เนื่องจากช่วงนี้ข้าพเจ้าได้มีโอกาสสวดมนต์มากขึ้น จากการที่ข้าพเจ้าได้ตัดสินใจตั้งใจจะสวดมนต์ทุกเย็น หลังจากเลิกงานก่อนทานข้าว บางครั้งข้าพเจ้าก็คิดว่าคนเรานี้ก็แปลกพยายามตั้งกฎเกณฑ์ให้ตัวเองตั้งมากมาย แต่ทำบ้างไม่ทำบ้าง ซึ่งบางครั้งข้าพเจ้าก็มองว่าการทำเช่นนี้บางครั้งก็ทำให้เราเครียดได้เหมือนกัน และก็นั้นแหละการปล่อยาางตามอารมณ์ความรู้สึกก็จะมีผล แต่การตั้งมั่นที่จะทำด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นที่จะำทำมันทำให้เรารู้สึกดีเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อวานตอนเย็นข้าพเจ้าคิดไปในขณะสวดมนต์ไปด้วย แต่ก็นะ ความจริง แล้วอันที่จริงการสวดมนต์ทำให้เรามีสมาธินะ ก็แว็บหนึ่งที่ ข้าพเจ้านึกขึ้นได้ เกี่ยวกับการตั้งใจจะกระทำนี้แหละ ความตั้งใจแรกข้าพเจ้าคิดว่า การชำระร่างกายก่อนสวดมนต์เป็นสิ่งดี เพราะจะทำให้เราพร้อม หรือทำให้เราสบายก่อนการสวดมนต์ แต่ข้าพเจ้ามีความตั้งใจและมุ่งมั่้นด้วยจิตที่ดี และนึกถึงภาพยนตร์เรื่อง องค์คุลีมาร นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ มีฝนตกมีความชุ่มชื้น แต่ก็มีเหงื่ออยู่บ้าง ทำให้ทึกทักเราว่า แท้ที่จริงเราเองต่างหากที่ตั้งกฎเกณฑ์มากมายกับตัวเองเราก็ฐาน ทั้ง 4 แต่จิตต่างหากที่เป็นของแท้ เราก็ตั้งใจสวดมนต์ให้เทวดาที่สิงสถิตอยู่ในละแวกนั้นมาร่วมสวดมนต์กับเรา
ก่อนสวด ข้าพเจ้าก็กราบระลึกถึงคุณ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระคุณบิดามารดา พระคุณครูบาอาจารย์ และตั้งใจสวด เกิดความปิติ อยู่แว๊บหนึ่งความรู้สึกสบาย อย่างบอกไม่ถูก เหมือนจะร้องไห้ เป็นความรู้สึกดีมาก ๆ หลายครั้งที่ข้าพเจ้ารู้สึกแบบนี้คือ ความศรัทธาต่อการกระทำของเราด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ มันทำให้เราสบายอย่างนี้ทุกครั้งที่สวดมนต์ อย่ารีรอที่จะทำกรรมดีกับตัวเรา เพราะท่านพระอาจารย์หลวงพ่อจรัสท่านได้เคยบอกไว้ ว่า สวดมนต์เป็นยาทา วิปัสสนา เป็นยาแก้
ขอให้เรามีดวงจิตที่บริสุทธิ์ และ หลุดพ้นจากบ่วงกรรมที่ทำไว้ในอดีตชาติ อาจเกิดจาก ความโมโห หรือ ขาดความหยังคิดเพราะกิเลศค่อยบังการเราอยู่ขอให้ทุกท่านสงบสุข สู่นิพพานของความหลุดพ้น
มาเยี่ยม...คุณทำดีแล้วครับ
การสวดมนต์ทำสบายใจนะครับ
อ่านยากจัง...
ถ้าเว้นวรรคและย่อหน้าขึ้นบรรทัดใหม่บทบันทึกคุณจะน่าติดตามอ่านมากนะครับผม