ที่มาของ .....แอปเปิ้ล..... (1)


คนเดนมาร์กโบราณ เชื่อว่า เวลาแอปเปิ้ลอยู่ใกล้คนที่นอกใจคนรัก แอปเปิ้ลจะเหี่ยว ส่วนคนกรีกในสมัยโบราณ เชื่อว่า เวลาชายใดโยนแอปเปิ้ลให้หญิง นั่นหมายถึง เขากำลังขอเธอแต่งงาน และถ้าเธอรับได้ นั่นหมายความว่า yes

          คัมภีร์ไบเบิ้ลกล่าวถึง แอปเปิ้ล ว่า เป็นผลไม้ต้องห้าม ที่ Eve เชื้อชวนให้ Adam กิน และผลที่ตามมา ก็คือ มนุษย์เริ่มรู้จักทำบาป และนี่ก็คือเหตุผลที่แอปเปิ้ลในภาษาละตินตรงกับคำว่า malus ซึ่งแปลว่า ชั่วร้าย ถึงกระนั้น ภาษาอังกฤษก็มีสำนวนว่า the apple of your eye ซึ่งหมายถึง สิ่งนั้นมีค่ามากในสายตาคุณ

          เทพนิยายกรีกโบราณ ก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับแอปเปิ้ลว่า กษัตริย์ Eurystheus ทรงมีบัญชาให้ Hercules นำผลแอปเปิ้ลทองคำที่อยู่ในสวนของ Hesperides มาถวายพระองค์ และหลังจากที่ได้เดินทางรอนแรมหลายเดือน  Hercules ก็มาถึงสวน  แต่ก่อนจะเข้าสวนได้ เขาต้องฆ่ามังกรเฝ้าสวนก่อน และก็ทำได้สำเร็จ จึงหยิบแอปเปิ้ลนำไปถวาย Eurystheus  แล้วพระองค์ก็ทรงมอบต่อให้มเหสีเพื่อนำไปคืนกลับให้ Hesperides อีก       

          ส่วน Eris ผู้เป็นเทพธิดาแห่งความขัดแย้ง เมื่อได้รับเชิญไปงานมงคลอภิเษกสมรสระหว่าง Peleus กับ Thetis  นางจึงนำแอปเปิ้ลทองคำที่มีคำจารึกว่า สำหรับคนที่สวยที่สุด ไปในงาน เหตุการณ์นี้ทำให้เทพธิดา Hera, Athena และ Aphrodite ซึ่งต่างก็อ้างว่าตนสวย ต้องให้เจ้าชาย Paris แห่ง Troy ตัดสิน และเทพธิดาทั้งสามต่างก็ให้สินบนแก่ Paris เพื่อให้ตนได้เป็นผู้ชนะ และสินบนจาก Aphrodite คือ Helen แห่งกรุง Sparta เป็นแปะเจี๊ยะที่ถูกใจ Paris  ที่สุด Paris จึงให้แอปเปิ้ลทองคำแก่ Aphrodite แล้วสงครามแห่ง Troy จึงเกิดตามมา

   Atalanta กับ Hippomenes

           Atalanta เป็นเทพธิดาพระองค์หนึ่งที่ไม่ชอบแต่งงานกับชายใด นางจึงใช้วิธีวิ่งแข่งขัน โดยตั้งเงื่อนไขว่า ถ้าชายคนนั้นวิ่งชนะกายนาง เขาก็จะชนะใจนางด้วย   Hippomenes จึงใช้อุบายโยนแอปเปิ้ลทองคำล่อ Atalanta ทำให้นางชะงักวิ่ง โดยก้มลงเก็บผลแอปเปิ้ล Hippomenes จึงได้นางเป็นภรรยา

           ตำนานสวิส ก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับแอปเปิ้ลเช่นกันว่า William Tell ใช้ธนูยิงผลแอปเปิ้ลที่วางอยู่บนศีรษะลูกชายได้อย่างแม่นยำ เพื่อเอาชนะเจ้าผู้ครองเมืองที่ทารุณโหดร้าย และเมื่อเขาทำได้สำเร็จ ชาวเมืองก็ happily ever after

           คนเดนมาร์กโบราณ เชื่อว่า เวลาแอปเปิ้ลอยู่ใกล้คนที่นอกใจคนรัก แอปเปิ้ลจะเหี่ยว

           ส่วนคนอังกฤษ ถือว่า วันที่ 21 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันแอปเปิ้ล เพราะครูอังกฤษส่วนใหญ่ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 - 18 มีรายได้ต่ำ  ดังนั้น บิดามารดาของนักเรียนที่ครูคนนั้นสอน จึงมักนำผลแอปเปิ้ลจัดลงในตะกร้า เพื่อนำไปให้ครูเป็นของขวัญ  แต่ในเวลาต่อมา เมื่อเงินเดือนครูสูงขึ้น นักเรียนจะนำแอปเปิ้ลผลเดียวไปให้ครูเพื่อแสดงความขอบคุณ

            คนกรีกในสมัยโบราณ เชื่อว่า เวลาชายใดโยนแอปเปิ้ลให้หญิง นั่นหมายถึง เขากำลังขอเธอแต่งงาน และถ้าเธอรับได้ นั่นหมายความว่า yes       

   ในอเมริกา ก็มีตำนานเกี่ยวกับแอปเปิ้ลเช่นกัน คือ John Chapman ผู้เป็นนักผจญภัย และนักสอนศาสนาในตอนต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19  ขณะเดินทางผ่านรัฐ Ohio, Indiana และ Illinois ได้โยนเมล็ดแอปเปิ้ลลงดิน และ ปลูกต้นแอปเปิ้ลในทุกหนแห่งที่เขาไปเยือน ด้วยเหตุนี้ เขาจึงมีชื่อเรียกเล่นว่า Johny Appleseed 

ต้นแอปเปิ้ล ที่บ้านของ Newton ที่ Lincolnshire

          ในวงการวิทยาศาสตร์  ก็มีตำนานเกี่ยวกับแอปเปิ้ลเช่นกันว่า เมื่อ Isaac Newton เห็นผลแอปเปิ้ลตกจากกิ่งลงสู่พื้น เหตุการณ์นี้ทำให้ Newton พบแรงโน้มถ่วง 

มีต่อ.....

หมายเลขบันทึก: 105576เขียนเมื่อ 22 มิถุนายน 2007 22:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ต่อไปนี้เวลาจะทานแอปเปิ้ลคงจะนึกถึงพี่แกบ :)

ปล. พี่แกบค่ะ ลองใส่คำหลักว่า แอปเปิ้ล ตำนาน ด้วยนะค่ะ มีประโยชน์ในการสร้างแผนที่ความรู้ค่ะ

ลองอ่านบันทึกนี้นะค่ะ http://gotoknow.org/blog/tutorial4u/105515

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท