......"ใครเคยเปลี่ยนงานบ้าง ยกมือขึ้น ?"


ปัญหาเรื่องนี้ในการที่จะพัฒนาด้าน KM นั่นคือ มีใจหรือเปล่าที่จะแบ่งบันความรู้หรือข้อมูล

         ฟังแล็คเชอร์ไปเมื่อคราวก่อนที่อาจารย์ได้พูดถึงวงจรของการนำ Explicit Knowledge and Tacit Knowledge
ไปใช้ให้เกิดประโยชน์   มีประเด็นที่คุณดุ้ยดุ่ยได้เสนอความคิดเห็นเรื่องของ ขั้นตอนการ  Care&Share ที่คิดว่าสังคมไทยตอนนี้นั้นน่าจะติดปัญหาเรื่องนี้ในการที่จะพัฒนาด้าน KM นั่นคือ มีใจหรือเปล่าที่จะแบ่งบันความรู้หรือข้อมูล
 ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องที่เป็นวิชาการเกินไปนัก เพราะบันทึกของผมนั้นส่วนใหญ่จะหนักไปทางการแสดงความคิดเห็นในมุมที่เป็นประสบการณ์ของตัวเอง(Tacit Knowledge)มากกว่าที่จะ search หาข้อมูลจากแหล่งต่างๆมาวางลงไป  เพราะจากที่เราเรียนวิชา KM นั้นเราก็ได้รู้กันแล้วใช่มั๊ยครับว่าทุกวันนี้ ปัญหาเรื่องการ  tacit knowledge Capturing นั้นมีปัญหามากกว่าในส่วนของ Explicit knowledge Capturing ฉะนั้นผมยังยืนที่จุดเดิมของผมว่าบันทึกที่เกิดจาก Blog ของผมนั้นจะพยายามshareในส่วนที่เป็น Tacit knowledge ให้กับผู้อ่านมากๆ อาจจะถูกบ้างผิดบ้างก็ตาม ก็อยากให้ผู้อ่านทุกคนนั้นกรั่นกรองดูเองแล้วนำส่วนที่พอใช้ได้และมีประโยชน์ไปใช้ แค่เท่านี้ผมก็พอใจและว่าได้เป็นส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งที่ร่วมกันช่วยสร้าง KM ในสังคมไทย  ส่วน Explicit นั้นต้องรบกวนเพื่อนๆหาข้อมูลความรู้จากแหล่งอื่นๆเพิ่มเติมนะครับ ...... 
            วันนี้ผมจึงอยากจะพูดถึงตัวอย่างง่ายๆในเรื่องของ Knowledge transfer and sharing .....เริ่มกัน....จาก
คำถามนี้ครับ......"ใครเคยเปลี่ยนงานบ้าง  ยกมือขึ้น ?"จริงๆแล้วผมไม่ได้เปลี่ยนงานหรอกนะครับแต่เป็นการลาออกเพื่อไปศึกษาต่อ  แต่อยากจะเล่าถึงช่วงเวลาก่อนที่จะออกจากงานให้ฟัง    สำหรับหน่วยงานหรือองค์กรหลายๆที่นั้นย่อมน่าจะมีกฎระเบียบที่ว่า หากจะทำการลาออกจากที่ทำงานให้แจ้งต่อหัวหน้าและฝ่ายบุคคลล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 1 เดือน เพื่อให้หน่วยงานให้ทำการสรรหาผู้ที่จะเข้ามาทำงานแทนและมีเวลาให้ทำการถ่ายโอนงานกัน  ช่วงก่อนที่ผมจะลาออกนั้นสิ่งหนึ่งที่ผมได้ทำก็คือ  การจัดระเบียบข้อมูลในคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานทั้งหมดให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและได้ทำ list ข้อมูลทั้งหมดที่ตัวเองได้ทำมาว่าอยู่ใน Directory หรือ Folder ไหนบ้างเพื่อให้รุ่นน้องคนใหม่ที่เข้ามารับช่วงต่อจากผมนั้นสามารถค้นหาข้อมูลที่จำเป็นและต้องใช้งานได้ด้วยตนเอง ทำให้ง่ายเข้าไว้ ให้คิดซะว่าคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยสามารถเข้ามาหาข้อมูลที่มีเยอะแยะมากมายจากเราได้  อย่าให้การจัดเก็บข้อมูลที่ไม่เป็นระเบียบของเรานั้นทำให้การทำงานลดประสิทธิภาพลง  แถมยังสามารถลดจำนวนครั้งที่รุ่นน้องจะโทรมาถามหรือปรึกษาเราเมื่อยามที่เราได้ออกจากที่นั่นไปแล้ว  นี่เป็นตัวอย่างที่ง่ายมากๆเลยสำหรับเรื่อง Knowledge transfer and sharing


 

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 1055เขียนเมื่อ 11 กรกฎาคม 2005 21:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 เมษายน 2012 12:09 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท