ทำขวัญนาค ตอนที่ 2 (ปฏิสนธิ)


แม่ก็สู้ทรมานมานานช้า กว่าชันษาของเจ้าจะเติบใหญ่

ขั้นตอนในการทำขวัญนาค

ตอนที่  (ปฏิสนธิ)          

         ในตอนที่ 2 นี้ เป็นตอนที่ ผมจะขอเล่าถึงพิธีทำขวัญนาคในตอนสำคัญ ชื่อว่า ปฏิสนธิ หมายถึงกล่าวกำเนิด การเกิดมาของคนเรา โดยจะเริ่มตั้งแต่บิดา มารดาอยู่ร่วมกัน จนกระทั่งได้ฤกษ์ จึงมีจุติ ลงมาเกิดในครรภ์ของมารดา แม่มีอาการผิดปกติ (แพ้ท้อง) อยากกินของที่หายาก  ฝ่ายข้างพ่อก็พยายามที่จะหาเอามาให้ พ่อปรนนิบัตรพัดวีดูแลทั้งแม่และลูกในครรภ์จนครบ 9-10 เดือน ในรายละเอียดของบทร้องที่เจ้าพิธีจะเกริ่นเป็นกลอนร้องให้พ่อนาคได้สดับรับฟัง มีพอสังเขป  ดังนี้ครับ

          ศรี ๆ บวรวิเศษ ข้าพเจ้าจะขออันเชิญเทพยดาเจ้าทุกพิมานเมศ  เมืองสวรรค์  เทพเจ้าผู้ทรง มหันต์อันเรืองฤทธิ์ ที่อาศัยสิงสถิตในจักรวาล  จงมาช่วยอวยพรเพิ่มโพธิสมภารแห่งพ่อนาค  ให้พ่อภิญโญโสภาค  เจริญผล   อีกทั้งวงศ์ประชาชนทั้งซ้ายและขวา   อันมีบิดรและมารดาเป็นประธาน ล้วนแต่มีน้ำจิตเบิกบานด้วยยินดี  จึงได้ให้พ่อนาคบวชเป็นศรีเชื้อชินวงศ์           

         พ่อนาคเอ๋ย..วันพรุ่งนี้แล้วหนอพ่อจะได้สอดทรงซึ่งกาสาว์ ข้าพเจ้าจะขอกำจัดขันธมาร 5 อย่าเบียดเบียน  ขันธมารอย่าได้มาย่ำเยียนและราวี  ขันธมารอย่าได้มาย่ำยีให้ถึงชีวิต  อีกกิเลศมารในดวงจิตให้จืดจาง ประหารขันธมารให้เหินห่าง อย่ายินยล ให้พ่อนาคบวชสำเร็จผลสถาวร น้ำจิตของพ่ออย่า ย่อหย่อนให้ผ่องแผ้ว  ประดุจดั่งน้ำในคนโทแก้ว ที่ใสบริสุทธิ์     

                               

        พ่อนาคเอ๋ย.. วันที่พ่อจะถือกำเนิด  เกิดมาเป็นมนุษย์ มันมิใช่ง่าย  โดยอาจารย์ท่านบรรยายไว้ในบาลี  พระอภิธรรม 7 คัมภีร์ก็แสดงไว้                                                                                                     

แยกออกไปเป็นแหล่ กำเนิดคน

         ฉันจะขอกล่าว  เป็นสำเนากำเนิด

         พ่อนาคจะเกิด  กำเนิดเป็นคน

         มันแสนยุ่งยาก  ลำบากเหลือล้น

         ฉันจะนิพนธ์  ยกมาเทศนา           

         แรกเริ่มเดิมที   พ่อไม่ใช่มนุษย์ 

        พ่อเกิดเป็นเทพบุตร  อยู่บนชั้นฟ้า    

        จะเหาะจะเหิร  จะเดินลงมา  

        ฉันจะพรรณนา  เสียให้เข้าใจ 

        .............    ฝันจะจริงหรือจัง  หรือเป็นอย่างไร 

(บทร้องแหล่แล้วแต่จะนำมา มีความยาวโดยประมาณ 7-10 นาที กล่าวถึงการลงมาจุติ  กำเนิดของคน)

แยกออกไปเป็นแหล่ แม่แพ้ท้อง

        จากวันต่อวัน   เลยผันเป็นเดือน

        จิตใจฟั่นเฟือน  รู้สึกแพ้ท้อง  

        อยากกินของเปรี้ยว  อยากเคี้ยวของดอง

        แม่อยากกินของ  ชื่นอก  ชื่นใจ

        อยากกินมะขาม  กับน้ำปลาหวาน 

        อยากกินมะดัน  ...................... 

(บทร้องแหล่แล้วแต่จะนำมา มีความยาวโดยประมาณ 5-7 นาที กล่าวถึงอาการแพ้ท้องของมารดา)

        กล่าวถึงในปฏิสนธิ  ในครรภ์ปริมณฑลของพระชนนี  ว่าประดุจขุมทรายจามจุรี เช็ดชุบน้ำมันสลัดเสร็จถึง  7 หน  น้ำมันที่เหลือติดหล่นอยู่ที่ปลายขนแห่งฝูงสัตว์  พระบาลีท่านกล่าวชัดว่าอีก 7 ทิวา.. เป็นเค้ามูลโลหิตานั้นขึ้นก่อน อีก 7 วันจึงผันผ่อนเป็นเปลือกสาย  แม้นจะเกิดเป็นผู้ชายอยู่ทางขวา เป็นผู้หญิงจะเวียนมา อยู่ทางซ้าย  ต่อจากนั้นอันตรายของแม่ก็ย่อหย่อน อีก 7 วัน จึงผันผ่อนพัฒนาก่อเป็นก้อนมังสา.. ตั้งหน้าผากก่อน พอเห็นเหตุ ดวงเนตรทั้ง 2 โตเท่าฟองไข่  ได้ 3 เดือน ก็ย้ายแยกแตกออกไป เป็นปัญจสาขา.. มีหู ตา มีเล็บ มีผม มีมือถือสายรกอม  ต่างคำข้าว พ่อนั่งทับอาหารเก่ากองอา..กุล  ศีรษะของพ่อก็พอกพูนไปด้วยอาหารใหม่  ขดคู้เข้าเข้าหนุนคางไว้ทั้งสอง..  หินหลังเข้าอิงพิงหนังท้องของมารดา...  ประดุจว่า  วานรหนาวที่หนีฝน  เข้าซ่อนตนอยู่ในโพรงพฤกษา   ได้ 7-8 เดือน มารดาเจ้าเสพของต้องเผ็ดร้อน  เลยไปถูกผิวหนังลูกอ่อน ๆ  ดังผิวของลูกจะพองพังหมดทั้งกาย  ลูกก็ดิ้น แม่ก็กระวนกระวายไม่สมประดี  ดังเปลวอัคคีที่รุ่งโรจน์มาเผาผลาญ   แสนเวทนานานในอุทร  มารดาขยับตัวจะนอน ลูกก็ลุกขึ้นนั่ง  กระทบกระทั่งกันเพียงว่าแม่ จะขาดใจ  ดังบุคคลเขาเอาท่อนไม้มารุมรัน   ถึงยามปลอด  แม่จะคลอกเจ้าออกจากครรภ์ของมารดา   ก็บังเกิดลมกัมมัชวาตวาสมาผาดผัน  ให้ศีรษะนั้นหันลงเบื้องต่ำ  ดังว่าตกเหวล้ำ  อันลึกสุด  กำหนดได้ 100 ชั่วบุรุษ ความกลัวของพ่อและแม่ นะลูกเอ๋ย.. ไม่มีขวัญ  พ่อหวาดหวั่นกลัวชีวิตลูกเมีย จะวอดวาย  ยิ่งยามเมื่อคลาย  ใกล้ตอนที่ลูกจะคลอด ลูกออกมาขัดขวาง ช่องครรภา  ดั่งใครเขาฉุดกุญชรป่าออกจากถ้ำ  ว่ามารดานั้นเคยเจ็บ  มารดานั้นเคยช้ำ พ่อก็คอยลูบคลำมิได้ห่างไปไกลเนตร ถึงแม้นว่าพ่อแม่จะระเห ระหนทนเทวษ แทบมรณาพ่อแม่ไม่เคยคิด  ขอเพียงให้ลูกน้อย ๆ มีชีวิต  กำเนิดมาแล้วอยู่รอด.... 

                             

แยกออกไปร้องส่ง  แม่ปวดท้อง (เจ็บท้อง)

        แม่เขาปวดท้อง          แม่ร้องคราง           

        แม่อยากได้คน          มาหนุนหลัง  ปะทัง... กาย

        แม่เขาปวดนัก           จักวางวาย 

        ญาติกา แม่มาไหม     ใกล้ไกล ช่วยที ..... 

แยกออกไปร้องส่ง ตามหมอตำแย (แบบโบราณ)

        ออกจากบ้านทันที ไม่รีรอ       ไปตามหมอมุ่งหมาย     ด้วยใจมั่น 

        จึงจ้างรถจ้างรา   มาช้าพลัน     จรลันรีบไป      คัลลัยจร

        พอเท้าย่างใจยัง    หวนรำลึก    เฝ้าแต่นึกถึงคณิต พิษสมร 

        จึงว่าจ้างรถไป   ด้วยใจสั่นคลอน    แสนอาวอนไม่วาย   ให้ คณึง..เอย... 

แยกออกไปร้องส่ง เสภาคลอดบุตร 

          เอย... ให้ปวดป่วนมวนท้อง         ร้องครวญคราง

          ไม่มีคนหนุนหลัง               น่าใจ..หาย  

          แม่ปวดป่วนนาพี               ที่ภายใน 

          เจ็บแทบตายโอ๊ยแม่ ๆ        แน่แล้ว.. เรา

          เอย.. ทั้งหมอนวดหมอยา    มาพรักพร้อม   

          มาห้อมล้อม ดูแล              แม่ตอน.. เหงา     

          ทั้งเหงื่อกาฬไหลหยด          หมดกายเรา  

          น้ำตาเจ้าไหลตลอด             คลอดบุตรา 

(แล้วแม่ก็ให้กำเนิดบุตรชาย เป็นที่รักของบิดา มารดา อย่างที่สุด) 

        ครั้นฤกษ์งามยามปลอด  แม่ก็คลอดพ่อยอดบุตร  ปราศจากสิ้นสุดมณฑิรโทษ  บิดา มารดาเห็นประโยชน์เป็นหนักหนา  สู้ถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูกมา  หวังจะให้บรรพชาบำเพ็ญผล  แผ่กุศลให้โยมญาติ  ทั้งเบาะปูแม่ก็ปัดเป่า  แม่ถนอมกล่อมเจ้า ทุกเวลา..งาย              แม่เคยอุ้มลูกชายให้ลูกกินนม  ฟันของเจ้าหรือก็คม นมของแม่หรือก็บาง  เมื่อยามที่ลูกเล่น เน้นหัวนม แม่ก็ร้องคราง...เอื้อมมือค้าง  หมายว่าจะฟาดเจ้า เปล่าดอกพ่อโฉมเฉลา  แม่นี่รักเจ้าเพียงจะขาดใจ เห็นว่าลูกเป็นชายโสภาแสนปราโมทย์ หวังที่จะให้เจ้าได้อุปสมบท  เป็นบุตรพระตถาคตเถิดนะลูกเอย... ทั้งริ้นก็มิให้ไต่ไรก็มิให้ตอมระคายคาง พ่อ แม่สู้ทำกระโจมกางกั้นยุงริ้น มิให้บินมาตอมไต่ เกรงว่าพ่อสายใจจะหวาดสะดุ้ง  เหลือบและยุงก็มิให้มารา..วี  แต่พออรุณรุ่งรังสี สว่างแผ่ว  แม่เคยอุ้มลูกแก้วออกจากอู้มาใส่อ่าง  อาบน้ำสำอางชำระล้างร่างกาย  แล้วบดแป้งละลายลูบ ชโลม...ทา แล้วยกลูกลงใส่เปล  แม่กล่อมว่า โอ้ ละ เฮ้  โอ้ ละ ชา  หวังว่าจะให้ลูกชาย..นอน  ลูกเอ๊ยอย่าอ้อนแม่เลย พ่อทรามเชยจงนอนเล่น  นี่ตะวันก็เย็นลงแล้วหนา  แม่จะกล่อมทูนหัวด้วยเพลงเฮ่ ละ ช้า ให้ขวัญตา เจ้า นอน..... 

แยกออกไปร้องส่ง เพลงกล่อม  อาจใช้ทำนองประยุกต์แบบสนุกสนานก็ได้       

        ขวัญอ่อนเจ้าจงนอน   ในอู่เปล      โอละเห่  แม่จะกล่อม  ให้เจ้านอน 

        ลูกอย่าอ้อนแม่เลย   แม่จะไกว      นอนเล่น ให้เย็นใจ  แก้วแม่อา   

        แม่ลูกสองคน  ทนลำบาก             ตกทุกข์ได้ยาก  ชีพแทบสูญ    

        ดาวกระจ่าง  เหมือนนาง สนมใน      บำเรอให้ ขับกล่อม  ก็พร้อมมูล 

อาจจะหาเพลงมาร้องกล่อมตามความเหมาะสม คือ 1-2 เพลงก็เพียงพอ  จากนั้นก็เดินเรื่องต่อ    

          หากไม่สบายกายเจ้าร้อนขึ้นคราวใด แม่ก็ร้อนใจไม่จืดจาง  แม่จึงเอาข้าวขาวแดงฟาดผีสาง  มาฝนเป็นยาป้าย  ครั้นเห็นลิ้นเจ้าขาว  เป็นฝ้าใย  แม่ก็รูดใบกระเพรามาเคี้ยวบ้วน  หวังว่าจะให้ลูกอ้วนเจริญ..ตา  ทั้งแดดลมฝนกล้า แม่ก็มิให้ต้อง มารดาเห็นสิ่งไหนขัดข้อง ก็สู้ทำจนมิดชิด  แล้วบรรจงปิดด้วยภูษา  หวังว่าจะให้ลูกนิทราเสียเมื่อเวลากลางวัน           

         (เสียงสูง) แต่ยามดึกพระจันทร์ส่องสว่างเที่ยง ลูกแม่ได้ยินเสียงปักษาคณานก ก็ตก..ใจ ร้องกรี๊ดหวีดว้ายอยู่อึงมี่  แม่จึงรับลูกมาใส่ตัก  คว้าน้ำเข้าลูบพักตร์ แล้วรับขวัญ  หมายว่าตัวลูกร้อนจะรำคาญ แม่สู้อุตสาห์พยาบาลบำรุงเจ้า  จูบกระหม่อมจอมเกล้า..ทุกเวลา           

          ถ้าแม้นว่า พ่อแม่ไปไหนมาช้ากลัวว่าลูกจะอาวอน ด้วยลูกรักของฉันยังอ่อนจะอยากนม ในอารมณ์ของแม่เฝ้าพันผูก  จิตกระสันไปด้วยลูกทุกเวลา  แม่ก็สู้ทรมานมานานช้า  กว่าชันษาของเจ้าจะเติบใหญ่  กว่าอายุลูกจะได้  ถึงวันนี้     

         ให้ลั่นฆ้องขึ้น 3 ที แล้วโห่ร้อง เอาชัย..     

(ติดตาม ตอนที่ 3  นามนาค โดยชำเลือง มณีวงษ์)

หมายเลขบันทึก: 101010เขียนเมื่อ 5 มิถุนายน 2007 21:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:03 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • มาทักทายคุณครูบ้านเรา
  • อาจารย์ลองจัดตัวอักษรนะครับ
  • จะพิมพ์ใน word ก็ดี ใช้อักษร Tahoma 14 points
  • แล้ว copy มาวางใน gotoknow นะครับ
  • ลองทำสีก็ได้ครับ ที่แถมสี เช่น
  • สีน้ำเงิน  บันทึกอาจารย์จะน่าอ่านมากครับผม
  • ชอบฟังการทำขวัญนาค ไม่ได้ฟังนานมาก ดีใจที่พบรุ่นพี่ มศว ฮ่าๆๆๆรุ่นลายครามเสียด้วย
  • ขอบคุณที่เข้าทักทาย (มาล่าไปหน่อย)
  • ทำตามที่ท่าน ดร. แนะนำแล้ว ครับ

อยากให้อาจารย์ร้อง หรือแหล่เป็นทำนอง มาก ๆ ครับ ผมชอบและเข้ามาอ่านและศึกษาเกี่ยวกับเรื่องการทำขวัญนาคอย่างมาก ๆ จึงอยากจะได้ทำนองร้องและแหล่ต่าง ๆ ครับถ้าท่านอาจารย์พอมีช่วยเป็นวิทยาทานด้วยครับ กราบอาจารย์ด้วยความเคารพครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท