ช่องที่ไม่ว่าง : สลายช่องว่างระหว่างวัยในที่ทำงาน


หนึ่งในสาเหตุของความเครียดในที่ทำงาน คือการที่คนหลายรุ่นหลายวัยหลายความคิดต้องมาทำงานร่วมกัน ความแตกต่างระหว่างเลขวัยที่สัมพันธ์กับเลขไมล์ของประสบการณ์ มักนำมาซึ่งความไม่เข้าใจจนก่อตัวกลายเป็นความขัดแย้งในที่สุด

          

         ได้รับ forward mail เป็นสิ่งที่ดี หากเผยแพร่ให้คนอื่น ได้ความรู้เกี่ยวกับการทำงาน บางสถานที่ วัยการทำงานมีความแตกต่างกันมาก บางสิ่งเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่เราสามารถปรับตัวเข้าหากันได้ คิดแง่ดี ทำสิ่งที่ดี มององค์กรเป็นหลัก แล้วรีบปรับตัวเข้าหากัน ความเครียดก็จะไม่เกิดคะ

            หลังออกจากห้องประชุม อลิสาฟันธงทันทีว่าคุณนัทที ที่ปรึกษาครีเอทีฟรุ่นน้าคอยจ้องจิกกัดถากถางไอเดียของเธอกลางที่ประชุมนั้น  คือตาแก่หัวดื้อผู้ไม่ยอมรับว่ายุคของตัวหมดสิ้นลงแล้ว 

            ในห้องทำงานถัดไป ฉัตรพรฝ่ายบริหารลูกค้ากำลังนึกอยากทึ้งผมตัวเองด้วยความโมโห เมื่อเธอเรียกแอน พนักงานฝึกหัดมาสอนงาน แต่กลับโดนทำหน้าว่างเปล่าใส่เหมือนกับจะบอกว่า หนูรู้หมดแล้ว

            ยินดี ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนถึงกับอึ้ง  เมื่อเธอขอร้องให้สิปปนนท์ ฝ่ายกราฟฟิค ให้ช่วยออก แบบโปสเตอร์ที่ต้องใช้ด่วน แต่เขาปฏิเสธว่าวันนี้เขาคงทำให้ไม่ได้ เพราะนัดกับเพื่อนไว้แล้ว

ช่องว่างของวัย ช่องว่างของความคิด

            หนึ่งในสาเหตุของความเครียดในที่ทำงาน  คือการที่คนหลายรุ่นหลายวัยหลายความคิดต้องมาทำงานร่วมกัน ความแตกต่างระหว่างเลขวัยที่สัมพันธ์กับเลขไมล์ของประสบการณ์  มักนำมาซึ่งความไม่เข้าใจจนก่อตัวกลายเป็นความขัดแย้งในที่สุด

            ความจริงที่อลิสา ฉัตรพรและยินดีอาจลืมเสียสนิทมีอยู่ว่า  แม้จะทำงานด้วยยากเพียงใด แต่คน ทำงานในวัยที่แตกต่างนั้นก็มีคุณสมบัติบางอย่างที่คนรุ่นเธอไม่มี  บางทีความแตกต่างอาจคือกุญแจแห่งความสำเร็จ เพียงยอมเปิดใจทำความรู้จักคนแต่ละรุ่นให้ลึกซึ้ง พวกเธออาจจะได้พบโลกกว้างใบใหม่ที่งด งามด้วยความหลากหลาย  และหากเลือกที่จะสื่อสารได้ถูกช่องถูกกลุ่มก็อาจจะได้อะไรใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึง

 

ใครเป็นใครในที่ทำงาน

            เราจะแบ่งรุ่นของเพื่อนร่วมงานในที่ทำงานให้เห็นชัดๆ ก่อน  โดยจำแนกจากช่วงปีที่เกิดซึ่งจะสัมพันธ์กับประสบการณ์ในช่วงเติบโต ทำให้เห็นยุคสมัยที่หล่อหลอมความคิดของพวกเขาได้ชัดเจนขึ้น

            กลุ่มลายครามเกิดก่อนปี 2488
            ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งกรรมการที่ปรึกษาใหญ่ หรือเป็นพนักงานวัยใกล้เกษียณ  แต่กลุ่มนี้จะมี ผู้คนนับหน้าถือตามากมาย  อันเนื่องมาจากประสบการณ์การทำงานของพวกเขายาวนานมาก       ที่สุด  คนกลุ่มนี้เกิดก่อนสงครามโลกครั้งที่สองจะยุติ  จึงเติบโตมาท่ามกลางสภาพบ้านเมืองที่มี            ทรัพยากรจำกัด ทำให้รู้จักคุณค่าของเงิน มักมีคุณลักษณะที่มั่นคง เชื่อใจได้ สู้งานหนัก ใช้จ่าย           อย่างรู้คิด และมีความภักดีต่อองค์กรสูง

กลุ่มเบบี้บูมเกิดปี 2499-2507
หลังสงครามยุติ ประเทศเข้าสู่ความสงบ การรณรงค์คุมกำเนิดยังไม่แพร่หลาย จึงเกิดพลเมืองตัวน้อยๆ ขึ้นมากมาย  เบบี้บูมเติบโตขึ้นท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันกับคนวัยเดียวกันเพื่อให้ได้งาน ยิ่งเมื่อประเทศกำลังพัฒนาไปสู่ความเป็นอุตสาหกรรม เบบี้บูมก็ยิ่งจำเป็นต้องทำงานหนักมากขึ้น อาจทำงานเต็มเหยียดวันละแปดชั่วโมงวันละหกสัปดาห์  ลูกจ้างเบบี้บูมมักเคยชินกับการพิสูจน์ตัวเองเพื่อให้นายจ้างยอมรับในศักยภาพ การก้าวไปสู่ตำแหน่งใหญ่นั้นต้องใช้เวลาและแรงผลักดันอย่างสูง

            กลุ่มเจนเนเรชั่น X — เกิดปี 2508-2523

            เจเนอเรชั่น X ลืมตาดูโลกเมื่อมนุษยชาติส่งยานอวกาศออกไปนอกโลกได้สำเร็จ ของเล่นฮิต  ของเด็กรุ่นนี้จึงไม่ใช่ม้าโยกหรือตุ๊กตาหมีอีกต่อไป  แต่คือวิดีโอ เกมกดและวอล์คแมน พวกเขา   เติบโตมาในยุครอยต่อของอนาล็อกกับดิจิตอล  ท่ามกลางเทคโนโลยีที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ     ทว่าสังคมที่เปลี่ยนแปลงในทางวัตถุกลับทำให้สถาบันครอบครัวสั่นคลอน ความภักดีในองค์กร ของคนรุ่นนี้จึงคลายลงมาก นำมาสู่การลาออกและเปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น ไม่แปลกที่ชาวเบบี้บูม ผู้ไม่เคยเกี่ยงที่จะทำโอทีจนดึกดื่น จะอึ้งที่ชาวเจนเนเรชั่น X จะปฏิเสธและอาจลาออกไปหางาน    ใหม่หน้าตาเฉย ทั้งนี้เพราะชาวเจนเนเรชั่น X เชื่อว่างานไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต

กลุ่มมิลเลนเนียมเกิดปี 2524 เป็นต้นมา

นี่คือกลุ่มคนทำงานหน้าใหม่ไฟแรงที่ยังอ่อนประสบการณ์  บางคนอาจยังเรียนไม่จบเสียด้วยซ้ำหรือมีแผนชีวิตที่จะเรียนต่อ  นี่คือกลุ่มที่โตมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งระบบการศึกษาที่เริ่มให้ความสำคัญกับการคิดมากกว่าการท่องจำ  พวกเขามีพ่อแม่ที่มีความรู้สูง จึงสนับสนุนให้ได้เสริมทักษะในด้านต่างๆ ตั้งแต่ยังเด็ก  มิลเลนเนียมจึงชอบแสดงออก  มีความเป็นตัวของตัวเองสูงและสนุกกับการทำงานเป็นทีม  ไม่ชอบอยู่ในกรอบและไม่ชอบเงื่อนไข  ดังนั้นขณะที่เจน X เปลี่ยนงานครั้งที่สิบสองไปเป็นผู้บริหารระดับสูงกินเงินเดือนเรือนแสน  มิลเลนเนียมอาจลาออกไปเริ่มธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง

สลายช่องว่างสร้างความเข้าใจ

เมื่อเข้าใจถ่องแท้แล้วว่าใครมีค่านิยมในชีวิตอย่างไร  ใครๆ ก็สามารถสร้างสะพานข้ามช่องว่างเพื่อก้าวข้ามไปหากันได้  สูตรสร้างสะพานข้ามช่องว่างระหว่างวัยมีอยู่แค่สามขั้นตอน

  • เข้าใจถึงความแตกต่าง   ยอมรับว่าคนเราถูกหล่อหลอมมาไม่เหมือนกัน คนที่มีความเชื่อหรือ                                   ทัศนคติต่อชีวิตไม่เหมือนคุณ ไม่ใช่คนไม่ดีเสมอไป
  • ชื่นชมจุดดี                    แทนที่จะต่อต้าน ให้มองหาจุดเด่นในคนแต่ละกลุ่มให้พบ  
  • บริหารความแตกต่าง      เปลี่ยนวิธีสื่อสารให้เข้าถึงคนที่ต้องทำงานด้วย

ทำงานกับกลุ่มลายคราม

ให้เกียรติและความเคารพอย่างสูงต่อพวกเขา เมื่อคุณให้เกียรติผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็จะให้เกียรติคุณ ถ้าบังเอิญคุณมีตำแหน่งสูงกว่าพวกเขา จงแสดงความชื่นชมในความเป็นเสาหลักขององค์กร และรับฟังเมื่อพวกเขาถ่ายทอดประสบการณ์ในอดีต  ประวัติการต่อสู้และการร่วมใจกันจนผ่านพ้นความยากลำบาก เพราะนั่นคือสิ่งที่คนรุ่นหลังไม่มีและไม่รู้จัก อย่ามองว่าการที่กลุ่มลายครามคือหมาล่าเนื้อที่ไม่มีที่ไป แต่ที่พวกเขาทำงานจนเกษียณเพราะพวกเขาเชื่อในคุณค่าของความมั่นคงและซื่อสัตย์เป็นที่สุด

ทำงานกับกลุ่มเบบี้บูม    

แสดงความนับถือ รับฟังและเรียนรู้จากประสบการณ์ของเบบี้บูมแล้วพยายามปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ ไม่ว่าคุณจะเก่งกาจหรือประสบความสำเร็จเพียงใด  คุณก็ยังต้องเรียนรู้อยู่เสมอ  อย่าแสดงออกว่าการทำงานหนักคือการถูกเอาเปรียบ  เพราะเบบี้บูมให้คุณค่าต่อการทำงานอย่างทุ่มเท  ในองค์กรใหญ่ๆ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและบริหารโดยเบบี้บูม  ควรพยายามเรียนรู้วัฒนธรรมองค์กรก่อนว่ามีการเจริญเติบโตมาอย่างไร ก่อนที่จะเสนอให้ริเริ่มการเปลี่ยนแปลงใดๆ  

ทำงานกับกลุ่มเจเนเรชั่น X

ต้องพูดให้กระชับ ชัดเจน ไม่อ้อมค้อม เจเนเรชั่น X ชอบความตรงไปตรงมา คุณสามารถใช้อีเมล์กับกลุ่มนีได้ถ้าคิดว่าอีเมล์จะช่วยให้ได้ใจความและตรงเป้าหมายมากขึ้น แต่ถ้าเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ ควรพูดกันต่อหน้า  คนกลุ่มนี้ไม่ชอบถูกบงการ ผู้ใหญ่แค่ให้นโยบายกว้างๆ แล้วเปิดโอกาสให้เขาแก้ปัญหาต่อเองจะดีที่สุด  เบบี้บูมควรลดความหวังว่าเจนเนเรชั่น X จะทำงานหนักไม่มีวันหยุดและก้าวไปอย่างช้าๆเหมือนตน คนกลุ่มนี้ต้องการชีวิตที่สมดุลและไม่ชอบการอยู่ติดที่ 

ทำงานกับกลุ่มมิลเลนเนียม
ท้าทายพวกเขาด้วยภารกิจใหม่ๆ มิลเลนเนียมชอบความเป็นคนสำคัญ  การได้เพิ่มความรับผิดชอบเหมือนการให้คำชม  จะถูกใจมิลเลนเนียมมากถ้าเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความคิดเห็นเหมือนเป็นหนึ่งในทีม  ผู้ใหญ่ที่ยอมรับพวกเขาจะได้รับการยอมรับจากพวกเขาด้วยโดยอัตโนมัติ   พวกเขาชอบให้คุณปฏิกิริยาต่อสิ่งที่เขาทำทุกขณะจิต   ความคิดเห็นของเพื่อนร่วมงานสำคัญกับพวกเขามาก

แค่เข้าใจ ทุกอย่างก็ลงตัว

            หลังออกจากห้องประชุมตอนเที่ยง อลิสาก็เข้าใจแล้วว่าคุณนัททีกำลังพยายามเตือนเธอว่าแผนโฆษณาของเธอนั้นลืมคำนึงถึงจริยธรรมทางสังคม คุณนัททีเคยถูกสื่อถล่มเละมาแล้วเพราะสาเหตุนี้

            ในห้องทำงานถัดไป ฉัตรพรขอความคิดเห็นจากแอนว่าถ้าเป็นแอน จะตัดสินใจกับลูกค้ารายนี้อย่างไร แอนตาประกายขณะแสดงความคิดของเธอด้วยความกระตือรือร้น

            ยินดีบอกสิปปนนท์ว่าถ้าแบบไม่เสร็จวันนี้เธอจะไม่ได้งานภายในวันศุกร์  สิปปนนท์จึงโทรศัพท์เช็คโรงพิมพ์ใหม่และได้คำตอบว่าทำได้หากส่งแบบก่อนพรุ่งนี้เที่ยง  สิปปนนท์รับปากจะรีบทำงานให้เสร็จก่อนสิบเอ็ดโมงวันพรุ่งนี้  เพื่อให้ยินดีตรวจสอบก่อนส่งโรงพิมพ์

            หัวใจสำคัญของการปิดช่องว่าง คือการเคารพในกันและกัน เมื่อคนรุ่นหลังเคารพในประสบการณ์ของคนรุ่นก่อน และคนรุ่นก่อนยอมเปิดใจกว้างรับความกระตือรือร้นที่สดใหม่ของคนรุ่นหลัง ที่ทำงานจะมีคนสักกี่รุ่นกี่วัยก็ย่อมไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

หมายเลขบันทึก: 103228เขียนเมื่อ 14 มิถุนายน 2007 12:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
  • เกิด 2523 ค่ะ
  • แต่รู้สึกว่าตัวเองกำกึ่ง generationX กับ มิลเลเนี่ยม
  • แต่ส่วนใหญ่ก็ตรงความเป็นจริงค่ะในฐานะที่เป็นคนทำงานกับคนหลายๆกลุ่มคนหนึ่ง
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท