พบแล้วต้องจากลา.. แทนที่จะไปเฉยๆก็ยังฝังความระลึกถึงให้รำพึงหา คราวก่อนก็ครั้งหนึ่งแล้วยังรำพันถึงกันสม่ำเสมอ เจอกันแล้วแทนที่จะแคล้วคลาย ยังกลับมากระชับใจประชิดคิดกิจกรรมร่วมกันแตกยอดออกไปอีก ไม่แน่นะครับ ต่อไปชาวบล็อกเกอร์อาจจะกลายเป็นผู้สันทัดกรณี หรือเป็นนักก่อการดีในสาขาต่างๆก็ได้ เพราะประสบการณ์ตรงของคนที่คิดค้นหาแนวทางใหม่ ย่อมจะพบอะไรมาไม่มากก็น้อย
<p align="center"> </p><p align="center">” มีกิจกรรมออกกำลังกาย แล้วมาออกกำลังสมอง “</p><p align="justify">การร่วมงานคราวนี้ทุกท่านไม่เร่งรีบเวลา ออตบอกว่าเป็นวันหยุดยาวเลยได้พักแบบสบายๆ ชวนไปเที่ยวไหนก็ไม่ไป เลือกที่จะจับกลุ่มคุยกันแน่นเหนียว ใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน เป็นสไตล์ที่เรียบง่ายไม่มากเรื่องแต่งตัวยังไงก็ได้ จะเดินนั่งนอน อยากทำอะไร จะนั่งหน้าจอส่งใจไปหาพันธมิตรเมื่อไหร่ตอนไหนก็ได้ มีอะไรก็แนะนำกันอย่างชื่นมื่น </p><p align="center"> </p><p align="center">" จับคู่ยิ้ม รวมกลุ่มแย้ม "</p><p align="justify">ยิ่งคุยก็เหมือนคุ้ยให้เห็นเรื่องเด็ดๆที่แต่ละท่านสะสมมา ประสบการณ์ท่านนั้นเปรียบเสมือนกรุมหาสมบัติ เป็นสารบัญชีวิตที่ไม่ธรรมดา การได้พบกันเป็นเพียงแค่น้ำย่อยหรือออเดิฟเท่านั้น จะต้องติดห้อยตามไปในG2K.อย่างสม่ำเสมอ แล้วจะเจอสังคมใหม่ที่เราเป็นคนกำหนดวิธีเชื่อมความรู้กันเอง ต่อไปการพบปะกันนอกรอบกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยก็อาจจะเกิดขึ้นตามเหตุและปัจจัยมากขึ้น ผมหมายถึงการยกระดับกิจกรรมพูดคุย ไปเป็นการร่วมทำในบางเรื่องบางประเด็นที่เป็นไปได้ตามความเหมาะสม </p><p align="center"> </p><p align="center">(ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ เจอเด็กพิเศษ และ คนพิเศษจับคู่กับคนพิเศษ)</p><p align="justify">3วันนี้ทุกท่านได้สนทนาเรื่องที่ค้างคาในจิตใจ ใครฝ่าด่านอะไรมาบ้าง ผมคิดว่าการคุยแบบจับเข่าเขย่าความหลังเช่นนี้ จากคนที่กอบกู้ความดีได้ช่วยให้เราประเทืองปัญญามหาศาล มันไม่ง่ายนักหรอกที่จะมีปรมาจารย์มาสอนงานให้เราถึงถิ่น ท่านบางทราย ท่านHandy ท่านเล่าฮูแสวง ท่านสิงห์ป่าสัก ท่านอาจารย์แป๋ว ดร.รสสุคนธ์ ดร.กมลวัลย์ คุณดอกแก้ว พี่องุ่น-ครูเสือ คนหนุ่มรุ่นใหม่ ทั้งสายลมและออตเล้าข้าว โดยเฉพาะครูอ้อยถ้าคุณครูทั้งหลายได้คุยด้วย จะเห็นทิศทางที่จะยกบทบาทตนเองให้มีความก้าวหน้าเป็นนักวิชาการมืออาชีพได้อย่างไร ผมจึงเรียกท่านเหล่านี้ว่ามือชั้นครู เมื่อท่านเหล่านี้มาพบกันในบรรยากาศที่ละวางทุกอย่าง เราเข้าถึงเข้าใจมีอะไรก็ซักถามบัดเดี๋ยวนั้น ท่านก็เมตตาอธิบายผ่องถ่ายความรู้แบบไม่อั้น ผมไม่รู้ว่าจะประเมินคุณค่าด้วยวิธีใด ได้แต่นึกในใจว่าถ้ามีอาจารย์มหาวิทยาลัยออกมาถ่ายเทความรู้ลักษณะนี้ แผ่นดินไทยก็คงจะฟื้นจากความโง่เง่าเต่าตุ่นไปนานแล้ว </p><p align="justify">นับนิ้วดู.. อีกไม่นานเราจะพบกันบนดอยที่โรงเตี๊ยมเมืองเหนือ ก๊วนเราก็คงจะไปเฮกันต่อ ในประเด็นบทบาทและอนาคตของชาวบล็อก ว่าเราจะทำอะไรกันได้บ้าง ผมยังสาละวนอยู่กับการหาวิธีเสียบสายความรู้ที่มีเต็มพุงจอมยุทธบล็อกให้ไหลลื่นออกมา บางเรื่องจำเป็นจะต้องได้รับการแนะนำ บางเรื่องต้องมีการสอนแบบใกล้ชิด ตรงจุดนี้ยังคิดไม่ออกทำยังไงดี ความรู้ในตัวท่านอาจารย์จึงจะออกมาเป็นเครื่องมือให้เราฝึกฝนเป็นคนทำอะไรๆได้ครบเครื่องเสียที </p><p align="justify">บ่ายวันนี้พี่น้องจะแยกย้ายกันแล้ว หลังจากเติมความสนิทสนมกันให้แน่นหนึบ เสียดายว่าบันทึกนี้ส่งเสียงหัวเราะมาไม่ทัน ไม่อย่างนั้นท่านจะได้ยินเสียงเฮฮาผสมเสียงสะอื้นฮักๆ ฮือๆ.. ของชายหนุ่มที่ตกพุ่มหม้ายทั้งๆยังไม่เคยแต่งงาน คิดแล้วก็น่าเวทนา เรียนก็เก่ง นิสัยก็ดี แต่วาสนาอักเสบ จะแนะนำให้เปลี่ยนหัวข้อวิทยานิพนธ์ก็สายไปเสียแล้ว อิอิ.. </p><p align="justify">ข่าวล่ามาเร็ว ทยอยแจ้งเข้ามาแล้ว หลายท่านเดินทางกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ ยินดีด้วยกับทุกท่านครับ..เรื่องสืบเนื่องจากกระปุ๋ม</p>
ครูอ้อยมารายงานว่า อีก 3 ชั่วโมงจึงจะถึง กทม. ครูอ้อยจะไปส่ง คุณ Handy ถึงที่พักเลยค่ะ
ตอนนี้กำลังคุยกับคนขับรถจ้อแจ้ค่ะ
ครูบาฯหยอกน้องชายขจิตได้อย่างสนิทสนม พ่อหม้ายน่าสงสาร เขาคงต้องทำงานเพื่อแผ่นดิน โดยไม่หวังอะไรแล้วค่ะ
ส่วนที่เขายังไม่ได้ ไม่ได้ทำให้เขาท้อแท้หรอกค่ะ..ใช่ไหมน้องชาย
หน่อยมารายงานตัวคะ ถึงสุรินทร์แล้ว เรียบร้อย นำเรื่องมาเล่าให้คนที่บ้านฟังแล้วคะ โดยเฉพาะงานวัด
สนุกจนเหนื่อยเลยคะ งานนี้ ก็ได้ฟังประสบการณ์ความรู้จากผู้รู้ที่หลากหลายมากคะ ได้ความคิดใหม่ๆ
เยอะมากคะ
เรียนครูบาเคารพ
กลับถึงบ้านเรียบร้อย ปลอดภัยตลอดเส้นทางค่ะ ... ขาไปเลี้ยวผิดเสียเวลาไปประมาณ 3 นาที กะว่าขากลับจะไม่ให้เลี้ยวผิดเลย ก็ปรากฎว่าเลี้ยวผิดไปประมาณ 100 เมตรค่ะ ตรงแยกพุทไธสงค่ะ เป็ยแยกที่งงๆ เล็กน้อย
ใจหายค่ะ เมื่อถึงเวลาต้องแยกย้ายกันเดินทางกลับ กอดร่ำลากัน แม้จะเหม็นเหงื่อเปรี้ยว (ไปขุดดินปลูกต้นไม้) ... แล้วพบกันที่เชียงใหม่ค่ะ
น้องชายเราคง รักไม่ยุ่ง มุ่งแต่เรียน และทุ่มเททำงานเพื่อประเทศชาติค่ะ ... ปลูกก็ไม่ได้ปลูก หว่านก็ยังไม่ได้หว่านแล้วทำไมกลายเป็นหม้ายไปเสียแล้วละค่ะ
อาจารย์แป๋ว ท่านบางทราย คุณดอกแก้ว ถึงอ้อมใจของคนที่บ้านแล้ว หน่อย..รักษาสุขภาพมากๆนะ จะหาเวลาไปเยี่ยม
สวัสดีค่ะพ่อครูฯ
ยังอยู่ภูเก็ตอยู่เลยค่ะ เดินทางกลับหาดใหญ่ บ่าย ๆ ของวันพรุ่งนี้ค่ะ
เพิ่งห่างหายมาจากอาศรม แต่อารมย์ยังติดอยู่กับบรรยากาศนั่น
และคิดถึงเจ้ามอมแมมด้วย
ถึงบ้านรายงานตัวกับครอบครัวแล้วครับ
เรียน ครูบา
ผมได้สรุปประเด็นเชิงวิชาการไว้ใน
http://gotoknow.org/blog/sawaengkku/115704
ใน บล็อกของผมครับ
ผมคิดว่าที่ครูบาทำไปเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่ง ของ KM ในเมืองไทยครับ
ใครหยิบไปใช้ก็ได้ประโยชน์กับผู้นั้น หรือองค์กรนั้นแน่นอนครับ
ขอบคุณครับที่ครูบาได้ทุ่มเทเวลาที่มีความหมายไว้กับงานตรงนี้ครับ
ร่ำร่ำใจรอนรอน
อยากมาอ้อนอยากอยู่ใกล้
แนบชิดสนิทใน
หัวใจใสของทุกคน
....
รีบรี่ติดปีกฝัน
ตามให้ทันก่อนฟ้าใส
พี่มาปลุกรีบลุกทันใด
อ๋อ...ฝันไปโถใจเรา
.....
(ตามมาถึงความฝันเชียวนะเนี่ย)
อุอุอุ