คำสอนของอิสลาม
อันตรายจากการคุลวะฮฺ(อยู่เพียงลำพัง)ระหว่างสตรีกับบุรุษ
การที่อิสลามมีบัญญัติห้ามมิให้อยู่ร่วมกันเพียงลำพังในที่ลับตาคน(คุลวะฮฺ)ระหว่างสตรีกับบุรุษเพศที่เป็นอัจญ์นะบี (ที่แปลกหน้าและแต่งงานกันได้)นั้น เนื่องเพราะมีเป้าประสงค์ที่จะยับยั้งและป้องกันช่องโหว่ที่จะก่อให้เกิดสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาและไม่ดีงามต่างๆต่อตัวสตรี เกียรติ และครอบครัวของนาง เพราะการอยู่ร่วมกันเพียงลำพังในที่ลับตาคนและบรรยากาศที่เอื้ออำนวยและไม่ปลอดภัยจากฟิตนะฮฺระหว่างทั้งสองฝ่าย เป็นการเอื้อโอกาสให้กระทำความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ เพราะบุรุษจะเป็นคนที่หวั่นไหวง่ายและอ่อนแอที่สุด(ไม่สามารถยับยั้งและบังคับใจตนเอง) เมื่อยามที่ได้อยู่ร่วมกับสตรีเพียงลำพังสองต่อสอง เช่นเดียวกับสภาพของสตรี
นบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า
مَا تَرَكْتُ بَعْدِي فِتْنَةً أَضَرَّ عَلَى الرِّجَالِ مِنْ النِّسَاءِ
"ฉันไม่ได้จากสิ่งใดที่เป็นฟิตนะฮฺหลังจากฉัน ซึ่งเป็นอันตรายต่อบรรดาบุรุษเพศมากไปยิ่งกว่าฟิตนะฮฺที่เกิดจากบรรดาสตรี" (อัลบุคอรีย์,กิตาบอัลหัจญ์, หะดีษที่ 4706, มุสลิม, หิตาบอัซซิกร วัดดุอาอฺ มัตเตาบะฮฺ วัลอิสติฆฟารฺ, หะดีษที่ 4923, 4924)
ด้วยเหตุนี้อิสลามจึงมีบัญญัติห้ามการคุลวะฮฺ เพื่อเป็นการป้องกันสตรีจากการถูกครหานินทาและเพื่อปกป้องเกียรติของนางให้คงอยู่ตลอดไป
หุก่มของการ"คุลวะฮฺ"อิหม่ามอัชเชากานีย์ กล่าวว่า "การคุลวะฮฺหรือการอยู่ร่วมกันเพียงลำพังระหว่างสตรีและบุรุษอัจญ์นะบี เป็นสิ่งต้องห้าม(หะรอม)อย่างเป็นเอกฉันท์ เนื่องเพราะมีระบุในหะดีษว่า ทุกครั้งที่มีการอยู่ร่วมกันเพียงลำพังสองต่อสองระหว่างสตรีกับบุรุษ มารร้ายชัยฏอนก็จะมาร่วมเป็นบุคคลที่สามเสมอ และการมาอยู่ร่วมกันของชัยฏอนจะก่อให้เกิดสิ่งที่ไม่ดีงามและการกระทำที่เป็นบาปและต้องห้าม" (อัชเชากานีย์,นัยลุลเอาฏอร, 6/120)
อิหม่ามอันนะวะวีย์ กล่าวว่า "ส่วนการอยู่เพียงลำพังระหว่างบุรุษกับสตรีอัจญ์นะบีโดยปราศจากบุคคลที่สามร่วมอยู่ด้วย เป็นสิ่งที่ต้องห้าม(หะรอม)อย่างเป็นเอกฉันท์ในหมู่อุละมาอ์ เช่นเดียวกัน ถ้าหากว่าบุคคลที่สามที่ร่วมอยู่ด้วยเป็นบุคคลที่ไม่เป็นที่น่าละอายของทั้งสองฝ่าย เนื่องจากอายุยังน้อยเป็นต้น และการห้ามดังกล่าวครอบคลุมการคุลวะฮฺหรือการอยู่เพียงลำพังระหว่างสตรีกับบุรุษในทุกๆที่ ไม่ว่าจะเป็นที่สาธารณะหรือที่เฉพาะส่วนบุคคล หรือไม่ว่าจะอยู่ในสภาพการนั่ง หรือยืน หรืออยู่ระหว่างการเดินทาง ไม่ว่าจะใกล้ หรือไกลก็ตาม (อันนะวะวีย์, ชัรหฺเศาะหีหฺมุสลิม 9/109)
1. การอยู่ร่วมกันเพียงลำพังของสตรีกับคู่หมั้นและการออกนอกบ้านกับเขาก่อนที่จะมีการแต่งงานกันอย่างเป็นทางการ
2. การอยู่ร่วมกันเพียงลำพังของสตรีกับพนักงานขับรถแท็กซี่ หรือไม่พนักงานขับรถส่วนตัวหรือรถส่วนกลาง
3. การอยู่ร่วมกันเพียงลำพังของนางพยาบาลหรือนางแพทย์กับบุรุษอัจญ์นะบี ไม่ว่าเขาจะเป็นนายพยาบาลหรือนายแพทย์ หรือบุคคลทั้วไปก็ตาม
4. การอยู่ร่วมกันเพียงลำพังของนายแพทย์กับคนไข้ที่เป็นสตรีโดยปราศจากมะหฺร็อม(ญาติผู้ใกล้ชิดของสตรี)
5. การอยู่ร่วมกันเพียงลำพังของอาจารย์ที่ปรึกษากับนักศึกษาสตรี ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านการให้คำปรึกษาก็ตาม
6. การอยู่ร่วมกันลำพังของบุรุษกับคนใช้สตรีภายในบ้าน
7. การอยู่ร่วมกันเพียงลำพังของหญิงวัยชรากับบุรุษอัจญ์นะบี
8. การอยู่ร่วมกันเพียงลำพังของสตรีกับลูกชายของลุงหรืออา(ลูกพี่ลูกน้อง) หรือพี่ชายและน้องชายของสามี
9. การอยู่ร่วมกันเพียงลำพังของสตรีกับพนักงานตัดเสื้อชาย
10. การอยู่ร่วมกันเพียงลำพังของสตรีกับพนักงานขายของภายในร้านโดยปราศจากมะหฺร็อม
11.การอยู่ร่วมกันเพียงลำพังในห้องทำงานที่มิดชิดและเป็นการส่วนตัวระหว่างหัวหน้าชายกับเลขาสตรีหรือทางกลับกัน หรือระหว่างพนักงานด้วยกัน ฯลฯ
ข้อมูลจาก : http://www.iqraonline.org
71% ของสถานที่เกิดเหตุ คือ บ้าน
ไม่มีความเห็น