KM ,LO ต้องใจเย็น...


การทำ KM ,LO ไม่มีวันจบ

      เหล่าทีมคุณอำนวยของปูนแก่งคอย ได้ตั้งวงเสวนากันถึงแนวทางที่จะดำเนินการต่อหลังจากที่ โครงการส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ จะเสร็จสิ้นโครงการโดยที่พนักงานทุกคนจะผ่านโครงการนี้ครบในกลางปีหน้า...ก็มีคำถามต่อว่าเราจะติดตามเก็บดอกผลอย่างไร...

      เราเปรียบช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมาเหมือนการปลูกพืช  ที่เริ่มตั้งแต่การเตรียมดิน การคัดพันธ์ต้นกล้า  จนถึงการปลูกต้นกล้า ลงไปในดินแล้ว ตอนนี้เราประเมินกันว่าต้นกล้าที่เราปลูกไปแล้ว เริ่มงอกงามขึ้นมาแล้ว โดยการสังเกตจากพฤติกรรม และบรรยากาศในการทำงานร่วมกัน ดีขึ้นจากแต่ก่อนมาก ..

     เราจึงคิดกันว่า ในโครงการต่อไป ที่จะเริ่มดำเนินการในกลางปีหน้าจึงน่าจะเป็นการใส่ปุ๋ย รดน้ำพรวนดิน ให้ต้นกล้าที่เราปลูกลงไปนั้นเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ ....การทำ KM,LO ต้องใจเย็น ไม่รีบร้อน เปรียบเหมือนกับการปลูกต้นไม้  ซึ่งหากเราปลูกแล้ว ไม่ใส่ใจ ปล่อยให้เติบโตเอง ดีไม่ดี ต้นไม้อาจตายหรือแคระแกรนซะก่อน ..จึงเป็นหน้าที่ของทีมคุณอำนวย ที่จะช่วยกันดูแลเอาใจใส่ สร้างกระบวนการอย่างต่อเนื่อง ...

     ฉะนั้นหากจะพูดว่า การทำ KM ,LO ไม่มีวันจบก็คงได้ เพราะองค์ความรู้ที่ได้จะมีการต่อยอด พัฒนาการไปเรื่อยอย่างไม่มีวันหยุด...การทำ KM,LO จึงไม่ต่างไปจากการทำเกษตร หรือปลูกต้นไม้  หากมีการเตรียมการดี ดูแลดี ก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้นาน...ครับ..

คำสำคัญ (Tags): #km lo
หมายเลขบันทึก: 102408เขียนเมื่อ 11 มิถุนายน 2007 09:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 14:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)
  • ตามเข้ามาเรียนรู้ครับ
  • อยากไปร่วมสังเกตวิธีการเหมือนกันครับ
  • เอาไว้จะติดต่อกลับไปครับ

ขอบคุณครับ....

  • อ.beeman ..การสังเกตอาจต้องใช้เวลาครับ ดูจากพฤติกรรมของกลุ่มพนักงาน ครับ

สวัสดีครับคุณภูคา

เข้ามาเรียนรู้เช่นกันครับ ผมชอบที่เปรียบเทียบว่าการทำ LO และ KM เหมือนการปลูกต้นไม้ เพราะผมก็อยู่ในวงการเกษตรคนหนึ่ง เข้าใจง่ายดีและเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าการเตรียมดินที่ดีจะทำให้ระบบรากพืชแข็งแรง หยั่งรากลงลึก ทำให้พืชมีภูมิต้านทาน ถ้าคนในองค์กรเข้าใจ และทำด้วยใจเท่ากับองค์กรก็จะแข็งแกร่งเช่นกันครับ

ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับ..คุณข้ามสีทันดร..ยินดีแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันครับ ปัจจุบันมักจะชอบปลูกต้นไม้ที่ล้อม ซะมากกว่า ปลูกวันนี้พรุ่งนี้โต..แต่คงลืมกันไปว่าเวลาล้อมรากแก้วถูกตัดไปแล้ว เมื่อนำไปปลูกใหม่ก็เลยไม่มีรากแก้ว  ทำให้ต้นไม้ไม่มีความมั่นคง..โดนลมพัดนิดเดียวก็ล้ม...

เรียนท่าน ภูคา บางหน่วยงานต้อง ไปป่าเร็ว ครับ ส่งหน่วยเหนือ ใจเย็นไม่พอ รอไม่ไหวจ้า
ขอบคุณท่านอาจารย์ JJ อย่างยิ่งครับ...เห็นด้วยกับอาจารย์ครับ บางหน่วยงานที่จำเป็นต้องลุยเข้าป่าไปหาผลเพื่อส่ง หน่วยเหนือ เพราะเป็นสถานการณ์บังคับ..ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละองค์กรนะครับว่าต้องการแบบไหน บางองค์กรเห็นผลเร็ว..ก็อาจไม่ต้องปลูกต้นกล้าก็ได้  ครับผม..แต่ในส่วนลึกของคนที่ทำ KM ,LO ผมเชื่อส่วนใหญ่อยากลองเพาะต้นกล้าเอง..มันท้าทายดีครับผม..

เรียน ท่านอาจารย์ ภูคา

 ใช้ KM ต้องเติมเต็ม ซึ่งกันและกัน นับวันถึงวัน เมื่อไหร่ตะวันจะเห็น LO ร่วมเติบ ร่วมโต ไชโยที่ร่วมเติมเต็ม

ท่านภูคา

ปัจจุบันสิ่งแวดล้อมถูกทำลายไปก็เยอะ ภัยธรรมชาติก็แยะ  ต้นไม้ที่มั่นคงแข็งแรงเท่านั้น ถึงจะมีชีวิตอยู่ได้  เหมือนกับท่านเปรียบ...มันต้องหยั่งลึกถึงรากแก้ว....และต้องใช้เวลา เพียงแต่คนเลี้ยงดูต้องอดทนจริง ๆ ....ขอบคุณที่เปรียบให้เห็นภาพ และเข้าใจในบริบทขอความเป็น KM, LO ค่ะ....

ขอบคุณครับ...

  • ท่านอาจารย์ JJ..ขอบพระคุณอย่างสูงครับ ที่ช่วยเติมเต็ม  ผมคิดว่าคนที่ทำ KM ,LO ต้องเป็นนักเรียนรู้ตลอดเวลา..พร้อมที่จะเติมทุกเวลา ..ครับผม (ผมไม่กล้ารับคำว่า "อาจารย์" เลยครับ)
  • คุณสมพร..การทำ KM ,LO ในใจลึกๆผมอยากให้เกิดความยั่งยืนครับ ..ต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับตนเอง องค์กร และชุมชน หากแม้จะส่งผลถึงระดับชาติได้ก็จะดีอย่างยิ่งครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องใช้เวลา ครับผม..
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท