การที่ใครคนใดคนหนึ่งจะหันมาสนใจเรื่องใดเป็นพิเศษ คงต้องมีเหตุ หรือที่มาที่ไปจริงไหมครับ ผมเองก็เช่นกัน
ช่วงที่ผมเป็นเด็กผมห้อยพระและวิ่งเล่นตามประสาเด็กในระแวกบ้าน บางครั้งก็วิ่งลอดใต้ราวตากผ้าบ้าง ผู้เฒ่าผู้แก่ และญาติๆของผมก็มักตักเตือนว่า...
"อย่าวิ่งลอดใต้ราวตากผ้า เดี๋ยวพระ (พุทธคุณ)จะเสื่อม"
ผมก็ฟัง แต่ในใจก็สงสัยว่า เอ๊...มันเกี่ยวข้องกันได้ไงน๊อ??? จนกระทั่ง ผมได้ยินแม่เล่าให้ฟังว่า "วันนั้นแม่ได้ยินคนถามหลวงปู่ว่า...ถ้าห้อยพระของหลวงปู่แล้วมีข้อห้ามอะไรบ้าง ลอดใต้ราวตากผ้า พุทธคุณจะเสื่อมไหม"
ผมทึ่งกับคำตอบของท่านมาก ท่านตอบว่า
"ไม่ห้าม จะลอดใต้ราวตากผ้าก็ได้ ข้าไม่กลัวของข้าเสื่อม แต่ข้ากลัวว่าแกจะเสื่อมจากพระซะมากกว่า"
คำตอบของท่านเหมือนเป็นการปลุกผมให้ตื่นจากความเชื่อเดิมๆซึ่งเชื่อแบบไร้ปัญญา หรือเรียกได้ว่าเป็นความศรัทธาที่ปราศจากความเห็นที่ถูกต้อง (สัมมาทิฐิ)
สวัสดีค่ะ
แหม ถูกใจจริงค่ะ เคยสงสัยแบบนี้หละ แล้วไม่เคยเชื่อที่คนบอกเลยว่า ห้อยพระ แล้วลอดราวตากผ้า พุทธคุณจะเสื่อม ก็ ถ้ามันจำเป็นต้องลอด ไม่มีทางอื่นอีก ก็แย่เลย
แต่อย่างไร ใจเราก็อยากเดินที่กว้างๆดี ไม่ต้องไป ลอดโน่นนี่ ให้เมื่อยหรอกนะคะ
สวัสดีค่ะน้องข้ามสีทันดร
ชอบที่ท่านตอบว่า "แต่ข้ากลัวว่าแกจะเสื่อมจากพระซะมากกว่า"
ตรงดี เข้าประเด็นค่ะ พระไม่เสื่อมหรอกค่ะ... คนต่างหากที่เสื่อมเพราะการปฏิบัติไม่ดี ไม่ชอบ ... ขอบคุณที่นำมาเล่าสู่กันฟังนะคะ ^ ^
ห้อยพระไว้ในใจครับ ทำยังงัยก็ไม่เสื่อมแน่นอนครับ...
ขอบคุณมากครับ...
คำคม จริงๆ ครับ
แต่ข้ากลัวว่าแกจะเสื่อมจากพระซะมากกว่า"
มาเยี่ยมเยียน .. ขอบพระคุณครับ
สวัสดีครับ
ถูกต้องเลยครับ ที่คุณ sasinanda บอกว่า ใจเราก็อยากเดินที่กว้างๆดี ไม่ต้องไป ลอดโน่นนี่ ให้เมื่อย แต่ว่าความสงสัย ค้างคาใจมันมีอยู่ ตั้งแต่ผมเข้าใจว่า อย่ากลัวว่าพระจะเสื่อม แต่ให้กลัวจะเสื่อมจากพระ มุมมองในการนับถือศาสนาพุทธของผมจึงเปลี่ยนไป และคิดว่าหลายๆท่านในนี้ก็นับถือโดยใช้ปัญญามากกว่า...งมงาย
ขอบคุณมากครับ
สวัสดีครับพี่
ผมชอบอ่านหนังสือของท่านปัญญานันทภิกขุ ครับ เรื่องของการปฏิบัติตัว เรื่องของการเข้าถึงแก่นพุทธศาสตร์
ผมมักหัวแข็ง ใช้เหตุผลอยู่มาก จนคนรอบข้างว่าผมดื้อมากไป แต่ผมมองว่าบางครั้งเราต้องมองให้ทะลุสิ่งที่มันครอบเราอยู่ มายาคติหรืออะไรต่างๆ
ผมไม่ชอบห้อยพระ เพราะผมไม่ชอบที่มีอะไรแขวนบนตัว ผมไม่มีนาฬิกา นิ้วก็มีแหวนเกลี้ยงๆที่แม่ให้ ๑ วง ใส่ไว้ในนิ้วนาง จนคนอื่นๆแซวว่ามีคู่มั่นคู่หมาย จะสลับนิ้วก็ไม่ได้ เพราะมันเหมาะเจาะเอานิ้วนางผมพอดี
.....
เรื่องราวก็มีแบบนี้หละครับ
สวัสดีครับพี่กมลวัลย์...
สวัสดีค่ะคุณข้ามสีทันดร
สวัสดีครับเอก...
สวัสดีครับคุณน่านฟ้าทะเลลม
สวัสดีครับคุณ
พระบ้านนอกอย่างหลวงปู่ดู่ หลวงปู่บุดดา หลวงปู่ชา ฯลฯ ท่านช่างมีความสามารถหาคำพูดที่เรียบง่าย กระทัดรัด แต่โดนใจ มาโต้ตอบ(คำถาม)ลูกศิษย์ลูกหาได้ดีแท้
ฟังแล้วรู้สึกดีจังเลยครับ
เยี่ยมมากเลยครับ ไม่กลัวว่าพุทธคุณจะเสื่อมกลัวผู้คนเสื่อมจากพุทธคุณมากกว่า ที่คือปราชญ์ครับ
แต่เรื่องคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ก็มีที่มานะครับ อาจจะเป็นเพราะว่าแต่ก่อนมีครูบาอาจารย์หมอมนต์หมอผี หมอพราร์ม ท่านต้องปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ วางตนให้เป็นที่เคารพอยู่มากพอสมควร กิริยาอาการบางอย่างก็เป็นข้อห้ามของคน "มีของ"
การไม่ลอดราวผ้าเป็นการวางตนให้น่าเคารพ การรักษาสิ่งของที่ศักดิ์สิทธิ์ในความเชื่อ จำต้องมีพิธีการที่ต่างจากสิ่งของปกติ หรือผู้คนปกติทั่วไป
เหมือทางเหนือ ห้ามผู้หญิงเข้าไปในเขตพระธาตุ ไม่ใช่เป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชนแบบหัวชนฝาหรอกครับ แต่นั่นเป็นภูมิปัญญา เป็นความแยบยลอันหนึ่งที่ไม่ควรดูแคลนและมองข้าม ตรงข้ามอาจมีปรัชญาบางอย่างแฝงไว้
ลอดหรือไม่ลอด ไม่สำคัญ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้ จากงานของผมที่ต้องเดินไปตามหลังคาเรือนในหมู่บ้าน ก็คือ
1. บ้านที่มีระเบียบเรียบร้อยก็ไม่ทำราวตากผ้าไว้ในที่จะต้อนรับผู้คน หรือเป็นทางที่ต้องเดินไปมา
2. หากไม่เดินลอดไปบางทีเราต้องเดินอ้อมไป ผมสังเกตว่า ผู้คนที่มีความเชื่อเช่นนี้พอเห็นผมปฏิบัติแล้ว ดูพูดชื่นชมผมประมาณว่า หมอเขาเป็นคนถือ หมายถึงว่าอาจจะมีครูบาอาจารย์ คาถา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำนองนั้น
3. แต่ถ้าไม่ค่อยมีชาวบ้านเดินตามเราผมก็ไม่กลัวหรอกครับที่จะลอดไปเลย พระที่ห้อยคออยู่ ผมก็ยังนับถือท่านแล้วก็นึกถึงพระพุทธเจ้าอยู่เสมอ ไม่มีเสื่อม แน่นอนอย่างที่คุณเล่ามานั่นล่ะครับ
ขอบคุณมากที่นำบันทึกนี้มาให้
ท่านคงไม่ได้ใช้ความพยายามในการหาคำตอบมาตอบ แต่ท่านน่าจะเรียกจากฐานข้อมูลที่ท่านได้เก็บไว้ก็เลยสามารถใช้ได้ทันที
ขออนุญาตเล่าประสบการณ์ให้อาจารย์ฟังเล็กน้อยครับ
ผมอ่านคำสอนของหลวงปู่ดูลย์ แล้วกลับมาอ่านคำสอนหลวงปู่ดู่ ท่านมีวิธีการสอนและคำสอนที่คล้ายกันมาก พอโตขึ้นมาได้อ่านของหลวงปู่ชา และฟังคำสอนหลวงปู่บุดดา ก็เลื่อมใสในปัญญาและความเข้าใจลึกซึ้งในธรรมของท่าน
แต่เรื่องพระอาจารย์ใบลานเปล่าทำให้ผมฟังธรรมของใครได้หมดเลย เลือกที่จะหยิบของดีมากิน มากกว่าจ้องหาของเสียในจานครับ
ขอบพระคุณมากครับ
ด้วยความยินดีครับพี่สุมิตรชัย ที่เข้าทักทาย