เห็นหัวข้อนี้ คงสงสัยนะครับว่า เกี่ยวอะไรกับการเกษตร ย้อนมาถึงชีวิตวัยเด็กของเด็กชนบทอย่างผมหน่อย เวลาฝนตกนี่เป็นเวลาที่มีความสุขมาก เพราะจะได้ แก้ผ้าเล่นน้ำฝน นอกจากเล่นน้ำฝนแล้ว ได้เล่นน้ำที่ไหลจากรางน้ำ เล่นโคลนในที่น้ำขังแฉะๆ โอ้ย! สนุก พ่อแม่ก็ไม่ห้าม เล่นเสร็จก็ไม่เป็นหวัดอีก แต่แต่ทำไมตอนโตแล้วถึงเป็นหวัดได้ง่ายดายเหลือเกิน
เข้าเรื่องก็แล้วกันนะครับ เช้าวันนี้ผมได้ขุดหลุมเพื่อเตรียมปลูก แตงกวา (แตงไข่เข้ ภาษาบ้านผม ลูกเล็กๆ สั้นๆ) กับฟักเขียว ที่เพาะเอาไว้จนขึ้นต้นแล้ว รอปลูกตอนเย็นๆ ตอนสี่โมงเย็นผมลงไปปลูก พอลงไปถึงสวน ฝนก็เริ่มตกลงมาผมก็ตัดสินใจปลูกกลางฝนเลย ขณะที่ฝนกำลังตก ก็ทำให้คิดถึงชีวิตวัยเด็กตามที่เกริ่นนำไป ยิ่งปลูกไปฝนก็ยิ่งตกหนักขึ้นๆ ยิ่งสนุก แต่สุดท้ายก็ปลูกไม่ได้เพราะดินในถุงเพาะเละ เทออกมาไม่ได้ ถุงเพาะ(ถุงดำ) ผมไม่ฉีก ไม่กรีดนะครับ ใช้วิธีคว่ำถุงเอามือซ้ายรับ มือขวาดึงก้นถุงขึ้น ก็สามารถเอาถุงมาใช้ได้อีกหลายรอบ
การปลูกผักกลางฝนรอบนี้ทำให้ผมได้รู้ว่า ที่ที่ผมปลูกนั้นน้ำขัง ต้องขุดคูเพื่อระบายน้ำอยู่นานพอสมควร รวมระยะเวลาที่ผมตากฝนอยู่ประมาณชั่วโมงครึ่ง มีเคล็ดลับอยู่ว่าตากฝนแล้วให้รีบอาบน้ำจะทำให้ไม่เป็นหวัด หรือเป็นไข้ ไม่รู้จริงหรือเปล่านะ แต่ตอนนี้ยังไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด อาจเพราะน้ำฝนที่ตกลงมาแถวบ้าน ยังสะอาดอยู่ ถ้าอยู่กรุงเทพฯ จ้างให้ผมก็ไม่กล้าตากฝน :)
เคยฟังอาจารย์ แพทย์ เชี่ยวชาญโรค ติดเชื้อ สอนว่า
ถ้าจะเล่นน้ำฝน ให้รอให้ฝนตกเยอะสักครู่ ค่อยเล่น
เพื่อให้ฝนรุ่นแรกที่ชะเอา เชื้อโรคที่มีในอากาศ ลงไปก่อน ไม่พามาหาเรา
คิดเองตอนฟังอาจารย์ ค่ะ ว่าคล้ายกับที่รอฝนตกล้างหลังคา แล้วค่อยเก็บน้ำฝนมั้ง