เมื่อก่อน เป็นคนสมุทรสาคร เกิดที่ รพ.ศิริราช ตอนนี้เป็นคนอุบล แต่สรุปแล้วเป็นคนไทย
ตอนเด็กเรียนปานกลาง วันหนึ่งตอน ม.3 ที่ รร.สมุทรสาครวิทยาลัย อ่านหนังสือแบบเรียน ภาษาไทย มีเรื่องหนึ่ง ชื่อ " พระที่แท้จริง " เป็นคำสอนของ หลวงพ่อปัญญานันทะภิกขุ เป็นแรงบันดาลใจที่เปลี่ยนชีวิตโดยสิ้นเชิง เข้าใจความจริง และพบว่าทุกอย่างอยู่ที่การลงมือทำด้วยตนเอง
สอบเข้าเตรีมอุดมศึกษาได้ เพราะ " พระที่แท้จริง " แท้ๆ เชียว ทุกวันนี้ หลวงพ่อปัญญาฯ ท่านอายุ 96 ปีแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ก่อน ผมยังได้ยินท่านเทศน์ ที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยอยู่เลย เสียงแหบแห้งมาก แต่ เรื่องที่เทศน์ยังแจ่มใส เหมือนเดิม ได้แม่แบบ
" ตัวอย่างที่ดี มีค่ากว่าคำสอน " จากหลวงพ่อนี่แหละครับ ท่านมีปณิธาน ว่าจะสอนธรรมะ จนกว่าจะหมด ลม หมด แรง เพราะเป็นพันธกิจของพระสงฆ์ ที่ต้องทำให้คนเรา มีปัญญา มีคนถามว่าจะเป็นหมอไปถึงเมื่อไหร่ ผมบอกว่าเป็นไปเรื่อย ๆ ( จนกว่าจะหมดแรง )
จบคณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล รุ่น 95 อาจารย์ถามตอนสอบสัมภาษณ์ว่าทำไมเลือกศิริราช จะตอบว่าเกิดที่ศิริราช ก็ กระไรอยู่ ตอบไปว่า " เลือกศิริราช เพราะ ขลังดี ครับ " อาจารย์บอกว่า ถ้าอยากขลังให้ไปอยู่วัดโพธิ์จะดีกว่า
จบมาอยู่ บุณฑริก อุบล ฯ เลือกเพราะอยู่ตรงขอบขวาน ประเทศไทยดี
รู้ตัวว่า เหมาะกับเป็นหมอรักษา คนไข้ ธรรมดา ๆ ไม่เหมาะกับการเป็นผู้อำนวยการ ( ตามกฏของ ปีเตอร์ บอกว่า คนคนหนึ่งจะเหมาะกับการทำงานระดับหนึ่ง ถ้าเลื่อนระดับเพราะเห็นว่า มีความสามารถ ทำงานดี เราอาจจะได้ผู้อำนวยการที่ไม่ได้เรื่อง หนึ่งคน แล้วก็เสียหมอที่ มีความเหมาะสมกับการเป็นหมอไปหนึ่งคน ) ประกอบกับทัศนคติส่วนตัว ว่าหมอก็ต้องรักษาคนไข้ ผมรู้สึกว่าถ้าเป็นผู้อำนวยการนานเข้า บริบทจะบังคับให้เรา ไม่ได้เจอคนไข้อีกเลยในอนาคต เลยลาออกจาก ผอ.ทุกปี จน สสจ.เห็นหน้าก็รู้ว่ามาทำไม แต่ก็ต้องจำเป็น ผอ.อยู่หลายปี
ด้วยจริต ดังกล่าว ตอนนี้เลยมีความสุข มากกับงาน เวชศาสตร์ครอบครัว งาน primary care