เมื่อสองสามวันมานี้มีเพื่อนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันคือ ขาดอีก 30 ปีจะครบร้อยปี โทรมาถามสารทุกข์สุขดิบตามที่เคยติดต่อกันมาประจำ
ตอนหนึ่งของการคุยกันเพื่อนคนนี้ถามผมว่า ทุกวันนี้ผมใช้ชีวิตประจำวันอย่างไร เพราะเขาคงคิดว่าผมคงจะเหงา เนื่องจากไม่มีหลานให้เลี้ยงดูตามประเพณีแบบไทยๆ ว่าแก่แล้วต้องเลี้ยงหลาน
ผมตอบเขาไปว่าชีวิตประจำวันของผมมีกิจกรรมอยู่สามสี่อย่างคือ ดูข่าว(บางครั้งก็ดูหนังเคเบิ้ล ทีวี) ฟังเพลง อ่านหนังสือสารพัดที่ใจอยากจะอ่าน สุดท้ายเล่นอินเตอร์เน็ต
เขาติดใจเรื่องเล่นอินเตอร์เน็ต เพราะกิจกรรมอื่นๆเขาทราบว่าผมปฏิบัติมาเป็นประจำอยู่แล้วก่อนจะแก่ เขาสอบถามผมมากมายเกี่ยวกับวิธีการที่จะเล่นอินเตอร์เน็ต สุดท้ายเขาฟันธงถามผมว่า จริงใหมที่เขาพูดกันว่าคนแก่ไม่สามารถจะเล่นอินเตอร์เน็ตได้ ผมก็ฟันธงตอบไปว่าไม่จริงแน่นอน มันอยู่ที่คนแก่คนนั้นจะมีวิสัยทัศน์และทัศนคติเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตในแนวไหน
ถ้าคิดว่าได้ก็ไม่ยาก ถ้าคิดว่ายากก็ยากอย่างที่คิดนั่นแหละ
แต่อย่างไรก็ตามผมก็อธิบายให้เขาฟังว่า คอมฯเป็นอุปกรณ์ที่จะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตนั้น มันไม่เหมือน ทีวี ที่ซื้อมาแล้วก็เปิดเล่นได้ทันที หรือเรียนรู้การใช้รีโมทนิดหน่อย แต่คอมฯต้องเรียนรู้หลายอย่าง ต้องจดจำขั้นตอนในการทำงานของคอมฯ สุดท้ายเมื่อเชื่อมอินเตอร์เน็ตได้แล้ว ก็ยังต้องเรียนรู้อีกหลายประการ
ได้ยินเขาถอนหายใจแล้วเขาก็พูดเสียงอ่อยๆว่า เขาคงไม่มีทางที่จะใช้งานคอมฯได้ ผมก็ถามเขาว่าเคยใช้แล้วรึ เขาก็ตอบว่าไม่เคยหรอก
ผมก็บอกเขาว่า คุณคิดแบบนี้ชีวิตของคุณจะล้าหลังตกยุค ขอให้คิดว่า อายุเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น ตอนนี้ชีวิตเรากำลังเข้าสู่วัยใหม่ที่ท้าทายความสามารถ เปรียบเสมือนตอนที่เราผ่านวัยรุ่นมาสู่วัยผู้ใหญ่นั่นแหละนะ ทำไมเราจึงผ่านมาได้อย่างราบรื่นล่ะ (แม้บางคนอาจจะไม่ราบรื่นก็เป็นส่วนน้อย)