การดูแลผู้ป่วยสุราที่มีภาวะเลือดออกในทางเดินอาหาร(UGIB) โดยนางสาวกุลธรา สิงห์ลานางสาวกาญจนา ข้อสว่าง ภาวะเลือดออกในทางเดินอาหารส่วนบน(Upper Gastrointestinal Hemorhage)หมายถึง การที่เลือดออกในทางเดินอาหารตั้งแต่หลอดอาหาร,กระเพาะอาหาร,ลำไส้เล็กส่วนดูโอดินัม ส่วนที่ 4 Ligament of Treitz ผู้ป่วยอาจมาพบแพทย์เนื่องจากอาเจียนเป็นเลือดหรือถ่ายอุจจาระดำ หรือหน้ามืดเป็นลมโดยไม่ทราบสาเหตุ ถ้าเลือดออกถึง 100-200 ซีซี จะมีอุจจาระเป็นสีดำทางเดินอาหารแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน คือ1.ทางเดินอาหารส่วนบน คือ ทางเดินอาหารตั้งแต่ หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ไปจนถึงดูโอดินัมส่วนที่ 4 2.ทางเดินอาหารส่วนล่าง คือ ทางเดินอาหารที่ต่ำกว่าดูโอดินัมส่วนที่ 4 สาเหตุ1. หลอดเลือดโป่งขอดที่หลอดอาหาร(Esophageal varices) พบได้ค่อนข้างบ่อย เนื่องจากผู้ป่วยเป็นโรคตับแข็ง (Cirrosis) ทำให้เกิดความดันโลหิตสูงในหลอดเลือดดำพอร์ทัส(portal hypertension)หลอดเลือดโป่งขดยังอาจพบได้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคตับอักเสบเรื้อรัง(chronic hepatitis) หรือตับอักเสบเฉียบพลัน(acute hepatitis)แต่มักไม่ทำให้เกิดการตกเลือดผู้ป่วยเหล่านี้มักจะมีอาการแสดงของโรคตับเรื้อรังและมีภาวะดีซ่าน(jaundice)2. กระเพาะอาหารอักเสบเฉียบพลันหรือเรื้อรัง(acute หรือ chronic gastitis ) เป็นสาเหตุสำคัญของการอาเจียนเป็นเลือดและถ่ายอุจจาระดำ อาจทำให้เกิดการตกเลือดอย่างมาก ผู้ป่วยที่เป็นโรคตับแข็งก็อาจจะเป็นแผลกระเพาะอาหารหรือกระเพาะอาหารอักเสบ และเกิดการตกเลือดได้3. เนื้องอก(tumor)ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งกระเพาะอาหารบางคนจะมีอาเจียนเป็นเลือดส่วนมากจะมีอาการกลืนอาหารลำบาก องค์ประกอบที่มีมีอิทธิพลต่อการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร1.กรรมพันธุ์2.อาหาร ผู้ป่วยที่รับประทานอาหารที่มีกากน้อย และมีจำนวนแป้งสูง พบว่าเป็นโรคกระเพาะอาหารมากกว่าคนที่รับประทานอาหารที่มีกากและจำนวนโปรตีนสูงมาก3.การสูบบุหรี่ การดื่มสุราแอลกอฮอล์4.ผู้ที่มีฐานะยากจนทำให้ขาดสารอาหารและมักรับประทานอาหารที่มีแป้งมาก5.สภาพจิตประสาท อารมณ์6.การใช้ยาบางชนิด เช่น พวก salicylate /corticosteroid อาการและอาการแสดง1.ผู้ป่วยจะมีอาการอ่นเพลีย คลื่นไส้ ปวดท้องในระยะเรก มีความรู้สึกอยากถ่วยอุจจาระ อาจเป็นลมหน้ามืดขณะกำลังถ่าย2.อาจมีอาเจียนเป็นเลือดสด ถ่ายอุจจาระและมีอาการปวดศรีษะ กระหายน้ำกระวนกระวายใจสั่นเหงื่อออก ความดันต่ำ ชีพจรเบาเร็ว และผิวหนังเย็นชื้นอาการเปลี่ยนแปลงอื่นๆที่พบได้คือ -ฮีมาโตคริตต่ำลง platelet สูง - BUN สูง -ไข้ อาจเกิดภายใน 24 ชั่วโมงแรก และเป็นอยู่นาน 2-3 วัน -อาจเกิดอาการสับสน -อาจเกิดอาการปอดบวมได้จาก aspiration หรือ hypostatic pneumonia -hyperbilirubinemia เกิดภายหลังการตกเลือด -อาการทางตับ พบในกรณีที่ผู้ป่วยมีโรคตับแข็งร่วมด้วย การพยาบาลผู้ป่วยเลือดออกในทางเดินอาหาร1.ตรวจสัญาณชีพ (vital signs) ได้แก่ ชีพจร และความดันโลหิต ถ้าชีพจรมากกว่า 100-120 ครั้ง/นาที ความดันโลหิต systolic ต่ำกว่า 100 มิลลิเมตรปรอท หรือความดันโลหิตในท่านั่ง(postural hypotention) 10-15 มิลลิเมตรปรอท แสดงว่ามีการเสียเลือดอย่างน้อย 1,000 ซีซี 2.ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ การให้ออกซิเจนในผู้ป่วยช็อคเป็นสิ่งจำเป็นเพราะจะช่วยลดการทำงานของหัวใจและระบบหายใจดูแลทางเดินหายใจให้โล่งอยู่เสมอสิ่งที่ควรติดตาม ประเมินและบันทึก ได้แก่ -ระดับความรู้สึกตัวอาจเป็นอาการสำคัญที่บ่งบอกถึงภาวะพร่องออกซิเจน (hypoxia) -ลักษณะและอัตราการหายใจ ปกติควรมีอัตราการหายใจ ระหว่าง 16-22 ครั้ง/นาที และสม่ำเสมอ -ควรฟังเสียงลมเข้าออกจากปอด เพื่อตรวจค้นว่ามีการอุดตันทางเดินหายใจหรือมีภาวะน้ำเกินหรือไม่-ติดตามผล Lab 3.ดูแลการไหลเวียนเลือดให้เพียงพอ โดยการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ 4.การให้เลือด 5.ใส่สายยางกระเพาะอาหาร (nasogastric tube) เพื่อทำการล้างกระเพาะอาหารด้วยน้ำทำให้หลอดเลือดหดตัวและช่วยกำจัดเลือดที่ค้างอยูในกระเพาะอาหารออกให้หมด ในผู้ป่วยสุราส่วนใหญ่จะมีการดูแลสุขภาพไม่เหมาะสม เช่น รับประทานอาหารไม่เป็นเวลาทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารและการดื่มสุรานานๆอาจทำให้เกิดโรคตับแข็งซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะเลือดออกในทางเดินอาหาร นับเป็นภาวะวิกฤติทั้งทางร่างกายและจิตใจเนื่องจากเป็นการสูญเสียเลือดภายในที่เกิดขึ้นรวดเร็วประเมินได้ยากความล่าช้าหรือการให้การพยาบาลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสมจะทำให้ผู้ป่วยได้รับอันตรายรุนแรงถึงชีวิตได้ ดังนั้นพยาบาลจึงเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยชีวิตผู้ป่วยจึงต้องมีความรู้ความสามารถในการประเมินผู้ป่วยได้ถูกต้อง เพื่อค้นหาปัญหาตลอดจนการวางแผนการพยาบาลเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการพยาบาลที่ถูกต้องเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาของแพทย์ ควรมีทักษะและความชำนาญหลายๆด้านมีการวางแผนในหน่วยงานและเตรียมอุปกรณ์ต่างๆให้พร้อมอยู่เสมอจะทำให้การรักษาผู้ป่วยภาวะวิกฤติได้ถูกต้องรวดเร็วนอกจานี้โรคเลือดออกในทางเดินอาหารยังมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำอีก หากผู้ป่วยไม่เข้าใจถึงการปฏิบัติตัวเมื่อกลับไปอยู่ที่บ้านพยาบาลจึงเป็นผู้ที่มีบทบาทในการให้ความรู้และการปฏิบัติที่ถูกต้องเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปมีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป
เป็นประโยชน์แก่คนอื่นๆมากเลยค่ะขอบคุณค่ะ
ขอบคุณนะค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ
ดีจังค่ะ..หนูเป็นนักศึกษาพยาบาลนะคะฝึกงานอยู่ค่ะได้ case นี้พอดีเลย..ขอบคุณนะคะช่วยได้เยอะค่ะ^^
การรักษาโรคกระเพาะ
การฟื้นฟูรักษาด้วยชีวะโมเลกุล สำหรับการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
ปัจจุบันนี้คนเราเกิดภาวะตรึงเครียดเนื่องด้วยหลายๆสาเหตุ และปัจจัย ทำให้ร่างกายและจิตใจของเกิดโรคต่างๆขึ้นมากมาย แต่พวกเรายังโชคดีที่ว่ามีการค้นพบการป้องกันสภาพที่เสื่อมโทรมนี้
โดยปรัชญาเบื้องต้น สิ่งที่สำคัญพื้นฐานสำหรับการมีสุขภาพที่ดีคือ แสงแดด, ออกซิเจน, น้ำ, การได้รับสารอาหารที่สมดุล และ การออกกำลังกายที่เพียงพอ
การวิจัยใหม่ค้นพบว่าห้าข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญของชีวิต แต่เนื่องด้วยชีวิตปัจจุบันทำให้สิ่งต่างๆ สารอาหาร น้ำดื่ม อากาศที่ไม่บริสุทธิ์ การได้รับแสงแดดที่ไม่เพียงพอหรือผิดช่วงเวลา ทำให้เราได้รับสิ่งไม่มีคุณภาพเพียงพอเราจึงต้องอาศัยตัวช่วยเพื่อให้ได้รับสิ่งสำคัญที่เพียงพอ
ผลของการบำบัดด้วยเซลล์ :
-ต่อต้านความชราและการแก่ก่อนวัยอันควรที่เกิดจากความเหนื่อยล้าทั้งทางร่ายกายและจิตใจ
-ฮอร์โมนไม่สมดุลและไม่มีประสิทธิภาพของต่อมไร้ท่อ
-ปัญหาเรื่องความเจ็บป่วยทางอารมณ์และจิตใจ, ความเจ็บป่วยเนื่องจากความเครียด
-อาการอ่อนล้าเรื้อรัง(Chronic Fatigue Syndrome CFS)
-การพักฟื้นหลังจากโรคหรืออุบัติเหตุ
-กระดูกสันหลังและไขข้อเสื่อม
-ความบกพร่องของกล้ามเนื้อและระบบประสาทบางประเภท
-โรคเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเนื้อเยื้อเรื้อรัง
-ปัญหาระบบหมุนเวียน
-โรคเกี่ยวกับระบบย่อย
-ระบบภูมิคุ้มกันเสื่อมสภาพและการติดเชื้อ
-การสร้างเซลล์ เนื้อเยื่อและอวัยวะขึ้นมาใหม่
-ภูมิคุ้มกัน สารต่อต้านอนุมูลอิสระและยับยั้งการอักเสบ
-การควบคุมระบบประสาทอัตโนมัติ
-โปรโมทและบำรุงรักษาการหมุนเวียนเลือด
-เพื่อให้มั่นใจการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและการรักษาบาดแผล
-การเพิ่มประสิทธิภาพของการฟื้นฟูระบบประสาท
-ควบคุมความสมดุลของระบบฮอร์โมน
-ปรับปรุงระบบทางเดินอาหารที่จะนำไปสู่การกำจัดอาการท้องผูก
-เพิ่มความยืดหยุ่นที่ข้อต่อและหมอนรองกระดูก
-ปรับปรุงการรับรู้และการตื่นตัวของสมองและเสริมสร้างความชุ่มชื้นของผิวหนังชั้นนอกซึ่งนำไปสู่ผิวที่กระชับ สดใสและเรียบเนียน
-เพิ่มความหนาแน่นของชั้นหนังแท้โดยการเร่งคอลลาเจน