อัตโนมติ สรุป : มิตร สหาย


ตัวเราเอง อยู่ร่วมกับตัวเราตลอด ไม่เคยพรากจากกัน ร่วมธรรมกัน มีธรรมคู่เคียงกันตลอดๆมา ไม่มีใครมีเวลาอยู่กับเราได้มากเท่าเราหรือเสมอเราอีกแล้ว. ตัวเรานี้ล่ะ เป็นสหายอย่างยิ่ง ยิ่งกว่าสหายทั้งปวง
มิตร คือ ผู้ให้เมตตาจิต.
สหาย คือ ผู้ร่วมทางชีวิต.



ความว่า สหาย

สัตว์ทั่วทั้ง๓ภพ ไม่มีตัวใด พ้นความว่าเป็นสัตว์ ที่ยังวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏฏ์ ท่องเที่ยวไปจากภพสู่ภพ ซึ่ง นี่คือทางชีวิตของสัตว์.  เรียกสัตว์ทั้งสามภพว่า เป็นสหายในกันและกัน เพราะมีทางชีวิตอันเดียวกัน โดยนัยแห่งความเป็นสัตว์เหมือนกัน.

ในสัตว์ทั่วทั้ง๓ภพนั้น. สัตว์ในอรูปภพย่อมเป็นสหายแก่กันและกันยิ่งกว่าความเป็นสหายกับสัตว์ในรูปภพและกามภพ.   คือ พวกที่อาศัยอรูปภพ ชื่อว่าเป็นสหายกับพวกที่อาศัยอรูปภพ เพราะเหตุแห่งภพ เขาร่วมอาศัยในภพประเภทเดียวกัน มีทางชีวิตอยู่ในลักษณะแห่งอรูปภวะ แต่ไม่นับว่าเป็นสหายกับสัตว์ในรูปภพและกามภพ   นี่ความเป็นสหายสิ้นไปเพราะเหตุที่อาศัยภพเป็นเครื่องจำแนก.   แม้สัตว์ในรูปภพและกามภพ ก็ไม่อาจนับว่าเป็นสหายข้ามภพกัน ด้วยอาศัยธรรมคือ ภพเป็นเครื่องจำแนก.

สัตว์ในกามภพ คือ เทวดาและมนุษย์เป็นต้นนี้  ชื่อว่าเป็นสหายแก่กันด้วยนัยแห่งกามภพ คือ จิตท่องเที่ยวโคจรไปในวิสัยแห่งกามารมณ์ คือ ทางเดินชีวิตจิตใจของเขา  นี่นับเป็นสหายกันในกามภพ.  แต่เมื่อจำแนกให้ละเอียดเข้าเป็นภูมิๆไป พวกมนุษย์ไม่นับว่าเป็นสหายของเทวดาในภูมิอื่น แม้จะร่วมภพกัน แต่ไม่ร่วมภูมิกัน.  ธรรมคือความเป็นสหายในระหว่างมนุษย์ย่อมยังมีอยู่ แต่ความเป็นสหายกับเทวดาไม่มีอยู่ เพราะเหตุแห่งภูมิที่อาศัยอยู่ เป็นเครื่องกำหนดทางชีวิตของสัตว์นั้นๆ.

ในหมู่มนุษย์๔เหล่า คือ ชมพูทวีป ปุพพวิเทหะ อมรโคยานะ และ อุตตรกุรุทวีป  ชื่อว่าเป็นสหายกันเพราะความเป็นมนุษย์   แต่เมื่อจำแนกออกด้วยทวีปแล้ว  มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในชมพูทวีปนับเป็นสหายแก่กันและกัน  แต่ไม่นับเป็นสหายแก่ทวีปอื่นๆ  นี่เมื่อจำแนกความเป็นสหายด้วยทวีป ในหมู่มนุษย์.

ในชมพูทวีปนี้ล่ะ  มีประเทศที่อยู่ทางฝั่งโน้นของมหาสมุทร และฝั่งนี้ของมหาสมุทร   มนุษย์ชมพูทวีปทั้งสิ้น นับว่าเป็นสหายในกันและกัน ด้วยเหตุแห่งทวีป.  แต่เมื่อจำแนกออกเป็นประเทศๆแล้ว มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในประเทศเดียวกัน ชื่อว่าอยู่ร่วมประเทศ  แต่ไม่ชื่อว่าอยู่ร่วมประเทศกับมนุษย์ในประเทศอื่น  อย่างนี้ ชื่อว่า เขาเป็นสหายกันแม้จำแนกด้วยประเทศ  แต่ไม่เป็นสหายกับมนุษย์ในประเทศอื่น เพราะไม่ร่วมประเทศกัน.

มนุษย์ในประเทศเดียวกันนั้นล่ะ เป็นสหายกันและกันเพราะเหตุที่ร่วมประเทศ  แต่ เมื่อจำแนกประเทศออกเป็นพื้นที่ย่อยๆ เป็นจังหวัดหรือมลรัฐแล้ว  มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดเดียวกัน นับเป็นสหายกันด้วยนัยแห่งความร่วมจังหวัด แต่ไม่นับเป็นสหายกับมนุษย์ในจังหวัดอื่น เพราะความที่ไม่ร่วมจังหวัดกัน.

ก็มนุษย์ในจังหวัดเดียวกันนั้นล่ะ นับเป็นสหายกันเพราะเหตุที่อยู่ร่วมจังหวัด.  แต่เมื่อจำแนกจังหวัดออกเป็นอำเภอๆแล้ว มนุษย์ในอำเภอเดียวกัน ร่วมอำเภอกัน นับว่าเป็นสหายในกันและกัน แต่ไม่เป็นสหายกับมนุษย์ในต่างอำเภอ ด้วยเหตุแห่งความว่า อยู่ร่วมอำเภอกัน.

จำแนกเป็นตำบล...  หมู่บ้าน... คุ้ม..  ซอย..  ตรอก..  กลุ่มเรือน..

ก็มนุษย์ในครอบครัวเดียวกันนั้น ย่อมนับเป็นสหายของกันและกันเพราะเหตุที่อยู่ร่วมครอบครัว.  แต่ไม่นับว่าเป็นสหายกับมนุษย์ในครอบครัวอื่น

ก็ในครอบครัวหนึ่งๆนั้น มนุษย์ที่มีพ่อแม่ร่วมกัน เรียกว่าเป็นพี่น้องกัน ย่อมนับเป็นสหายกันเพราะเหตุที่มีพ่อแม่ร่วมกัน. แต่ไม่นับเป็นสหายกับมนุษย์คนอื่น ด้วยเหตุแห่งความร่วมพ่อแม่.  นี่ก็เป็นสหายประเภทหนึ่ง.

สรุป


ความเป็นสหาย ย่อมมีชั้นเชิงลดหลั่นกันไปตามปัจจัยที่ใช้จำแนก   ส่วนใดที่อยู่ร่วมปัจจัยกัน ก็นับเป็นสหายกัน  ส่วนใดพ้นไปจากการอยู่ร่วม ก็ไม่นับเป็นสหายด้วยอาศัยปัจจัยนั้น.

เรียกปัจจัยที่ใช้จำแนกบุคคลหรือกลุ่มบุคคลเหล่านั้นโดยรวมๆว่า ธรรม.  ความว่าเป็นสหายกัน จึงจำแนกออกด้วยเหตุที่ มีธรรมร่วมกัน.  คือ ร่วมกันในธรรมใด ก็เป็นสหายกันในธรรมนั้น.

สหายยิ่งกว่าสหาย

ในบรรดาสหายทั้งหมด เมื่อจำแนกปัจจัยต่างๆว่า ใครที่ร่วมธรรมกับเรามากที่สุด คือ
1.ทรงความเป็นสัตว์เหมือนเรา
2.อยู่ในกามภพเหมือนเรา
3.อยู่ในมนุษย์ภูมิเหมือนเรา
4.อยู่ในชมพูทวีปเหมือนเรา
5.อยู่ในประเทศไทยเหมือนเรา
6.อยู่ในจังหวัดเดียวกัน
7.อยู่ในอำเภอเดียวกัน
8.อยู่ในตำบลเดียวกัน
9.อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน
10.อยู่ในถนน-ซอย-คุ้มเดียวกัน
11. อยู่ในเรือนหลังเดียวกัน
12. ทำกิจกรรมต่างๆร่วมกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน.

พิจารณาตั้งแต่เกิดจนถึงวันตาย
 ใครมีส่วนร่วมธรรมกับเรามากที่สุด ให้เวลากับเรามากที่สุด มีธรรมคู่เคียงกับเรามากที่สุด  นั่นนับว่า เป็นสหายยิ่งกว่าสหาย.

เมื่อพิจารณาแล้ว พระพุทธเจ้าตรัสตอบเทวดาไว้ว่า
ภรรยา เป็นสหายอย่างยิ่ง.

นี่พิจารณาความเป็นสหาย ที่ไม่นับตัวเราเองเข้าไปในคำว่าสหายด้วย.  แต่ เมื่อนับตนโดยนัยแห่งความเป็นสหายแล้ว.   ตัวเราเอง อยู่ร่วมกับตัวเราตลอด ไม่เคยพรากจากกัน ร่วมธรรมกัน มีธรรมคู่เคียงกันตลอดๆมา  ไม่มีใครมีเวลาอยู่กับเราได้มากเท่าเราหรือเสมอเราอีกแล้ว.  ตัวเรานี้ล่ะ เป็นสหายอย่างยิ่ง ยิ่งกว่าสหายทั้งปวง
คำสำคัญ (Tags): #คุณธรรมน้ำมิตร
หมายเลขบันทึก: 102596เขียนเมื่อ 11 มิถุนายน 2007 21:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
เห็นอย่างยิ่งครับตนนั่นแหละเป็นสหายของตนเองยิ่งกว่าสหายใดๆๆในโลกนี้
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท