ณ ค่ำคืนหนึ่ง แม้ว่าชาวเมืองต่างจะหลับใหล แต่ทว่าท่านเคาะลีฟะฮฺผู้ทรงธรรม อุมัร อิบนุ อัลคอฏฏอบก็ยังคงเดินลาดตระเวนรอบๆเมืองมะดีนะฮฺเพื่อดูแลสารสุขทุกข์ดิบของชาวเมือง คืนนี้ไม่ใช่คืนแรกที่ท่านเคาะลีฟะฮฺเดินตระเวนรอบเมือง แต่ทว่ามันก็เหมือนกับทุกๆคืนที่ท่านเคยปฏิบัติมาจนเป็นนิจ ท่านเดินจนถึงชานเมือง เมื่อรู้สึกเหนื่อย ท่านก็ได้เอาหลังพิงเอนกับผนังของกระต๊อบหลังเล็กๆหลังหนึ่งเพื่อพักเอาแรง ในขณะที่กำลังพักอยู่นั้น พลันท่านก็ได้ยินเสียงของสองแม่ลูกที่อยู่ในกระต๊อบหลังดังกล่าวกำลังพูดคุยกัน
แม่ : ลูก ลูกจงเอาน้ำไปผสมกับน้ำนมเถิด
ลูกสาว : แม่! แม่ไม่รู้หรอกหรือว่าท่านเคาะลีฟะฮฺอุมัรได้ประกาศห้ามไม่ให้เอาน้ำผสมกับน้ำนม ?
แม่ : ในยามดึกดื่นวิกาลนี้ท่านเคาะลีฟะฮฺคงไม่รู้และคงไม่เห็นเราหรอก
ลูกสาว : แม่จ้า ถึงแม้ว่าท่านเคาะลีฟะฮฺจะไม่รู้และไม่เห็น แต่พระเจ้าของท่านเคาะลีฟะฮฺนั้นทรงรอบรอบรู้และมองเห็นเรานะแม่
ถ้อยคำที่ผู้เป็นลูกสาวตอบกับแม่ของนางทำให้ท่านเคาะลีฟะฮฺอุมัรรู้สึกปลาบปลื้มยิ่งนัก และท่านก็ได้เดินจากไปเพื่อละหมาดศุบหฺ
หลังจากละหมาดเสร็จท่านก็ได้เรียกลูกชายของท่านที่ชื่ออาศิมเข้าพบ ท่านอาศิมมีความประสงค์ที่จะแต่งงานแต่ยังหาว่าที่เจ้าสาวยังไม่ได้ ท่านเคาะลีฟะฮฺอุมัรจึงแนะนำให้ลูกชายของตนแต่งงานกับหญิงสาวที่ท่านได้เจอเมื่อคืนนี้ และได้เล่าเหตุการณ์ที่ท่านได้ประสบให้ลูกชายฟัง
และหลังจากนั้นท่านอาศิมก็ได้แต่งงานกับหญิงสาวนางนั้น นางมีชื่อว่าอุมมุอุมาเราะฮฺ ถึงแม้ว่านางจะมีฐานะยากจนไม่มีเงินทองมากมาย แต่ทว่าจิตใจของนางนั้นเปี่ยมล้นไปด้วยความย่ำเกรงต่อเอกองค์อัลลอฮฺ
กาลเวลาผ่านไปนางก็ได้กำเนิดบุตรหญิงชื่อว่าลัยลา เมื่อลัยลาโตเป็นสาวก็ได้แต่งงานกับอับดุลอะซิซ อิบนุ มัรวาน และได้กำเนิดบุตรชายชื่ออุมัร ซึ่งในเวลาต่อมาท่านได้ถูกแต่งตั้งเป็นเคาะลีฟะฮฺ ชื่อเสียงของท่านเคาะลีฟะฮฺอุมัร อิบนุ อับดุลอะซิซ ดังอุโฆษจนถูกขนานนามว่าเป็นเคาะลีฟะฮฺผู้ทรงธรรมตามผู้เป็นทวดของท่าน
แหล่งอ้างอิง : นะสับ กุร็อยชฺ (361) , ตะรีค ดิมัชกฺ (537) , และมะนากิบ อุมัรโดยอิบนุเญาซีย์ (84)