เมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้เขียนได้ถูกหลอกล่อโดยนิสิตแพทย์ทันตกรรม โดยให้ไปเป็นคนไข้พิเศษในการตรวจรักษา เพื่อที่จะได้เป็นตัวอย่างในการศึกษาก่อนจบ ณ โรงพยาบาลทันตกรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร
วันแรก การตรวจรักษาของหมอฝึกหัด นิสิตปี5
ก็ไปที่เค้าเตอร์ ของโรงพยาบาล แจ้งชื่อตัวเองและชื่อหมอที่จะพบ
จากนั้นก็กรอกประวัติส่วนตัว
เสร็จแล้วเราก็นั่งรอ วันแรก น้องหมอของเรายังไม่ได้ตรวจเลย จะต้องให้นิสิตปี5 ตรวจก่อน เป็นขั้นตอน ทำตามระบบ
เรารอนานมากๆ เพราะจะมีอาจารย์หมอคอยตรวจเช็คคนป่วยทุกคน และอาจารย์หมอมีเพียงแค่ 1-2 คนต่อวัน ต่อคนไข้ ห้องนึงประมาณ 4-5 คน เมื่อถึงคิวเรา เราก็นอนรอจนหนาวเลยหละ เพราะแอร์เย็นมาก กลัวก็กลัว เพราะไม่เคยเจอบรรยากาศแบบนี้ อีกอย่างไม่ค่อยมั่นใจในตัวนิสิตหมอด้วย เค้าจะทำอะไรได้เหมือนหมอจริงๆไหม
เราอ้าปากกว้างและก็ให้ข้อมูลส่วนตัวอย่างระเอียดเพื่อที่น้องนิสิต(หมอฟัน)ได้เป็นไว้ หากเกิดอะไรฉุกเฉินขึ้นมาจะได้ดูจากข้อมูลที่เราได้ให้ไว้ "น้องนิสิตเค้าตรวจเราได้ดีมาก ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดนะคะ"
เราอ้าปากกว้าง นานมากๆ เมื่ออาจารย์หมอมาตรวจ ก็ให้น้องนิสิตรายงาน ว่ามีอะไรผิดปกติในช่องปากของเราบ้าง อาจารย์หมอชมเราด้วยว่าฟันเรียงตัวสวยดีมาก และก็ปัญหาเรื่องสุขภาพฟันก็ไม่มีปัญหาที่รุนแรงเลย (ดีใจคะ)
รายงานสุขภาพฟันในช่องปากของผู้เขียน
สุขภาพโดยรวม 80% ค่อนข้างดีมาก
น้องนิสิต(หมอฟัน) เค้าตรวจเช็คอย่างละเอียดมาก ค่าบริการในการตรวจก็ไม่เสียเลย นอกจากค่าเครื่องมือ เช่น การเอ็กซเรย์ การอุดฟัน การถอนฟัน ก็คิดตามความเหมาะสมคะ
วันที่2 การตรวจรักษาของหมอเจ้าของผู้รักษาฟัน
วันนี้เราได้ตรวจจากน้องนิสิต ผู้ที่ดูแลเราโดยตรง ความรู้สึกกลัวว่าน้องนิสิตเค้าจะดูแลทำให้เราดีไหมก็หายไปเลยไม่รู้สึกกลัวแล้ว เริ่มมั่นใจในตัวของน้องๆคะ
น้องสิตที่เป็น หมอผู้ดูและสุขภาพฟันของเรา ชื่อว่าหมอแวน "ฤทธิ์ไกร ณ ลำพูน" นิสิตทันตแพทย์ ปี6
หมอเค้าตรวจสุขภาพฟันเราเหมือนครั้งแรกเลย จดรายละเอียด และข้อมูลเรายิบเลย แต่ดูเหมือนจะละเอียดแต่ครั้งแรกมากๆ วันนี้ได้ ถ่ายภาพในช่องปาก เอ็กซเรย์ ฟันด้วย
วันนี้จ่ายค่าเอ็กซเรย์ฟันไป 4 สไลด์ๆละ 30 บาท รวมเป็นเงิน 120 บาทคะ เบิกค่ารักษาไม่ได้ เพราะว่าประกันสังคมไม่มีค่าเอ็กซเรย์คะ
เมื่อเราเอ็กซเรย์ เสร็จแล้ว น้องนิสิตก็เรียกอาจารย์หมอ ที่ดูแลครอสนี้มาตรวจ อาจารย์หมอก็บอกว่ากับหมอแวน และเราว่า ไม่มีฟันพุเลย หินปูนก็ไม่ค่อยมี "แล้วนี่หมอแวน เธอจะทำอะไรบ้างเนี่ย ผู้ป่วยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสุขภาพฟันเลย" ไอ้เราก็ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจกันแน่ดีเนี่ย 5555
หมอบอกว่า รอบที่3 คงได้มีการ อุดฟัน ถอนฟันคุด หรือไม่ก็ขูดหินปูนคะ แล้วหมอเค้าจะโทรมาบอกนัดอีกที
รอฟังตอนต่อไปนะคะ
ขอบอกว่าคุ้มค่ามากๆ เราได้ความรู้จากอาจารย์หมอและน้องนิสิตที่ให้คำแนะนำด้วย การตรวจก็ตรวจแบบจริงจังและละเอียดมาก ไม่ได้มามีนิสิตทันตกรรมมาดูเราเป็น 10ๆคนนะคะ มีแค่น้องนิสิตที่ตรวจเราเท่านั้นเองคะ
มีอีกนะคะ ที่นี้เค้ามีฟอกสีฟันด้วย ทำฟันขาว อิอิ
ภาพประกอบ http://202.143.128.195/kanngan/site_students/Webnonglak/conteits/teeth.htm
อ่านเรื่องนี้จบแล้ว สรุปได้ว่า...
ตอบคะ
ตอบที่ขวัญ KHWANTRAKUL
ตอบคุณ บู้บี้จัง
สุขภาพฟันดีเริ่มที่ตัวเรา หุหุ คุ้นไหมคับท่าน
เรื่องราว น่าไปทำฟันมั่ง แบบว่าเหนบรรยากาศ นึกถึงกลิ่นยาชาในปากเลยอ่ะ เมื่อยปากแทน..อิอิ ไม่รู้ในปากเราเปนไงมั่งแล้ว(มีdogกี่ตัวหว่า)
มีฟัน ดี ๆ อย่างนี้ มันต้องเป็นยังไงน้า ไหนมาให้บีมตรวจดูใกล้ ๆ ก่อนถึงจาสรุปได้ อิๆ ล้อเล่น ฮ่า ๆๆอยากมีฟันดี ๆ อย่างนี้บ้างอะ น้า
หลาย ๆ คนไม่ชอบไปหาหมอฟัน แต่อ่านประสบการณ์ตรงนี้แล้ว ทำให้เห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพของช่องปากขึ้นอีกเยอะเลย แล้วก็รู้สึกดีกับการไปหาหมอเพราะมันไม่น่ากลัวอย่างที่คิดด้วย
หมอฟันคงตกงานถ้าทุกคนมีฟันสวยเหมือนน้องดรีมอะ
ดีใจด้วยที่ฟันสวย คงดูแลรักษาดีมาก เคยจัดฟันมะอ่ะ แต่ ช้างกลัวอ่ะ กลัวเจ็บเลยมะกล้าจัด พ่อให้ไปจัดก็ไม่ไป 555+
ดีครับ เพราะคนส่วนใหญ่จะไม่รู้เรื่องช่องปาก ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัว และสำคัญมากๆๆ ครับ
อยากให้อ่านกันเยอะๆ นะครับ บอกต่อกันก้อดี
ตอบ มะหมิง
ตอบ เดียว
ตอบ Addie
ตอบ DJ_ohm
ตอบ บีม
ตอบ ข้าหลวงฯ
ตอบ กระบี่สีชมพู
ตอบ Li qin
ตอบ เม
หน้าตาสวยแถมฟันยังสวยด้วย น่ารักจริง ๆ น้องดรีม แต่พี่นิวซิ ฟันผุ งะ ฮือ ๆ สงสัยทานชอคโกแลตมากไป อิอิ
ตอบ ทศ
ตอบ น้องช้าง
ตอบ Nutt
ตอบ แก่นจัง
ตอบ ขจิต ฝอยทอง
เห็นหัวข้อเรื่องเล่าจากห้องทันตกรรมก็เลยสนใจเข้ามาอ่านค่ะ
อ่านแล้วดีใจจังค่ะ ที่คุณ คนเขียนข่าว รู้สึกดีกับการไปตรวจฟันในครั้งนี้ เพราะก็เป็นศิษย์เก่าที่คณะทันตฯเหมือนกัน เพิ่งจบปีนี้เอง
ที่สำคัญ หมอแวน นี่เป็นน้องรหัสด้วยค่ะ อ่านแล้วปลื้มใจแทน สงสัยต้องโทรฯไปชมหน่อยแล้ว
แล้วจะเข้ามาอ่านใหม่นะคะ
เป็นคนที่มีปัญหาในช่องปากมาก ดังนั้นจึงมักจะรักษาฟันกับนิสิตทันตแพทย์ ตอนนี้มีความรู้สึกว่ารักษาฟันกับนิสิตทันตแพทย์จะมีความมั่นใจกว่ารักษากับทันตแพทย์จริงๆ เสียอีก(นึกว่ามีเฉพาะเราที่มีความรู้สึกดี ๆ กับการรักษากับนิสิตทันตะ
ครั้งล่าสุดต้องยอมขาดประชุมเพราะนิสิตทันตะ ปี 6 นัดทำฟัน เพราะถ้าไม่ไปตามนัดหมอเขาจะนัดอาจารย์ที่ตรวจยากมาก และหมอจะต้องรีบรักษาให้เสร็จภายในเทอมนี้ด้วย เรียกว่าเครียดทั้งหมอทั้งคนไข้เลยหละ เพื่อนถามว่าเธอจะเลือกอะไรระหว่างงานกับการเรียนของหมอฟัน เราตอบว่าเราเลือกการเรียนของหมอฟัน เพื่อนเลยเรียกว่าตอนนี้เราเป็นอาจารย์ใหญ่คณะทันตแพทย์ อีกหน่อยก็คงไปเป็นอาจารย์ใหญ่คณะแพทย์ศาสตร์ เราจึงไม่รู้สึกเสียใจที่ถูกต่อว่าบกพร่องเรื่องงานเพราะเป็นสิ่งที่เราเลือกเอง
เพราะเราเคยมีประสบการณ์มาแล้วกรณีนิสิตทันตะ
คนก่อนหน้านี้นัด แล้วเราขอเลื่อนนัด ปรากกฏว่าตอนหลังนิสิตคนนั้นต้องพลาดการตรวจงานจากอาจารย์ที่เคยวางแผนไว้ให้ อาจารย์ท่านอื่นเป็นคนตรวจ ทำให้การใส่ฟันของเรามีปัญหานิสิตทันตะคนนั้นจึงโดนดุต่อหน้าเรา เราสงสารนิสิตหมอคนนั้นมากเลย ตอนหลังเราทราบว่าเคสที่เขาทำให้เรานั้นหมอเขาได้ E ทำให้เรายิ่งเศร้าหนักเลย
ทำไม่เราไม่ค่อยชอบหมอฟันนะ
หลอกล่อ ทำไมต้องใช้คำว่าถูกหลอกล่อ
แต่ข้อความต่อ ๆ มากลับนำเสนอในแง่บวก
งง อ่ะ
ใช่ ทำไมต้องใช้คำว่าถูกหลอกล่อ
ก็เลยอ่านข้อความดูจะให้เข้าใจว่าอย่างไรค่ะ
รู้สึกดีรึว่าอย่างไร
ไม่ใช่ครอสนะ เคสนะ
จะมั่นใจรึไม่มั่นใจ หมอจบไปก็ไปหาหมอเหมือนเดิม
ใช่ เรียนยากมากตอนเรียนเราต้องตามง้อคนไข้
แต่จบไปคนไข้ก็คิดบ้างนะ