ผมมีโอกาสได้ไปรับลูกออกจากไอซียู หลังจากการผ่าตัด 5 ชั่วโมง เลยต้องไปนอนเล่น 1 คืน ที่นั่นผมได้พบสาวน้อยน่ารัก 2 คน ยิ้มหวาน และส่งเสียงอ้อแอ้ต้อนรับทุกคนที่มาเล่นทักทายกับเธอ
สองสาวนั่นคือ ปานตะวัน และปานวาดครับ แฝดสยามที่แพทย์ไทยได้ผ่าตัดแยกร่างของเธอทั้งสองสำเร็จ เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2550
ผมมีโอกาสได้เล่นกับหนึ่งในสองคน ระหว่างที่รอส่งลูกผมกลับหอผู้ป่วยเดิม ดวงตาเธอสดชื่น ยิ้มน้อย ๆ จ้องมองผมและลูก และชวนกันเล่นเอิ๊กอ๊าก
สิ่งที่ผมรู้สึกได้ ยิ้มของเธอ เป็นอีกยิ้ม ที่แสดงถึงความหวัง และความสุขที่เกิดจากความรัก ความตั้งใจของทีมผู้รักษาทุกคน ที่ทำให้เธอมีชีวิตอยู่ในโลกสดใสใบนี้ต่อไป
เข้าใจว่าเธอทั้งสอง กำลังอยู่ในระหว่างฟื้นฟูร่างกายอีกสักนิด โดยทั่วไป เธอดูแข็งแรงครับ
17 มิย.2550 ปานวาด และปานตะวัน อายุครบ 1 ขวบ แวะมาชวนพวกเรา Happy Birthday ให้ครับ
ขอบคุณภาพและข่าวจาก คมชัดลึก http://www.komchadluek.net/2007/04/06/a001_105216.php?news_id=105216
นี่แหละ คือคุณค่า ของงานของพวกเรา
ในมุมหนึ่ง อาจมีเรื่องที่น่าปวดหัว เรื่องของการฟ้องร้อง ทะเละเบาะแว้ง ทำให้เราเริ่มหวาดระแวง พี่อ่าน วารสารแพทยสภา ไม่เคยมีเล่มไหนที่ไม่มีเรื่อง กฏหมาย เรื่องการฟ้องร้อง อยู่แต่ในวังวน ของเรื่องวุ่น ๆ
แต่ยังมีอีกหลายมุมมาก ๆๆๆๆ ที่มีคุณค่าน่าชื่นชม แบบที่ รักษ์พงษ์ เล่าเรื่อง น้อง ปานวาด ปานตะวันนี่แหละ
ขอให้ลูกแข็งแรงนะครับ
มาเยี่ยมน้องปานวาด ปานตะวัน
เยี่ยมดวงใจอาจารย์ ด้วยค่ะ
ผ่าตัดและออกจาก ICU แล้ว คงสบายใจขึ้นมากนะคะ
มาขอบคุณและส่งกำลังใจถึงลูกคุณหมอด้วยค่ะ ไม่ได้ตามมาแต่ต้นไม่ทราบว่าคุณหมอเล่าไปในบันทึกก่อนๆหรือยัง เดี๋ยวจะไปตามอ่านค่ะ ขนาดลูกเพิ่งออกจากห้องผ่าตัดคุณพ่อยังมีกะใจจะทักทายเด็กน้อยคนอื่นด้วยแบบนี้ น่าชื่นชมจิตวิญญาณของคนเป็นหมอจริงๆค่ะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ
เป็นประสบการณ์สนุก ๆ ของลูกผม
ดีใจที่ได้เจอคนดัง