คุณหมอค่ะ

คิดได้อย่างนี้ ก็สบายใจดีค่ะ  ถึงเราโกรธไป คนขับรถมอร์เตอร์ไซต์ก็ไม่รู้หรอกใช่ไหมค่ะ มีแต่เราที่หงุดหงิด อารมณ์ไม่ดีอยู่ฝ่ายเดียว 

คิดว่าให้อภัยเขา จะสบายใจกว่านะค่ะ

ไม่นึกว่าอ.เต็มจะโกรธใครเป็น

วันก่อนถาม ลูกชาย สองคน แต่ไม่พร้อมกันว่า 

สิ่งที่เราควรฆ่าทิ้งจากใจของเราคืออะไร?

ทั้งสองคนตอบเหมือนกันว่า   ความโกรธ 

ครั้งแรกที่ได้ยินคำตอบก็ทึ่งและประหลาดใจ ตอบได้ไง อายุ 9และ12 ปี

เลยถามต่อว่า ทำไมหละ?

เขาก็บอกว่า  ความโกรธทำให้เราไม่สบายใจ เศร้า  ไม่มีความสุข

     หากท่านไม่อยากทุกข์ก็ขอให้ ละ วาง ความโกรธ  ซะเถิด

อาจารย์หมอเต็มครับ...ความรู้สึกคล้ายผมเลย(สงสัยเป็นเพราะถนัดซ้ายเหมือนกัน...อิอิ

เมื่อก่อนผมโดนแซงปาดไปปาดมาก็มีอารมณ์...แต่ของผมใช้วิธีนี้ครับ...ภรรยาผมบอกให้ผมนึกถึงตอนที่ขับรถแล้วปวดอึจนขนลุกขนชัน...

พอใครขับรถแซงน่าเกลียด...เธอจะบอกว่า...เขาคงปวดอึน่ะพ่อ....ตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่โกรธเขาอีกเลย...555

ดีจังครับ อาจารย์ขำ

ผมจะได้มีสองมุข เอาไว้ใช้สลับกัน จะได้ไม่เบื่อ 

ขออนุญาตยืมทั้งสองมุขเลยนะคะ  ช่วยได้เยอะเลย  ตอนขับรถดิฉันก็เจอบ่อยเหมือนกัน

ที่ลำบากใจอีกอย่างคือการขับมอเตอร์ไซค์ตีคู่เพื่อคุยกัน  ขณะที่เขาขับเคียงขนานและคุยกันอย่างมีความสุขนั้น  เราก็ขับรถยนตร์ตามหลังในเลนซ้ายด้วยความหวั่นวิตกทุกวงล้อ....  เพราะไม่รู้ว่าคุณ'ไซค์เขาจะปัดเป๋มาตอนไหน  ในขณะที่รถเลนขวาก็ห้อตะบึงมาด้วยความเร็วสูง.....  หลบซ้ายก็เจอ  หลบขวาก็เจอ...

ไม่รู้ว่าคุณมอเตอร์ไซค์เขาจะคิดถึงใจคนที่ตามหลังอยู่บ้างไหมหนอ.... 

• ขอบคุณที่ได้วิธีระงับโกรธจากคุณหมอ
• ขออนุญาตนำไปใช้ ไม่หวงลิขสิทธิ์ใช่มั้ยคะ

มุขคิดทั้งของ อ.เต็มศักดิ์ และ นายขำ  เป็นกุศโลบายที่น่าสนใจมากครับ

  สวัสดีค่ะ อาจารย์เต็มศักดิ์

          ขอนำไปใช้บ้างนะคะ ดิฉันจะโมโหเวลาที่ไปไม่ทันไฟเขียว แต่ก้มานึกดูเออแฮะ ไม่รู้จะรีบไปไหนนะ ให้คนรีบๆไปกันเถอะ ขับสบายๆ สบายใจกว่ากันเยอะเลย

บันทึก:       เมื่อเมตตา “เขา” ก็เท่ากับเมตตาตัว “เรา” เอง
ผู้บันทึก:   ดร. ประพนธ์ ผาสุขยืด