10 ปี เต็มที่บ้านตาก


ช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมานั้น มีทั้งเสียโอกาสบางอย่างในชีวิตและได้โอกาสหลายอย่างในชีวิต

                 ผมจบทำงานเป็นแพทย์เต็มตัวเมื่อปี 2536 ที่โรงพยาบาลงาวจังหวัดลำปาง เป็นแพทย์ประจำได้ 1  ปี ก็สมัครใจไปเป็นแพทย์เพียงคนเดียวของอำเภอแม่พริกกับโรงพยาบาล 10 เตียงเล็กๆที่ไกลจังหวัดมากที่สุด อยู่ได้ 3 ปี ก็ตัดสินใจย้ายเพื่อเปลี่ยนประสบการณ์ใหม่ๆมาที่โรงพยาบาลบ้านตาก จังหวัดตาก

                 ผมมาทำงานวันแรกที่โรงพยาบาลบ้านตากเมื่อ 19 พฤษภาคม 2540 ตอนนั้นเป็นโรงพยาบาล 30 เตียง(เปิดใหม่ได้ 1ปี)แพทย์ 2 คนคือผมกับหมอบุญส่ง จวบจนถึง ณ วันนี้ 19 พฤษภาคม 2550 กับโรงพยาบาลขนาด 60 เตียงที่มีแพทย์ 5 คน นับเป็นเวลา 10 ปีเต็มพอดี

                ผมนั่งทบทวนดูช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ผม(คิดว่า) ผมทุ่มเทให้กับฏโรงพยาบาลบ้านตากอย่างมาก ถ้านับแบบเวลาราชการ ผมน่าจะทำงานให้ที่นี่ประมาณ 15 ปีได้ ผมเคยเสียโอกาสเมื่อ 5 ปีก่อนที่มีผู้เสนอให้ทุนไปเรียนปริญญาโทและเอกที่อเมริกา ด้วยเหตุผลว่าผมอยากที่จะพัฒนาโรงพยาบาลบ้านตากต่อไป การเสียโอกาสในครั้งนั้น ดูเหมือนน่าเสียดายก็จริง แต่พอทบทวนดูจริงๆแล้ว การที่ไม่ได้ปริญญาในครั้งนั้น เทียบไม่ได้กับ "ปัญญา" ที่ผมได้จากการทำงานที่บ้านตาก

                 ณ วันนี้ เป็นสำคัญของการตัดสินใจอีกครั้งในชีวิตการทำงานของผม ที่กำลังจะเปลี่ยนบทบาทหน้าที่จากผู้อำนวยการไปเป็นที่ปรึกษาของโรงพยาบาลบ้านตากในวันเวลาอันใกล้นี้

                   10 ปีกับการพยายามพัฒนาโรงพยาบาลบ้านตากได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น จากการทุ่มเทแรงกาย แรงใจ แรงสมองร่วมกับทีมงานของโรงพยาบาลและของชุมชน ณ วันนี้โรงพยาบาลบ้านตากได้รับการรับรองมาตรฐานHA,HPH,Healthy workplace,QWL,มาตรฐานสถานบำบัดยาเสพติด ได้รับการยกย่องเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ได้รับรางวัลเหรียญเงิน 5 ส ระดับประเทศ ได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 6 หน่วยงานภาครัฐต้นแบบในการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ วัฒนธรรม ค่านิยม ของ ก.พ.ร. และมั่นใจว่าสำหรับชาวบ้านแล้วบริการน่าจะดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก

                     แต่อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลบ้านตาก ก็ยังต้องมีการพัฒนายกระดับการบริหารจัดการและคุณภาพบริการอีกมากเพื่อให้เป็นโรงพยาบาลที่เป็นที่พึ่งอย่างแท้จริงของชาวบ้านตาก ให้เป็น โรงพยาบาลใกล้บ้าน ใกล้ใจอย่างแท้จริง

                    .ในช่วง 10 ปี ที่บ้านตาก ผมมักจะได้รับบทเรียนที่เป็นวิกฤติที่จะต้องลงไปแก้ไขที่เกี่ยวกับความไม่เข้าใจของผู้ป่วยและญาติหรือวิกฤตการณ์ที่เกิดในโรงพยาบาลไม่มากนัก และแก้ไขไปได้ด้วยดี

                     ในขวบปีที่ 10 นี้เอง ผมถูกเขียนบัตรสนเท่ห์(หนังสือร้องเรียนที่ไม่ลงชื่อ แต่อ้างว่าเป็นคนบ้านตาก) ส่งถึงรัฐมนตรีสาสุข ปลัดกระทรวงสาสุขและศูนย์ดำรงธรรมของผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ที่เผอิญผมแอบได้เอกสารมา เนื้อความเขียนเหมือนกันทุกอย่างยกเว้นจ่าหน้าถึงใครเท่านั้นที่เปลี่ยน ในเนื้อความนั้นกล่าวโจมตีผมว่า ไม่ใส่ใจดูแลคนไข้ ดุด่าคนไข้ จนคนไข้ไม่อยากเข้าห้องที่ผมตรวจเพราะกลัวโดนด่า .... ส่วนบรรทัดต่อๆมาก็บอกว่า ไม่ค่อยอยู่โรงพยาบาล หายไปไหนไม่รู้ ผู้ป่วยมาตรวจ อยากตรวจกด้วย ก็มักไม่พบ ชอบหนีไปบรรยาย โรงพยาบาลไม่พัฒนา... ซึ่งผมอ่านสำนวนแล้วก็พอรู้ว่าเป็นใคร ไม่ใช่ชาวบ้านตากแน่นอน 

                       เรื่องดุด่าคนไข้ ผมมั่นใจว่าไม่มีเพราะผมเคยมีบทเรียนสอนใจมาตั้งแต่จบแพทย์ปีแรกในเรื่องนี้ ส่วนเรื่องหายไปไหน ก็สามารถตรวจสอบได้จากใบเซนต์ชื่อ ใบขออนุญาตไปราชการหรือในแฟ้มประวัติผู้ป่วย เรื่องบรรยายส่วนใหญ่ผมจะรับบรรยายประมาณ 4 ครั้งต่อเดือนเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามผมก็ต้องถูกสอบถาม(ไม่ใชสอบสวน แต่ก็คล้ายๆกัน) และทางผู้บังคับบัญชาก็ต้องรายงานกลับไปให้ผู้ใหญ่ทราบว่าไม่เป็นจริงตามนั้น

                      วันนี้ ผมได้รับหนังสือจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตาก ให้ชี้แจงเรื่องที่ผมถูกร้องเรียนว่า ทางศูนย์ดำรงธรรมได้ยุติเรื่องและขอให้ทางโรงพยาบาลบ้านตากช่วยชี้แจงให้ประชาชนทราบด้วย ผมก็เลยให้สำเนาหนังสือส่งถึงอำเภอ อบต. เทศบาลทุกแห่ง โรงเรียนทุกแห่งและกำนันทุกตำบลให้ทราบ

                      ผมเชื่อมั่นในการทำความดี ถ้าผมไม่ดูแลคนไข้ ไม่ทุ่มเทให้กับโรงพยาบาล ในสภาพที่มีผมอยู่ประจำทั้งปีเพียงคนเดียว ส่วนแพทย์อีก 3-4 ท่าน จะหมุนเวียนกันมาคนละช่วงละ 2-3 เดือนอยุ่หลายปี ก็ไม่น่าเชื่อว่าโรงพยาบาลจะพัฒนามาได้ขนาดนี้

                     ที่เล่ามาให้ฟัง ก็เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจคนทำงานว่า สิ่งที่เราทำไป คนแต่ละคนสามารถมองได้หลายแบบ มองว่าดีก็ได้ มองว่าไม่ดีก็ได้ ถ้าถือเอาคำพูด คำด่าของคนมาใส่ใจมากๆ เราอาจไม่กล้าทำอะไรเลย คนที่ไม่เคยผิดพลาด คือคนที่ไม่ทำอะไรเลย  หรือถ้าเราทำสิ่งดี แต่ไปขัดผลประโยชน์ของคนบางคน เขาก็สามารถพูดขาวให้เป็นดำได้

                      ก็ขอส่งกำลังใจให้คนทำงาน(จริง) ทุกท่าน ที่อาจจะพบเจอเรื่องแบบนี้ ก็อย่าได้ท้อและสู้ต่อไปครับ 

หมายเลขบันทึก: 97263เขียนเมื่อ 19 พฤษภาคม 2007 23:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)

อาจารย์ พิเชฐ ที่รัก นับถือ

พี่เชื่อว่ามีคนไม่หวังดีกับ อาจารย์จำนวนน้อยมาก

 พี่เชียร์ อาจารย์เต็มที่ แต่จะไปไหนคะ 

 อาจารย์ เป็นสมบัติอันมีค่ายิ่งของ โรงพยาบาลบ้านตาก ของ จังหวัด ของประเทศ ของโลก ติดตามงานของอาจารย์ ยังภูมิใจแทนทุกครั้ง

วิดิโอบ้านตาก เพิ่งไปหามา ยัง กอปี้ แจกต่อ เป็นการขยายสิ่งดีๆ ที่อาจารย์ ตั้งต้นทำ

เห็นใจ และอยากเป็นกำลังใจค่ะ

 

อรุณสวัสดิ์ยามเช้าๆ...ค่ะ..

กะปุ๋มเชื่อในตนเองอย่างหนึ่งว่า... "รู้ตัว"...ว่าตนเองนั้นทำอะไร เพราะอะไรจึงทำเช่นนั้น... รับรู้ในตนเองอยู่เสมอ อย่างไม่เลื่อนลอย ... แต่หากพอมีใครเข้าใจหรือไม่เข้าใจ จะไม่ค่อยเสียเวลากับสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เพราะเวลาที่ทำบางสิ่งบางอย่าง เราชัดเจนในเจตนาของเรา... สิ่งที่ดีและไม่ดีจึงไม่ค่อยมามีอิทธิพลเหนือจิตใจเราเท่าไร...

หากเราได้เต็มที่ในบางสิ่งบางอย่างและชัดเจนในเจตนาที่ดีงามของเรา..กะปุ๋มก็มองว่า..เส้นทางที่เราเลือกเดินเลือกทำนี้...ก็มั่นคงด้วยความเชื่อมั่นของเราพอสมควรนะคะ

เป็นกำลังใจค่ะ

(^____^)

กะปุ๋ม

.....

ฝากความระลึกถึงทุกคนด้วยนะคะ...เด็กๆคงเปิดเทอมกันแล้วนะคะ

อาจารย์หมอครับ

เข้าใจในการวิถีการทำงานเพื่อสังคมครับ ซึ่งเหตุการณ์ที่หมอพบเจอ เป็นเรื่องธรรมดา และธรรมดา แต่คนที่เจอก็รู้สึกไม่ดีได้ เพราะความตั้งใจที่มีอยู่เต็มเปี่ยม

ผลงาน และเรื่องราวที่ผ่านมาการันตีได้ว่าเป็นอย่างไร ประกอบกับผมได้ติดตามเรียนรู้จากคุณหมอมาโดยตลอด คุณหมอได้มีคุณูปการต่อวงการแพทย์สาธารณสุข ตลอดจนการพัฒนาสังคม เป็นต้นแบบของจิตสาธารณะที่ผมชื่นชม เป็นต้นแบบในใจ

กระผมก็ชอบในข้อเขียนของคุณกะปุ๋มด้านบน พร้อมกันนี้ขอให้กำลังใจคุณหมอและคนทำงานเพื่อสังคมทุกท่านครับ

ขอเป็นกำลังใจให้คุณหมอพิเชฐค่ะ ขอให้คุณหมออดทน ผลงานที่ปรากฏจะเป็นเครื่องยืนยันและสำคัญกว่าคำพูดคำกล่าวหาต่างๆ เมื่อรู้ว่ามีคนไม่หวังดีกับเรา อาจจะรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง แต่อย่ารู้สึกนานและอย่าเสียกำลังใจค่ะ

ตามดร.Ka-Poom เข้ามาค่ะ

ดิฉันเองก็ได้สรุปกับตัวเองมานานแล้วเหมือนกันว่า คนที่ไม่เคยมีปัญหาใดๆ ในการทำงาน คือคนที่ไม่ได้ทำงานค่ะ

บางทีการทำงานมาก และทำงานดี อาจทำให้ใครบางคนไม่ชอบ เพราะเกินหน้าเกินตา เพราะแน่นอนว่าการทำงานมากจะกระทบกับคนที่ไม่ทำงาน

แต่ความจริงก็คือความจริงค่ะคุณหมอ แม้ว่าจะมีคนพยายามทำให้บิดเบี้ยวไปขนาดไหน... ยังไงทองก็ยังเป็นทองค่ะ

ขอบคุณค่ะ

เข้าใจ และเชื่อมั่น ในความตั้งใจ ที่ดี

การเป็นผู้บริหารที่ดีโดยเฉพาะ งานในระบบบริการสาธารณสุข  เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย ที่สำคัญจะหาคนที่ตั้งใจจริง  และเป็นคนดี มาทำยิ่งยาก

ให้กำลังใจคุณหมอนะครับ  เดินหน้าต่อไป

เชื่อในความมุ่งมั่น และตั้งใจของคุณหมอครับ
ขอเป็นกำลังใจให้คุณหมอ และ คนทำงานอย่างตั้งใจจริงทุกท่านครับ

ขอบคุณทุกท่านครับ

สวัสดีครับพี่หมอ

  • อยากให้พี่หมอมีกำลังใจต่อไปครับ
  • อย่าท้อถอยนะครับ
  • คนที่คิดและเขียนเช่นนี้คงเป็นคนส่วนน้อยมากๆๆ  หรือไม่เขาก็คงมีมิจฉาทิฏฐิสุดๆครับ  คนที่ดีก็ต้องดีตลอดไปและเกิดแต่สิ่งดีๆครับ  คนที่มาเขียนตอนนี้เขาอาจจะไม่รู้ไม่เข้าใจ  แต่วันข้างหน้าเขาอาจจะพัฒนาระดับความดีงาม  จนสามารถเข้าใจในความดี  ความจริง  และความงามของพี่หมอได้ครับ
  • เสียดายแทนคนบ้านตากและชาว รพ.บ้านตากมากๆครับ ถ้าหากอาจารย์ต้องไปทำงานที่อื่นๆ  เพราะว่าอกุศลจิตของคนๆเดียว  ไม่คุ้มกันเลยครับ
  • น.พ.สุพัฒน์    รพ.ปาย
  • ไม่ได้มาเยี่ยมคุณหมอพิเชฐ นานแล้วจริงๆ
  • วันนี้แวะมาให้กำลังใจคนทำงานครับ
  • รพ. บ้านตาก ดังไปทั่วประเทศ (ทั่วโลกด้วย)
  • เพราะทีมงาน ที่คุณหมอสร้างขึ้นมาครับ
  • ความจริงก็คือความจริงวันยังค่ำครับ...

สวัสดีค่ะ...อืม!.....ทีมงานเข้มแข็ง...ไม่ได้นอนหลับตาและเกิดได้ชั่วข้ามคืน...เป็นกำลังใจค่ะ ตามอ่านงานของอาจารย์ นำมาประยุกต์ใช้บ่อยๆ ค่ะ

เข้ามาให้กำลังใจครับ

ผมไม่เคยเจอตัวคุณหมอครับ รู้จักจากหมอบุญส่ง

ได้เห็นการเติบโตของโรงพยาบาลบ้านตากแล้วชื่นใจแทนคนที่นั่นจริงๆ 

นกมีโอกาศได้ดูการพัฒนาของโรงพยาบาลบ้านตาก จาก ดร.ประพนธ์ นะคะเขาเปิดการพัฒนาของโรงพยาบาลให้ดู นกขอให้คุณหมอสู้ๆนะคะ เพื่อประชาชนที่ยากจนอีกมากมายที่ต้องการคุณหมอคะ

พึงชนะความโกรธด้วยความไม่โกรธ พึงชนะความชั่วด้วยความดี พึงชนะความตระหนี่ด้วยการให้ พึงชนะความเหลวใหลด้วยความสัตย์จริง แวะมาเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจ ชาวโรงพยาบาลปาย เอาใจช่วย อย่าท้อ อย่าถอย สู้ สู้ และสู้ต่อไป อย่าเสียกำลังใจนานนะคะ

พี่หมอสู้ๆครับ

ไม่มีใครรักเราหรือชอบเราทุกคนหรอกครับ อย่าให้ 1 เสียงหรือ คนเพียงไม่กี่คน ทำให้เราเสียกำลังใจในการทำงานไปครับ

มีอีกตั้ง 99.99999999999999999999999............ ที่ชื่นชอบและยกย่องการทำงานของพี่ครับ..โดยเฉพาะผม ^_^ 

สู้ๆครับผม

(ผมมักจะเอาพี่ไปอวดกับพี่ๆน้องๆที่ผมรู้จักบ่อยๆ...เื่รื่องการพัฒนาโรงพยาบาล )

สวัสดีค่ะอาจารย์หมอพิเชษฐ์

  • มาร่วมโหวต เอ้อ..บอกว่าคุณหมอเป็นบุคคลคุณภาพจริงๆค่ะ
  • อาจารย์หมอไปทำงานที่ไหน ที่นั่นย่อมมีคุณภาพตาม
  • ยินดีกับตำแหน่งใหม่ด้วยค่ะ

ประสบการณ์ดี ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงรับรับสั่ง

ให้กำลังใจในการทำงานและการดำรงชีวิต องคมนตรีสุเมธ ท่าน เล่าให้ฟังว่า

 ตอนนั้นผมกำลังทำงานอยู่ในสภาพที่แย่มากมันไม่มีกำลังใจจะทำอะไรท้อแท้กับการงานมาก    ไ ม่มีใครเข้าใจ    เหมือนทำดีแต่ไม่ดี

ในหลวงท่านทรงเสด็จมาพอดีและท่านได้เห็นสีหน้า     ไม่สู้จะดีท่านได้สอบถามจนได้ความว่าผมกำลังท้อแท้กับงานท่าน  

   จึงตั้งคำถามและรับสั่งว่า    ท่านสุเมธเคยขายเศษเหล็กไหมเศษ เหล็ก  เหล่านั้น เวลาขาย คุณค่าของมันต่ำมากคงได้เงินมาไม่กี่บาท

แล้วถ้าเราเอาเศษเหล็กนั้นมาหลอมรวมกันเป็นแท่งเวลาหลอมนี่     เหล็กมันคงรู้สึกร้อนมาก

พอหลอมเสร็จเรานำมาทำเป็นดาบคง    ต้องนำมาตีให้แบนอีกเวลาตีก็ต้องคอยเอาไปเผาด้วย ต้องตีไป   เผาด้วยอยู่หลายรอบกว่าจะเป็นรูป เป็นร่างดาบอย่างที่เราต้องการ

ต้องผ่านความเจ็บปวด ความร้อนอยู่นานแถมเมื่อเสร็จแล้ว    ถ้าจะต้องสวยงามดังใจก็ต้องนำไปแกะสลักลวดลายด้วย

เวลาที่ แกะสลักลวดลายก็คงต้องใช้ของแข็งมีคมมาตีให้เป็นลวดลายอีก

แต่เมื่อเสร็จเป็นดาบที่งดงามจะมีคุณค่าที่สูงมากเทียบกับเศษเหล็ก   คงจะต่างกันลิบลับจะเห็นว่ากว่าที่เศษเหล็กไม่มีคุณค่ามากนัก  จะ กลายเป็นดาบอันงดงามนั้นต้องผ่านอุปสรรคมากมาย

ผ่าน ความเจ็บปวดต่างๆ กว่าจะประสบความสำเร็จดังนั้นขอให้จำ      ไว้อย่างหนึ่งว่า ใครไม่เคยถูกตี ถูกทุบ เจอเรื่องเลวร้ายในชีวิต     มาเลยนั้นจง อย่าได้หาญคิดทำการใหญ่

             ผมขอขอบพระคุณทุกท่านที่ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น ให้กำลังใจ ให้ข้อชี้แนะที่เป็นประโยชน์อย่างมากครับ

            ตามที่ผมได้เขียนไว้ในบันทึก ผมไมได้ท้อ เรื่องร้องเรียนนี้ไม่ได้ทำให้ผมท้อจนถอยครับ ผมเขียนเผื่อใครที่เจอแบบนี้จะได้มีกำลังใจว่าเรื่องแบบนี้ใครๆก็เจอได้

            ผมคิดว่า ไม่ว่าจะอยุ่ที่ไหน ก็ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้ ถ้าเราตั้งใจจะทำครับ

สวัสดีค่ะ คุณหมอพิเชษฐ์ หมอดีที่โลกต้องการ ครูแมวเพิ่งมีโอกาสเข้ามาเรียนรู้ ขอกราบคารวะค่ะ เมื่อ4-6พค.ได้มีโอกาสมาทำกระบวนการสร้างสุขในองค์กรที่โรงเรียนบ้านตากประชาวิทย์ ครูบ้านตากกำลังทำโครง การสร้างสุขภาวะในโรงเรียนโดยใช้เวทีเรียนรู้ครูพ่อแม่ลูกนักเรียนทุกระดับชั้นเป็นการขับเคลื่อน อยากเรียนเชิญคุณหมอกับคณะไปร่วมกระบวนการด้วยค่ะ

นายเศรษฐพร เบญจศรีรักษ์

    - มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นกับคุณหมอจริงหรือ ไม่น่าเชื่อ ไม่ใช่ไม่เชื่อคุณหมอคุณหมอนะ แต่ผมได้มีโอกาสอยู่ร่วมกับคุณหมอตั้ง 4 เดือน ผมมีความรู้สึกว่าคุณหมอเป็นคนที่ดีมากๆ เป็นคนดีของสังคม นักเรียน 106 คน คุณหมอเป็นนักเรียนดีเด่น ลำดับที่ 1 (นปส.55 : นักปกครองระดับสูงรุ่นที่ 55 มหาดไทย) แถมเป็นที่ 1 บุคคลยอดนิยมของพวกเราด้วย แล้วเป็ยังงี้ได้งัย ...ไม่เชื่อ ไม่เชื่อเด็ดขาด

... ไม่เป็นไร เชื่อเหอะ คนดี ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ผมเองก็ยึดถือคำนี้มาโดยตลอด ทำความดีต่อไป ไม่ใช่เพื่อใคร เพื่อตัวเราเองนี่แหละ ที่บอกว่าเพื่อตัวเองเพราะว่า เรามีความสุขเมื่อได้ทำความดี ได้ทำเพื่อคนอื่น ทำเพื่อสังคม แบบนี้นี้แล้วจะไม่ทำให้ตัวเองมีความสุขได้อย่างไร ใช่มั๊ยคุณหมอ...

                  ...เสือแบน...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท