางเส้นเค้าก็ยังไม่ได้สร้าง มันก็รกๆ นะ เราคงต้องเหนื่อย ค่อยๆ ถาง ค่อยๆ เดิน ไปนะ เดี๊ยวดีเอง

     ถนนบางเส้น เค้าทำเสร็จแล้ว แต่คนใช้เยอะ มันก็พัง เราก็ต้องเดินระวังมากๆ หลบหลุมให้ดีๆ

     ถนนบางเส้น ก็แยกเยอะ งง วุ่นวาย ดูดีๆ วางแผนหน่อย  

     ถนนบางเส้น เราก็ไม่เคยไป อาจลองไปดูนะ จะได้เปลี่ยนบรรยากาศ

สู้ๆๆ แมว 9ชีวิต  นะ

 

  • ขอบคุณ ann, น้องเยียร์,พี่แหม่ม มากสำหรับกำลังใจ
  • จะก้าวเดินไปบนถนนในเส้นทางที่ไม่เคยก้าวเดิน
  • จะเดินหน้าเพื่อค้นหาความสุขในชีวิตที่รออยู่

สวัสดีครับ ......คุณ....... แต่อยากจะบอกว่าที่คุณคิดน่ะถูก  แต่ถูกเพียงครึ่งเดียว  เหตุผล การติดสุขก็ไม่ควรติดครับ เพราะมักจะเกิดอาการอยากมีสุข  อยากได้สุข และอยากเป็นสุขครับ  (ทุกข์อีกแบบครับ)

อริยสัจจ์สี่  คือความจริงยิ่งใหญ่  ๔ ประการคือ  ทุกข์ สมุทัย  นิโรธ มรรค   เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้มานานแล้ว  ...ผมก็เคยเป็นอาการที่ไม่เข้าใจว่าทำไมโลกนี้ถึงลำเอียง ไม่เคยเห็นใจ คนมีปัญหา มีปัญหาจังเลย.........

พอผมไปบวช  ผมเรียน จน สอบนวกะ ขาดเพียง 18 คะแนนเต็ม  ผมจึงพอเข้าใจ  แต่พอใจเข้าใจครับ ยังไม่ได้แก้ปัญหาอะไรต่าง ๆ นานาเลย.....

2 ปีกับการอยู่การบรรพชิต  และศึกษาธรรมจริง ๆ ผมได้มาแค่นิดเดียวของ ธรรมะ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์

แต่ทำให้เข้าใจว่า ทุกข์ เราต้องเข้าใจ สมุทัย ไม่ได้อยู่ที่ใจ แต่อยู่ที่กิเลส(มีกิเลสอย่างหยาบ กิเลสอย่างกลาง และกิเลสอย่างละเอียด ส่วนตัณหามี กามตัญหา(อยากได้สุข) วิภาวตัญหา(ไม่อยากมีไม่อยากเป็น) ภาวตัญหา(อยากมีอยากเป็น)  ต้องใช้วิธี ข่มใจ ลดกิเลส ลดตัญหา /ละกิเลส ละตัญหา ตัดกิเลส  ตัดตัญหา ครับ ถึงจะแก้ได้เป็นบรรเทาทุกข์ครับหรือแก้ทุกข์ (นิโรธ)

แต่สิ่งที่เราต้องเรียนรู้ต่อคือ  มรรค มีองค์แปด เป็นการปฏิบัติเพื่อสู่การพ้นทุกข์ .........

อยากพ้นทุกข์ต้องปฏิบัติมรรคครับ  (ตั้งแต่สัมมาทิฏฐิ,ไปจนถึง  สัมมาสมาธิครับ)  ทำได้ ก็ทุกข์น้อยลงครับ

ความสุขอยู่ที่ไหนหนอ...
มองหาบนท้องนภากว้าง
เพ่งไปในหมู่แมกไม้
เหลียวหาในหมู่ผู้คน...
ต่างมีทุกข์เปี่ยมล้นเต็มหัวใจ
..........
เหนื่อยล้าแบกทุกข์มายาวไกล
เพียง"หยุด"คิด  "ปล่อยวาง" ....แล้วไซร้

อ้อ!!! ความสุขอยู่ที่ตรงนี้ไง ..ในหัวใจเราเอง

\\(^ - ^)//

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท